WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

หุ้นสหรัฐทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ตลาดเกิดใหม่แรงไม่เท่า
      คาดหุ้นไทยขยับขึ้นวันนี้หนุนโดยหุ้นสหรัฐที่ขึ้นแรง DJIA และ Nasdaq ทาจุดสูงสุดใหม่ แต่เราไม่คิดว่าตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายรวมทั้ง SET จะปรับตัวแรงเท่า เนื่องจากความกังวลต่อนโยบายปกป้องทางการค้าของ Trump ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อภาคส่งออกของเอเชียและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นดึงดูดเงินทุนออกจากตลาดเกิดใหม่ ปัจจัยภายในประเทศ หอการค้าไทยมองบวกอย่างมากต่อเม็ดเงินใหม่ 8.3 หมื่น ลบ. สำหรับโครงการมากกว่า 1,000 โครงการจากประชารัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ครม. เพิ่งอนุมัติเงินรางวัลพิเศษสำหรับลูกหนี้ชั้นดีของธนาคารออมสิน

 

หุ้นเด่นวันนี้ : BBL (ราคาปิด 156.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 203.00 บาท)
      ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นเด่นของเราในวันนี้จากการที่ธนาคารน่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการขยายตัวของสินเชื่อองค์กรขนาดใหญ่หนุนโดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐมูลค่า 8.9 แสนล้านบาท ตัวอย่างของโครงการดังกล่าวประกอบด้วยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย - มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว - สำโรง) มูลค่ารวมถึง 1.05 แสนล้านบาท ซึ่ง BSR Joint Venture เป็นผู้ได้รับสัมปทานชนะการประมูลโครงการดังกล่าวไป นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เพิ่งเสร็จสิ้นการประมูลและประกาศผลไปเมื่อไม่นานมานี้ ตัวอย่างเหล่านี้บ่งบอกว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่รอมานานได้เริ่มต้นอย่างจริงจังแล้ว นั่นหมายความว่านับจากนี้ไปความต้องการของสินเชื่อเพื่อเป็นทุนสำหรับโครงการเหล่านี้ก็จะตามมาด้วย ถึงแม้ว่าเราจะประมาณการว่าสินเชื่อของธนาคารในปี 60 จะเติบโต 5%

       แต่สินเชื่ออาจมีโอกาสโตได้มากกว่าประมาณการของเรา นอกเหนือจากนั้น เรายังชอบ BBL ตรงที่ธนาคารมีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 3/59 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ของธนาคารอยู่ที่ 159.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 129.6% ระดับการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวนมากนี้แสดงถึงความสามารถของธนาคารในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ และอีกปัจจัยที่สำคัญ มูลค่าหุ้น BBL น่าสนใจมากเนื่องจากซื้อขายกันในอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีที่ถูกที่ 0.8 เท่า แสดงถึงโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็บสะสม ราคาเป้าหมายของเราที่ 203.00 บาท ให้ upside 30.1% จากราคาหุ้นปัจจุบัน อีกทั้ง ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนน่าสนใจที่ราว 4.2-4.5% ในปี 59 และ 60 ถึงแม้ว่าเราประมาณการว่าการเติบโตของกำไรของธนาคารจะติดลบ 3.4% ใน 59 แต่เราคาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตในปีหน้าที่ 7.6% YoY Price Pattern ของ BBL

      แม้ว่าจะยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิดทั้ง Weekly & Monthly Sell Signal แต่มุมมองระยะสั้นของ BBL เริ่มกลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะสั้นจากการเกิด Daily Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BBL มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 164 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 177 บาท ทั้งนี้ BBL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 154 บาท (Resistance: 156.50, 157.50, 158.00; Support: 155.50, 155.00, 154.00)

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
หอการค้ามองบวกต่อมาตรการกระตุ้น ประธานหอการค้าไทยฯ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าน่าจะดีกว่าคาดการณ์ว่าจะเติบโต 3.5-4.0% อีก 0.5% ถ้าประชารัฐสามารถจัดสรรงบเพิ่มเติมได้ราว 8.3 หมื่น ลบ. ภายใต้โครงการกว่า 1,000 โครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่มีอยู่ โครงการนี้น่าจะครอบคลุมการพัฒนาภาคการเกษตร การท่องเที่ยว การบริการ การค้า การลงทุนและโลจิสติกส์ ซึ่งจะเสนอต่อ ครม.เพื่อพิจารณาในปีหน้า งบคาดว่าจะจัดสรรได้ในช่วงกลางปี 60 (Bangkok Post/The Nation)


ใช้ ม.44 ยืดเส้นตายสำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล นายกฯ วานนี้ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญระหว่างกาลเพื่อยืดระยะเวลาการจ่ายชำระค่าธรรมเนียมประมูลสำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล สามารถแบ่งชำระค่างวดที่ 4 5 และ 6 ได้ โดยแต่ละงวดแบ่งได้เป็นงวดย่อยอีกสองงวดชำระในช่วงเวลาสองปีภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี (Bangkok Post)ความเห็น: น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลได้แก่ MONO (2.86 บาท), WORK (43.00 บาท), and RS (7.75 บาท), และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อ BBL (156.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 60 203.00) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หลักของบริษัทเหล่านี้


ครม.เห็นชอบมาตรการลดภาระดอกเบี้ยของธนาคารออมสิน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการลดดอกเบี้ยให้ประชาชนรายย่อยสำหรับลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี 12 เดือนติดต่อกันที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาท โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ย 30% ของดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่ธนาคารในรอบระยะเวลา 12 เดือน ในกรณีเป็นลูกหนี้ที่ค้างชำระหรือตัดหนี้สูญไปแล้วสามารถปรับโครงสร้างหนี้ โดยสามารถขยายระยะเวลาและพักชำระดอกเบี้ยได้ (Bangkok Post)

ต่างประเทศ :
เงินทุนจำนวน 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไหลออกจากตลาดเกิดใหม่นับแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ข้อมูลจาก lnstitute of lnternational Finance (lFF) ระบุว่านักลงทุนที่มีถิ่นฐานในต่างประเทศได้ดึงเงินจำนวน 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐออกจากตลาดเกิดใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. การไหลออกของเงินทุนส่งสัญญาณเงินทุนพลิกกลับยาวนานที่สุดนับแต่ lFF ได้ออกคำเตือนในปี 2005 มีความกังวลเพิ่มขึ้นนับแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเนื่องจากการตั้งกำแพงภาษีศุลกากรก่อให้ความกลัวว่าจะเกิดสงครามทางการค้าในขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นได้ทำให้เงินทุนไหลออกกลับสหรัฐ (Reuters)ราคาพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร เนื่องจากหุ้นปรับตัวขึ้น ลดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีล่าสุดปรับตัวลง 6/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.56% เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 2.54% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐไต่สู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี เมื่อวันอังคาร เนื่องจากความเห็นของนางเยลเลน ประธานเฟดเกี่ยวกับตลาดแรงงานสนับสนุนแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.1% อยู่ที่ระดับ 103.31 หลังจากแตะที่ระดับ 103.65 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนธ.ค. 2002 (Reuters)

สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกต่อเมื่อวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์และ Nasdaq ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะยานต่อเนื่องจากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ ตลาดฯ ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งปรับตัวขึ้น 19% นับแต่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าทรัมป์จะลดกฎระเบียบต่าง ๆ รวมทั้งยกเลิกกฎหมาย Dodd-Frank ที่รองรับวิกฤตการเงินในปี 2008 ซึ่งนักลงทุนบางรายกล่าวว่ามีความเข้มงวดมากเกินไป (Reuters)

ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารฟื้นตัวเล็กน้อย หนุนจากประเด็นข่าวการเข้าทำดีลธุรกิจจำนวนมากในช่วงสิ้นปีของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ รวมไปถึงแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารหลังเริ่มมีสัญญาณบ่งบอกว่าอิตาลีมีความพยายามฟื้นฟูและสร้างเสถียรภาพให้กับภาคธนาคารมากขึ้น (Reuters)
แผนความช่วยเหลือธนาคารอิตาลี รัฐบาลตัดสินใจของความเห็นชอบจากสภาในวงเงิน 2.0 หมื่นล้านยูโรสำหรับการเสริมสร้างเสถียรภาพของภาคธนาคาร โดยจะเริ่มจากการเข้าช่วยเหลือธนาคาร Monte dei Paschi di Siena ในช่วงสัปดาห์นี้ (Reuters)

เอเชีย :
BOJ ยังคงนโยบายการเงินคงที่ และเพิ่มมุมมองต่อเศรษฐกิจมากขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่มความคาดหวังการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต สะท้อนการฟื้นตัวของดีมานด์และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศเกิดใหม่ในอาเซียน ทำให้เห็นสัญญาณที่เชื่อมั่นได้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง BOJ คงนโยบายตามคาดสำหรับอัตราระยะสั้นที่ติดลบ 0.1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ไว้ที่ 0% อย่างไรก็ตาม BOJ เตือนว่าวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนไหลออกของตลาดทุนเกิดใหม่(Reuters)
รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนออกงบประมาณเริ่มต้นที่ 97.45 ล้านล้านหยวน หรือ 830 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับปีงบประมาณ 2560 ขณะที่การออกตราสารหนี้ใหม่อยู่ในระดับต่ำกว่าในปี 2559 ครั้งนี้นับเป็นการเพิ่มขึ้นจากงบประมาณปีนี้ที่ 96.7 ล้านล้านหยวน สะท้อนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของการบริการประชากรที่สูงอายุของญี่ปุ่น รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะอนุมัติงบประมาณปี 2560 ในวันพฤหัส เพื่อจะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2560 (Reuters)
เมืองใหญ่ในมณฑลซานตงของจีนมีคำสั่งให้โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่เจ็ดแห่งลดกำลังการผลิต โดยคิดเป็นสัดส่วนเกือบสองในสามของการผลิตที่มีอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของลดมลพิษหมอกควันที่ปกคลุมทางตอนเหนือของประเทศ มาตรการจะมีผลในวันศุกร์และนานเท่าที่การเตือนภัยเรื่องหมอกควันมีผลสู่ภาวะที่ดีขึ้น (Reuters)
หุ้นจีนร่วงลงในวันอังคารที่ผ่านมา จากหน่วยงานที่ออกกฎระเบียบเข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินและฟองสบู่สินทรัพย์ PBOC กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าจะกำกับดูแลของธุรกิจธนาคารเงาโดยรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสมดุลของการบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นแหล่งที่มาของความเสี่ยงทางการเงินในปีหน้า (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นวันอังคาร แตะจุดสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์เพราะการถอนน้ำมันดิบสหรัฐในคลัง แต่การเป็นบวกก็ลดลงมาหลังลิเบียประกาศเปิดใช้ท่อส่งก๊าซอีกครั้งหลังจากปิดไปสองปี น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ ก.พ. บวก 40 เซนต์หรือ +0.7% ปิด 55.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังแตะจุดสูงสุดที่ 55.92 ดอลลาร์ น้ำมันดิบสหรัฐ ปิดบวก 30 เซนต์ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 52.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำร่วงวันอังคาร เพราะดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะแข็งแรงขึ้นและ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐต่อไป ขณะที่การก่อเหตุคร่าชีวิตผู้คนในตุรกีและเยอรมนีไม่สามารถทำให้คนหันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยได้ ราคาทองคำตลาดจรลบ 0.7% ที่ 1,131.18 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากไปแตะ 1,125.23 ดอลลาร์ไม่ไกลจากระดับ 1,122.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งเป็นจุดอ่อนแอที่สุดนับแต่ 2 ก.พ. ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าลบ 0.8% ที่ 1,133.60 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!