- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 December 2016 17:06
- Hits: 1305
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> AU, COM7, KSL
Stock S R Comment
AU 12.80 14.50 ระดมทุนขยายเป็น 30 สาขา
COM7 12.70 13.40 โค้งสุดท้าย Shop ช่วยชาติ
KSL 5.10 5.75 ราคาน้ำตาลโลกพุ่ง
LTF/RMF analysis
เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของตลาดหุ้นไทยในปี 2559 ซึ่งเราคาดว่า SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบตามปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง สำหรับปัจจัยที่อาจเข้ามาช่วยพยุงตลาดได้บ้างในโค้งสุดท้ายนี้ได้แก่เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน LTF/RMF เพื่อลดหย่อนภาษี อย่างไรก็ดีเรามองว่าไม่น่าจะมีนัยสำคัญมากนัก เนื่องจาก
1) ทางเลือกในการลดหน่อนภาษีในมิติอื่นที่มีมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงหลัง อาทิ การลดหย่อนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว และมาตรการช้อปช่วยชาติ อาจทำให้ความน่าสนใจในการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีลดลง
2) การขยายระยะเวลาการถือครองกองทุน LTF จาก 5 ปีปฏิทินไปเป็น 7 ปีปฏิทิน อาจลดแรงจูงใจในการเข้าซื้อกองทุนของกลุ่มคนบางส่วน
3) Valuation ของตลาดหุ้นไทยไม่ได้อยู่ในระดับถูก ดังนั้นเม็ดเงินที่ปกติอาจจะไหลเข้าสู่กองทุน RMF ตราสารทุน อาจเลือกไปลงทุนในตราสารอื่นแทน
4) ถึงแม้ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุน LTF/RMF จริง แต่นักลงทุนสถาบันอาจเลือกถือเงินสดไว้ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการไถ่ถอนกองทุน LTF/RMF ที่ครบกำหนดอายุในช่วงต้นปีหน้า
โดยจากการคำนวณของเราพบว่าต้นทุนของผู้ที่เข้าซื้อกองทุน LTF เมื่อปี 2556 ซึ่งจะมีสิทธิ์ไถ่ถอนกองทุนได้ในปี 2560 มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ SET Index 1400 จุด ซึ่งหากเทียบเคียงกับดัชนีระดับปัจจุบัน จะพบว่ามีกำไรจากการถือครองแล้วประมาณ 7.4% ทั้งนี้ จากการใช้โมเดลของเราคำนวณพบว่าที่กำไรระดับนี้ น่าจะมีการไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุในช่วงต้นปีหน้าประมาณ 15.7% ของยอดสั่งซื้อทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปี 2556 ซึ่งอยู่ประมาณ 46,000 ล้านบาท ดังนั้นคาดการณ์เม็ดเงินไถ่ถอนที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้าประมาณ 7,300 ล้านบาท
จากแรงกดดันการไถ่ถอนกองทุนนี้ ทำให้เราคาดว่าเดือนมกราคมน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีอีกครั้งของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เนื่องจากน่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าหุ้นขนาดใหญ่ (ในอดีตกองทุน LTF ส่วนใหญ่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่) เมื่อประกอบกับกระแส Fund flow ที่มีแนวโน้มยังไม่ไหลเข้ามาในช่วงอันใกล้ ทำให้เราประเมินว่าหากจะต้องเลือกถือหุ้นในพอร์ท หุ้นขนาดกลาง-เล็กก็น่าจะมีความปลอดภัยที่มากกว่า แต่จำเป็นต้องเลือกหุ้นที่ระดับ PE ยังไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตในอนาคต เพื่อป้องกันแรงกดดันที่อาจเกิดจากปรากฏการณ์ PE contraction ในช่วงถัดไป ซึ่งหุ้น Top pick ของเราสำหรับปีหน้าที่เข้าข่ายดังกล่าวได้แก่ BRR, STA, SMT, SVI, SEAFCO
แนวรับ 1,497 แนวต้าน 1,520
บทวิเคราะห์วันนี้
Forex Weekly Alert
Today's Event
AF XD 0.013 บาท
BCPG XD 0.15 บาท
PPM ลูกหุ้นเข้า 80,000,000 หุ้น
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]