- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 December 2016 17:06
- Hits: 1647
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวกได้เล็กน้อย ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 1524.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายกดดัชนีไหลลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแกว่งตัวส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยมีจุดต่ำสุดของวันที่ 1507.91 จุด ลดลง 14.49 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 16.98 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ GL, ESSO, STA, PTTEP, AOT, JAS, SCN, PTL, BJC, THAI ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1511.65 จุด ลดลง 10.75 จุด (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 41,238 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้เลือกทิศทางลง หลังจาก Sideway แคบ ๆ มา 2 วัน โดยปรับตัวลงทำ Low ที่ 1507 จุด (Fibonacci 38.2%) ก่อนที่จะดีดตัวกลับซึ่งยังไมมีแรงมากพอด้วยการทำปิดที่ 1511 จุด จากภาพที่เปิดสูงปิดต่ำ พร้อมกับดึง High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มลงต่อ ซึ่งมองแนวรับระดับสัปดาห์ที่ 1500 จุด แต่อย่างไรก็ตามหากพิจาณาในภาพรายชม.มีโอกาสดีดกลับจากสัญญาณที่ Oversold โดยมีแนวต้านจำกัด 1520-1524 จุด ขณะที่แนวรับ 1500-1505 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1510// 1500 จุด Resistance 1530 // 1540-1550 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(-) กลุ่มท่องเที่ยว + สายการบิน : จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน พ.ย.2016 ลดลง 4.4% YoY ซึ่งเป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนลดลงมากถึง 29.7% YoY
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ทิศทางตลาดต่างประเทศ คืนที่ผ่านมา เล่นกันด้วยเรื่องเดิม คือผลข้างเคียง จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังดีต่อเนื่อง แต่ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นต่อ โดย 2 เหตุการณ์ร้ายที่ประเทศตุรกีและเยอรมันวันก่อน อาจมีผลอยู่บ้างในช่วงแรกๆ ที่เกิดเหตุการณ์ แต่ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลง ผลกระทบที่มีมาถึงตลาดเอเซีย คือ ค่าเงินที่อ่อนค่าลง
ราคาน้ำมันดิบพลิกมาบวก หลังตัวเลข stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ รายงานโดย API ว่าลดลง 4.15 ล้านบาร์เรล และนักวิเคราะห์มองราคาน้ำมันดิบปีหน้า (2560) ในทางบวกต่อจากปีนี้ เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี
ปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม.วานนี้ มีหลายเรื่องที่ผ่านความเห็นชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการเฉพาะกลุ่ม อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารของรัฐฯ มาตรการช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ..... วันนี้ คงต้องมาดูว่า การประชุม กนง.ของไทย ซึ่งจะทราบผลในช่วงบ่าย ว่าจะคงนโยบายทางการเงินไว้ ที่ 1.50% หรือไม่
ทิศทางตลาดหุ้นไทย ตลาดได้ปัจจัยบวกในเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น บวกกับปัจจัยเดิมๆคือ แรงกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเห็นผลชัดๆ ในปีหน้า และแรงซื้อหุ้นของกองทุน LTF-RMF ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯ วันนี้ มีโอกาสที่จะเกิด Technical rebound แต่ปัจจัยลบที่สำคัญ คือ ความกังวลในเรื่อง การอ่อนค่าของเงินบาท และเงินสกุลเอเซียอื่นๆ จะทำให้ตลาดขาดแรงซื้อ ภาพดัชนีฯ จึงมองว่าจะมีความผันผวนสูง จากการขัดแย้งของปัจจัยบวกและลบ
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดอาจผันผวนมากขึ้น แต่กรอบน่าจะยังเป็น sideway ซึ่งจะเหมาะกับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ แบบลงซื้อขึ้นขายในหุ้นขนาดเล็กหรือหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวมากกว่า ............ สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ PTTEP , HMPRO , TOG , VGI , UNIQ
ประเด็นสำคัญ
ลาดหุ้นไทยวานนี้ (20 ธ.ค.) - SET Index ปิดที่ 1,511.65 จุด ลดลง 10.75 จุด หรือ -0.71% มูลค่าการซื้อขาย 41,238.21 ล้านบาท ตลาดฯเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับต่างประเทศจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยุโรป และยังไร้ซึ่งปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระทบตลาดฯ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,974.62 จุด เพิ่มขึ้น 91.56 จุด หรือ +0.46% ตลาดฯได้แรงซื้อจากหุ้นกลุ่มธนาคารเนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะช่วยฟื้นฟูภาคธนาคารให้แข็งแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น +0.5% ปิดที่ 361.32 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ +0.2% ปิดที่ 52.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง มีการคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงมากกว่า 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
เศรษฐกิจจีน - กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) นอกภาคการเงิน ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 55.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.617 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เศรษฐกิจไทย - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเป้าหมายนโยบายการเงินประจำปี 2560 โดยที่มีการเห็นชอบกรอบอัตราเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2560 ที่ 2.5% +/- 1.5%
กลุ่มมีเดีย - คสช.มีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้ส่วนกิจการโทรทัศน์มีการขยายเวลาการชำระค่าใบอนุญาตเป็นชำระภายใน 2 ปี (จากเดิม 1 ปี) โดยเสียดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
กลุ่มยานยนต์ - ครม. มีมติอนุมัติให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศญี่ปุ่นโดยการยกเว้นการเรียกเก็บอากรศุลกากรสำหรับการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักสำหรับกลุ่มยานยนต์
News Release :
11หุ้นทีวีดิจิตอลตีปีก! WORK-MONOเด่นสุด "ประยุทธ์" ใช้ม.44 สั่งยืดเวลาจ่ายค่าไลเซนส์
+ 11 หุ้นทีวีดิจิตอลมีเฮ.! WORK-MONO-RS โดดเด่นสุด ขานรับ "บิ๊กตู่" ประกาศใช้มาตรา 44 สั่งขยายเวลาการชำระค่าไลเซนส์และให้กองทุนวิจัยกสทช.สนับสนุนค่าใช้จ่ายส่งสัญญาณดาวเทียมปีละ 875 ล้านบาท ปลดล็อกปัญหาสภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัวเกือบทุกบริษัท พร้อมยืดเวลาคืนคลื่นวิทยุรัฐไปอีก 5 ปี(ข่าวหุ้น)
BBLรับข่าวดีสองเด้งศาลสั่งกสทช.ห้ามทวงหนี้
+ แบงก์กรุงเทพฯ รับผลดี 2 เด้ง เด้งแรกศาลปกครองสั่งกสทช.ระงับบังคับเอาเงินค้ำประกัน บริษัท ไทยทีวี งวด 4-6 กว่า 1 พันล้าน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด เด้งสองบิ๊กตู่ออกม. 44 ขยายเวลาชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล โบรกฯ มอง BBL รับเละ เนื่องจากเป็นเจ้าหนี้ทีวีดิจิตอลรายใหญ่กว่า 2.5 หมื่นล้าน(ข่าวหุ้น)
SUPER มั่นใจเงินทุนแกร่งตั้งกองทุนหมื่นล้านปีหน้า
+ SUPER มั่นใจฐานะการเงินแข็งแกร่ง ไม่หวั่นไร้ผู้ใช้สิทธิแปลง W3 ลั่นเตรียมตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 1.2-1.8 หมื่นล้านบาท ช่วงปลาย Q2 หรือต้น Q3 ปีหน้า แถมได้ BBL หนุนเงินกู้ 2.7 หมื่นล้านบาทซัพพอร์ตการลงทุน(ข่าวหุ้น)
SCN เนื้อหอม!กองทุนบิ๊กล็อตคาดธุรกิจขาขึ้น
+ SCN เนื้อหอม! กองทุนไทย-ต่างประเทศ ทุ่ม 1,027 ล้านบาท ซื้อบิ๊กล็อต 130 ล้านหุ้น ผู้บริหารลั่นกองทุนมองบวกธุรกิจ NGV-iCNG ขาขึ้น ชี้หลังบิ๊กล็อตฟรีโฟลตพุ่งแตะ 37% จากเดิม 26% ลั่นงบปี 59 โตแกร่ง ลูกค้าออเดอร์ทะลัก(ข่าวหุ้น)
หุ้นไทยแชมป์อาเซียน ปีหน้ายังมีเสน่ห์ D/Eต่ำ
+ ตลท. ปลื้มมาร์เก็ตแคป พุ่ง 4.24 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 21.5% ครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน ส่องกล้องปี 2560 ตลาดหุ้นไทยเป็นปีแห่งความท้าทาย เชื่อ บจ.ไทยยังมีพื้นฐานแกร่ง ด้านตลาด mai ปี 2560 คาดมีบจ.ใหม่เข้าเทรดไม่ต่ำกว่า 15 บริษัท มูลค่าระดมทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท(ทันหุ้น)
EASONงานพ่นสีโตสวย รุกรายได้สร้างโรงไฟฟ้า
+ EASON เจาะตลาดพ่นสีอุตสาหกรรมประเทศอาเซียนเต็มสูบ เล็งปั๊มยอดส่งออกเพิ่ม 25% ในปีหน้า ด้าน "สนั่น เอกแสงกุล" คาดปี 2560 ผลงานโตต่อจากปีนี้ พร้อมอัดงบ 40 ล้านบาท เสริมกำลังผลิตโรงงานเวียดนาม ล่าสุดเดินหน้าซื้อหุ้น บริษัทแอดวานซ์ เพาเวอร์ คอนเวอร์ชั่น จำกัด หรือ APCON เพิ่ม 1 ล้านหุ้น เปิดช่องรับทรัพย์เสริมรายได้ จากงานวิศวกรรมการสร้างโรงไฟฟ้าที่มีอนาคตสดใส ฟากนักวิเคราะห์ แนะ "เก็งกำไร" (ทันหุ้น)
THAI-BAลุ้นปลดธงแดง โบรกส่งซิกถึงเวลาสะสม
+ THAI-BA เตรียมเฮ! ลุ้น ไอเคโอ ปลดธงแดงการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการบิน (SSC) ในเดือนมิ.ย. 60 ขณะที่บล.ฟิลลิป เชียร์ "ซื้อ" BA ให้ราคาเป้าหมาย 30.50 บาท หลังมองแผนธุรกิจเติบโตสดใส จากการรับเครื่องบินใหม่ 4 ลำ และมีพันธมิตรทางการบินเพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดเส้นทางบินใหม่หนุนจำนวนผู้โดยสารโต 12-13% (ทันหุ้น)
OISHIควัก241ล้าน สยายปีกธุรกิจอาหาร เปิดตัวร้านแนวใหม่
+ OISHI ทุ่มงบ 241 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่-รีโนว์สาขาเดิมเสริมแกร่งธุรกิจ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวร้านแนวใหม่ "โออิชิ อีทเทอเรียม" เปิดช่องรับทรัพย์ หวังหนุนรายได้กลุ่มอาหารปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 10% (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์
บล.เคทีบี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด
“บล.KTBST มองหุ้นไทยวันนี้ ( 21 ธ.ค.) ยังเคลื่อนไหวผันผวนทั้งจากปัจจัยบวกและลบ กรอบดัชนียังไปทิศทางทรงตัว เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่น PTTEP , HMPRO , TOG , VGI , UNIQ
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (21 ธ.ค.) ทิศทางตลาดต่างประเทศคืนที่ผ่านมา ตลาดเคลื่อนไหวด้วยปัจจัยเดิม คือผลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังดีต่อเนื่อง แต่ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นต่อ โดย 2 เหตุการณ์ร้ายที่ประเทศตุรกีและเยอรมันวันก่อน อาจมีผลอยู่บ้างในช่วงแรกๆ ที่เกิดเหตุการณ์ แต่ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลง ผลกระทบที่มีมาถึงตลาดเอเซีย คือ ค่าเงินที่อ่อนค่าลง
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพลิกมาบวก หลังตัวเลข stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ รายงานโดย API ว่าลดลง 4.15 ล้านบาร์เรล และนักวิเคราะห์มองราคาน้ำมันดิบปีหน้า (2560) ในทางบวกต่อจากปีนี้ เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี
ส่วนปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม.วานนี้ มีหลายเรื่องที่ผ่านความเห็นชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการเฉพาะกลุ่ม อาทิ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารของรัฐฯ มาตรการช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล วันนี้ คงต้องมาดูว่า การประชุม กนง.ของไทย ซึ่งจะทราบผลในช่วงบ่าย ว่าจะคงนโยบายทางการเงินไว้ ที่ 1.50% หรือไม่
ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นไทย ตลาดได้ปัจจัยบวกในเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น บวกกับปัจจัยเดิมๆคือ แรงกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเห็นผลชัดๆ ในปีหน้า และแรงซื้อหุ้นของกองทุน LTF-RMF ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯ วันนี้ มีโอกาสที่จะเกิด Technical rebound แต่ปัจจัยลบที่สำคัญ คือ ความกังวลในเรื่อง การอ่อนค่าของเงินบาท และเงินสกุลเอเชียอื่นๆ จะทำให้ตลาดขาดแรงซื้อ ภาพดัชนีฯ จึงมองว่าจะมีความผันผวนสูง จากการขัดแย้งของปัจจัยบวกและลบ
“กลยุทธ์การลงทุนตลาดอาจผันผวนมากขึ้น แต่กรอบน่าจะยังเป็น sideway ซึ่งจะเหมาะกับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ แบบลงซื้อขึ้นขายในหุ้นขนาดเล็กหรือหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวมากกว่า สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ PTTEP , HMPRO , TOG , VGI , UNIQ มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,500-1,522 จุด