- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 December 2016 17:21
- Hits: 3084
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
คาดยังผันผวน? คาดการเคลื่อนไหวอยู่ในลักษณะเดียวกับวานนี้ โดยคาดยังอิงไปทางลง ภายใต้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ล่าสุดที่มีทั้งบวก/ลบ ขณะที่ค่าเงินสหรัฐฯ ยังแข็งค่า คาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และคาดส่งผลต่อ (1) ราคาสินค้า Commodity ที่ซื้อขายในรูปเงินสหรัฐฯ มีราคาลดลง แต่ในทางตรงข้ามคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย และ (2) ภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาด EM รวมถึงไทย ล่าสุดต่างชาติ ขายสุทธิต่อเนื่องอีกเกือบ 800 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าซื้อขายลดลงเหลือเพียง ประมาณ 27,000 ล้านบาท
ทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่เพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีรายได้ทุกกลุ่มในช่วงปลายปีทั้งเงินช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย และมาตรการหนุนการบริโภค รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ คาดผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มโรงแรม เช่น HMPRO, CPN และ ERW เป็นต้น และหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันทั้ง WTI, Brent และ DUBAI ล่าสุดเคลื่อนไหวในระดับ 52 – 54USD
ขณะที่แนะติดตาม (1) แรงซื้อของสถาบันในประเทศ ที่คาดชดเชยแรงขายสุทธิต่อเนื่องของต่างประเทศได้บ้าง และ (2) Window Dressing ในช่วงสิ้นปี’59
อย่างไรก็ตามคาดในระยะกลาง – ยาว คาดได้รับปัจจัยหนุนจากมุมมองการเติบโตเศรษฐกิจของไทยที่คาดมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับในปี’60 ภายใต้แผนการลงทุนของภาครัฐ ที่คาดมีต่อเนื่อง ซึ่งคาดเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนจากภาคเอกชน โดยกระทรวงการคลัง คาด GDP ในปี’60 เติบโตในกรอบ 4.4 – 4.5% ดีขึ้นจากปี’59 ที่คาดอยู่ที่ ประมาณ 3.3 – 3.5%
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
SET SET50 SET100
1,504.12 -4.45 938.60 -1.70 2,119.89 -4.71
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -23.08, NASDAQ -24.01, S&P -4.22,FTSE +22.26, CAC +0.81 และ DAX -12.54
หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ (+) ประมาณการขั้นสุดท้าย GDP – 3Q/59 อยู่ที่ 3.5% สูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งอยู่ที่ 2.9% และ 3.2% ขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภค - พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% โดยรายได้ส่วนบุคคล – พ.ย. ทรงตัว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนที่รายได้ไม่มีการปรับตัวขึ้น และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน – พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.9% หลังเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อต.ค.
(-) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุด เพิ่มขึ้น 21,000 ราย อยู่ที่ 275,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่มิ.ย. ที่ผ่านมา และสูงกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 256,000 ราย นอกจากนี้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.นี้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ยังคงมีความกังวลเกี่ยวเสถียรภาพของภาคธนาคารอิตาลี หลังผู้บริหารของธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena (BMPS) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลี ระบุว่า ธนาคารยังคงไม่สามารถหานักลงทุนที่จะเข้าซื้อหุ้นของทางธนาคาร ตามแผนการระดมทุนมูลค่า 5 พันล้านยูโร
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$0.46 อยู่ที่ US$52.95 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างต้น ที่คาดช่วยหนุนความต้องการน้ำมันให้เพิ่มขึ้น
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.11 1.91 3.12
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 27,004.24
สถาบัน -378.28
บัญชีหลักทรัพย์ -249.85
ต่างประเทศ -786.34
ในประเทศ 1,414.46
ราคาทองคำ(COMEX)ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$2.5อยู่ที่US$1,130.7 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างต้น รวมถึงค่าเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่า ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ-786 ล้านบาทสะสม YTD +71,505 ล้านบาท(ปี’57 และ58 ยอดขายสุทธิสะสม36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาทตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม23 - 26 ธ.ค. 2559
23/12/59 สหรัฐฯเปิดเผย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนธ.ค.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.
26/12/59 ไทย- ก.พาณิชย์เปิดเผยยอดส่งออก–พ.ย. (คาดเพิ่มขึ้น1.55%yoy)
(6) กลุ่มค้าปลีกเช่นCPALL, HMPRO, KAMART และROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มขนส่งในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ10 ปี+0.01 อยู่ที่2.55% (ระดับสูงสุด3.77% เมื่อกพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง(VIX) +0.16 อยู่ที่11.43
หุ้นแนะนำ: MALEE