- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 December 2016 17:42
- Hits: 2565
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อสะสมหุ้นดีจังหวะอ่อนตัว'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ -10.75 จุดที่ 1511.65 จุด จากความกังวลปัจจัยภายนอก และการขายปรับพอร์ตก่อนหยุดยาวของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนสถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ ปัจจัยสำคัญช่วงนี้ ได้แก่
การประชุมกนง.วันนี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5%...เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
+/- แรงซื้อหุ้น Big Cap ของกองทุน LTF โค้งสุดท้ายปลายเดือนธันวาคม...แต่ก็มีการขายปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติก่อนหยุดยาวช่วงคริสมาสต์และก่อนปีใหม่
+/- นโยบายทรัมป์โดยเฉพาะการลดภาษีธุรกิจ 35% เป็น 15% หนุนการเติบโตกำไร...ค่าเงิน US$ แข็ง & ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่ง และเป็นบวกกับการส่งออกไทย (ไทยส่งออกไปตลาด US 11%) แต่เป็นลบกับตลาดเงินและหุ้นของประเทศเกิดใหม่
- การเมืองต่างประเทศดูวุ่นวายมากขึ้น
/- รัสเซียส่งสัญญาณว่าอาจมีการซื้อเวลาในการลดการผลิต ดังนั้นราคาน้ำมันอาจมี Upside ที่ไม่มาก
/- สิ่งที่ควรระวังในระยะต่อไป คือ การขาย LTF ที่ครบกำหนดในเดือนม.ค.2560
กลยุทธ์ : ซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีช่วงราคาอ่อนตัวเพื่อลงทุน ส่วนการเก็งกำไรเน้นซื้อค่าบวกของราคาหุ้นและดัชนี หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์วันนี้เป็น BBL
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นสัญญาณเป็นลบ ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก/หรือซื้ออ่อนตัว แนวเด้ง 1500-1490 จุด แนวต้านระยะสั้น 1520-1530 จุด
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ญี่ปุ่น : BOJ คงนโยบายการเงินและมีมุมมองเป็นบวกขึ้นกับการส่งออกและการบริโภคในประเทศ
เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.59) ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1% และคงระดับฐานเงินรายปีอยู่ที่ 80 ล้านล้านเยน ผ่านโครงการรับซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ ขณะเดียวกัน BOJ ได้ปรับเพิ่มมุมมองทางเศรษฐกิจโดยระบุว่า การส่งออกและการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนเริ่มส่งสัญญาณขยายตัว และเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวระดับปานกลาง
- รัสเซียส่งสัญญาณว่าอาจใช้เวลาปรับลดการผลิตมากกว่า 6 เดือนถ้าจำเป็น
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียอาจขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปเกินกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 หากมีความจำเป็น…บ่งชี้ว่าการปรับลดปริมาณการผลิตอาจไม่เร็ว เพราะประเทศผู้ผลิตต้องดูกันว่าประเทศอื่นมีการลดการผลิตจริงหรือไม่ และซื้อเวลาในการลดการผลิตกันแค่ไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้การลดการผลิตจะไม่เร็ว ราคาน้ำมันก็อาจมี Upside ที่จำกัด หลังสะท้อนข่าวการบรรลุข้อตกลงในการลดการผลิตของกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกไปแล้ว
ทั้งนี้กลุ่มโอเปกมีมติจะลดการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน กลุ่มนอกโอเปกลด 0.558 ล้านบาร์เรล/วัน มีผลบังคับใช้ม.ค.60 และมีระยะเวลาปรับลด 6 เดือน
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดบวกขึ้นประมาณ 0.4%
ดัชนี DJIA เมื่อคืนนี้ปิดที่ 19,974.62 จุด เพิ่มขึ้น 91.56 จุด หรือ +0.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,483.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.50 จุด หรือ +0.49% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,270.76 จุด เพิ่มขึ้น 8.23 จุด หรือ +0.36% นำโดยกลุ่มธนาคารที่นักลงทุนคาดหวังว่าคณะทำงานของทรัมป์จะช่วยฟื้นฟูภาคธนาคารขึ้นได้ และ BOJ ปรับมุมมองทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นบวกมากขึ้นโดยเฉพาะด้านการส่งออก & การบริโภคที่กระเตื้องขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ : ขยับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 52.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 55.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุนช่วงสั้น คือ คาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
- ราคาทองคำ : ร่วงลงหลังเงิน US$ แข็งค่า และตลาดหุ้นพุ่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 9.1 ดอลลาร์ หรือ 0.80% ปิดที่ระดับ 1,133.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า ตลาดหุ้นพุ่งขึ้น ตอบรับมาตรการทรัมป์ที่คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแกร่งในระยะต่อไป โดยเฉพาะประเด็นการทยอยปรับลดภาษีภาคธุรกิจจาก 35% เป็น 15%
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
วันนี้กนง.ประชุม...คาดคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5%
คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง.จะประชุมครั้งสุดท้ายของปี 59 วันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งเราและตลาดคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ทั้งนี้แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำและเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวช้า จึงน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำก่อน และเราคาดว่ากนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปตลอดปี 60 หากเศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 3% กว่าๆ ซึ่งมองว่าต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็นของเศรษฐกิจไทย
+ BBL (ราคาปิด 156 บาท) : ได้อานิสงค์จากการขยายระยะเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล & ระงับการบังคับเอาเงินค้ำประกันไทยทีวี
ธนาคารได้รับผลดีจากการที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้กทสช.ระงับการบังคับเอาเงินค้ำประกันบริษัท ไทยทีวีงวด 4-6 ที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด และนายกรัฐมนตรีใช้ม.44 ขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลและให้กองทุนวิจัยกสทช. ซึ่งทำให้สภาพคล่องในการดำเนินกิจการของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลดีขึ้น ทั้งนี้ BBL เป็นแบงค์ที่ได้ชื่อว่ามีการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการสื่อและทีวีดิจิตอลหลายราย โดยมีมูลหนี้กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)
สำหรับคำแนะนำการลงทุน BBL เราให้ซื้อสะสม เพราะธนาคารมีความโดดเด่นเรื่องความมั่นคง ส่วนการเติบโตในปี 60 จะยังไม่มาก แต่มีแนวโน้มดีขึ้นจากปีนี้เนื่องจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐและเอกชนมีความคืบหน้ามากขึ้น ทาง DBSV ประมาณการ EPS Growth ปี 60 ไว้ที่ +6% ด้าน Valuation จูงใจมาก ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 0.7 เท่า และให้ Dividend Yield ปี 60 ราว 4.5% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 180 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวานนี้ที่ 156 บาท มี Upside 15%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]