- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 December 2016 17:32
- Hits: 1008
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : AMA (FirstDayTrade)
Our Portfolio Dec 2016 : BEAUTY, BEM, CK, HMPRO, MINT
แม้ SET ยังอ่อนตัวแต่ก็มีแรงซื้อหนุนได้ดี ดังนั้นยังน่าถือรอขึ้นตามเป้า
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงลบตามตลาดหุ้นเอเชียที่ยังแกว่งผันผวนและมีจังหวะอ่อนตัวอยู่ เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่แรงส่งจากการขยับบวกของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ชะลอลง หลังนักลงทุนรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจาก EIA อีกครั้ง อย่างไรก็ตามในระหว่างวันSET ยังมีแรงซื้อช่วงลบ ช่วยพยุงให้ดัชนีมีลักษณะทรงตัวได้บ้าง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศยังค่อนข้างผันผวน โดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่กลับมาปิดเป็นลบ ซึ่งได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารของอิตาลี หลังธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลีออกมายอมรับว่าถ้าไม่สามารถเพิ่มทุนได้ อาจดำเนินธุรกิจต่อได้อีกเพียง4 เดือนเท่านั้น รวมทั้งการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบโลก จากการที่ EIAรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง แต่กรอบการปรับตัวลงของตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ยังค่อนข้างจำกัด คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่ใกล้จะติดช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ ทำให้แรงขายมีโอกาสเบาบางลง ดังนั้น FSS ยังคาดว่า SET จะมีกรอบลบจำกัด และลุ้นรีบาวด์กลับไปขยับบวกจากแรงซื้อLTF/RMF ในช่วงท้ายปีได้อยู่
กลยุทธ์ : ยังแนะนำให้รอแบ่งส่วนทำกำไรช่วงดัชนีเข้าใกล้เป้าหมายต่อไป
แนวรับ 1507-1505 , 1502-1500 จุด
แนวต้าน 1512-1515 , 1518-1522 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CHEWA , GUNKUL , TTCL(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$136ล้าน นำโดยไต้หวัน US$172ล้าน และไทย US$72ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$108ล้านและอินโดนีเซีย US$11 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคตามราคาน้ำมันที่ดิ่งลง 1.5% เมื่อคืนนี้และความกังวลต่อฐานะทางการเงินของภาคธนาคารอิตาลี
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) กนง.คงดอกเบี้ย มองความเสี่ยงในต่างประเทศมีมากขึ้น กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 1.5% ตามตลาดคาด และคงประมาณการ GDP ปี 2016 และ 2017 ที่3.2% เท่ากัน แต่มองว่าความเสี่ยงโลกเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ความไม่แน่นอนเรื่องการเมืองในยุโรป และปัญหาภาคการเงินในจีน ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนถูกกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญมากกว่าคาด
• (+) AMA ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือและรถ สินค้าที่ขนส่งทางเรือส่วนใหญ่คือน้ำมันปาล์ม ให้ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย ไปประเทศต่างๆในเอเชียส่วนธุรกิจขนส่งทางรถส่วนใหญ่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้ PTG การขยายกองเรือและรถกว่าเท่าตัวในปี 2017-18 และเพิ่มเส้นทางขนส่งสินค้าขากลับของทั้งเรือและรถเพื่อลดจำนวนเที่ยวเปล่า ทำให้คาดกำไรสุทธิปี 2017-18 โตเฉลี่ยสูงถึง 45% ต่อปี ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2017 ได้ 15.10 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ AMA)
• (+) รฟม.สรุปเจรจาสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกับ BEM แล้ว จากนี้ใช้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 3 เดือนในการพิจารณาในขั้นของสคร., รมว.คมนาคม, และครม. ทั้งนี้ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะให้เวลาสัมปทาน 33 ปี (3 ปีแรกเป็นงานก่อสร้าง) สิ้นสุดปี 2050 และขยายเวลาสัมปทานของสีน้ำเงินปัจจุบันถึง 21 ปีให้มาสิ้นสุดในปี 2050 เท่ากัน จากเดิมที่สิ้นสุดปี 2029 เรายังแนะนำซื้อ BEM ราคาพื้นฐาน 12 บาท ส่วนการเดินรถ 1 สถานี บางซื่อ-เตาปูน จะเป็นการว่าจ้าง BEM ให้เป็นผู้เดินรถ จะนำเข้าครม.อังคารหน้า ถ้าผ่าน จะเซ็นสัญญาภายในสิ้นปีนี้
• (0) สินเชื่อ พ.ย. +0.5% M-M TMB มีสินเชื่อโตดีสุด +1.36% M-M ส่วนกลุ่มธนาคารเช่าซื้อมีสินเชื่อโตดีสุดในรอบเกือบ 2 ปี รวม 11M16 สินเชื่อของกลุ่ม +0.9%YTD คาดทั้งปีน่าจะ +1% Y-Y กำไร 4Q16 ของกลุ่มน่าจะชะลอ Q-Q ตามฤดูกาล Toppick ในกลุ่มยังเป็น SCB (ราคาพื้นฐาน 174 บาท) และ KKP (พื้นฐาน 71 บาท)
• (+) ยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ย. กลับมา +6% M-M, +5% Y-Y ตามยอดขายในประเทศที่ฟื้น แต่ยอดส่งออกยังหดตัวตามกำลังซื้อในประเทศแถบตะวันออกกลาง สำหรับยอดผลิตรถ 11M16 เพิ่มเพียง 2.7% Y-Y เป็น 1.8 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้าของส.อ.ท.ที่ 2ล้านคันแน่นอน ส่วนปีหน้าตั้งเป้า 2 ล้านคันเท่าเดิมแต่ยังยาก เรายัง Underweight กลุ่มยานยนต์ แต่ EPG (ราคาพื้นฐาน 16 บาท) ที่แม้จะอยู่กลุ่มวัสดุก่อสร้างแต่รายได้ 42%มาจากการผลิตชิ้นส่วนพลาสติดยานยนต์ ยังสดใส เราแนะนำซื้อ
• (+) ตลท.เพิ่มดัชนี sSET Index เริ่มใช้ 4 ม.ค. 2017 จะทบทวนรายชื่อทุก 6 เดือนเหมือน SET50/SET100 ดัชนีใหม่เป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่อยู่นอกเหนือ SET100 (ไม่รวมหุ้นใน mai) ไม่จำกัดจำนวนแต่ต้องมี free float ไม่ต่ำกว่า 20% และมีสภาพคล่องในการซื้อขายตามเกณฑ์ เบื้องต้นคาดมี 102 หลักทรัพย์ การมี sSET Index ยิ่งทำให้หุ้นขนาดกลาง-เล็กได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกเพราะนักลงทุนโดยเฉพาะสถาบันจะมีดัชนีอ้างอิงในการเปรียบเทียบผลตอบแทนและเพื่อออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 ธ.ค. - ไทย: AMA เข้าเทรด (ราคา IPO 9.99 บาท)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- สหรัฐ: 3Q16 GDP (ตัวเลขสุดท้าย ตลาดคาดดีขึ้นเล็กน้อยจาก
3.2% เป็น 3.3%)
23 ธ.ค. - ไทย: AU เข้าเทรด (ราคา IPO 4.50 บาท)
26 ธ.ค. - ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.)
27 ธ.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราใช้กำลังการผลิต (พ.ย.)
30 ธ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
1 ม.ค. - จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ธ.ค.)
2 ม.ค. - ไทย: Business Sentiment Index (ธ.ค.)
3 ม.ค. - สหรัฐ: ISM Manufacturing (ธ.ค.)
4 ม.ค. - ไทย: เงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Fed Minutes from 13-14 Dec FOMC Meeting
- จีน: Caixin China PMI Composite (ธ.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบแม้ตัวเลขยอดขายบ้านเก่าจะพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยตัวดัชนียังไม่สามารถทะลุระดับ 20,000 จุดขึ้นไปได้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกันโดยนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นต่อภาคธนาคารในอิตาลีหลังธนาคารใหญ่อันดับ 3 ออกมายอมรับว่าอาจดำเนินธุรกิจได้อีกเพียง 4 เดือนหากไม่สามารถเพิ่มทุนได้
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยค่อนมาในแดนลบหลังDJIA ไม่สามารถทะลุ 20,000 จุดๆได้ ขณะเดียวกันมูลค่าการซื้อขายเริ่มเบาบางเนื้อจากใกล้วันหยุดเทศกาลคริสมาสต์
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวบริเวณ 36 บาท/ดอลลาร์บวกลบ หลังจากที่อ่อนค่าแรงในช่วง 2 วันก่อนหน้า
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 0.81 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 52.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ขยับลง 0.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,133.20 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตามแนวโน้มราคาเริ่มกลับมาปรับขึ้นได้อีกครั้งเช้านี้จากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงหลังพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปีในช่วงต้นสัปดาห์
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research