- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 December 2016 17:00
- Hits: 9486
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? แต่คาดยังอยู่ในกรอบแคบ ภายใต้ (+) ถ้อยแถลงของประธานเฟด ล่าสุด ที่ส่งสัญญาณดี โดยเฉพาะต่อตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่งสุดในรอบเกือบ 10 ปี ทำให้ตลาดฯ เพิ่มน้ำหนักต่อความคาดหวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นตามลำดับ และคาดสามารถรองรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้การประชุมล่าสุดเฟดจะส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีหน้า
แต่ (-) สถานการณ์ทั้งในตุรกี ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี เพิ่มขึ้น และเหตุการณ์โจมตีในเบอร์ลิน เยอรมัน
รวมถึง (-) ค่าเงินของสหรัฐฯ คาดภาพรวมยังมีแนวโน้มแข็งค่า ภายใต้ประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงความคาดหมายต่อนโยบายของทรัมป์ (หลังเข้ารับตำแหน่ง 20/1/60) คาดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งคาดส่งผลกระทบต่อ (1) ราคาสินค้า Commodity ที่ซื้อขายในรูปเงินสหรัฐฯ มีราคาลดลง แต่ในทางตรงข้ามคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย และ (2) ภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาด EM รวมถึงไทย ที่คาดยังกดดันภาพรวมตลาดฯ
ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่เพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีรายได้ทุกกลุ่มในช่วงปลายปีทั้งเงินช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย และมาตรการหนุนการบริโภค รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ คาดผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มโรงแรม เช่น HMPRO, CPN และ ERW เป็นต้น และหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันทั้ง WTI, Brent และ DUBAI ที่เคลื่อนไหวในระดับ 52 – 54USD
นอกจากนี้ ครม. เตรียมดำเนินแผนมาตรการเร่งด่วนด้านคมนาคมปี 2560 (Action Plan 60) วงเงินประมาณ 8.96 แสนล้านบาท โดยมีโครงการที่จะเริ่มประกวดราคาได้ 15 โครงการ คาดส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์จากความชัดเจนในการเปิดประมูลโครงการต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้า และรถไฟทางคู่ ในเส้นทางต่างๆ ที่คาดทยอยเปิดประมูลต่อเนื่องในปี’60 คาดยังคงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาใน ITD, CK, STEC และ UNIQ เป็นต้น
ขณะที่แนะติดตาม (1) การประชุม กนง. (21/12/59) ที่คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% และ (2) Window Dressing ในช่วงสิ้นปี’59
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
SET SET50 SET100
1,522.40 -0.11 948.14 +1.52 2,144.92 +2.16
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +39.65, NASDAQ +20.28, S&P +4.46,FTSE +5.52, CAC -10.50 และ DAX +22.69
หลังประธานเฟดฯ กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่มหาวิทยาลัยบัลติมอร์ เริ่มเข้าสู่ภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี โดยอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่การจ้างงานปรับขึ้นต่อเนื่อง และมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของค่าแรง อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด ภายใต้ปัจจัยกดดัน (1) นายอังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี เสียชีวิตจากการถูกยิงในกรุงอังการา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี หลังทั้ง 2 ฝ่ายมีความขัดแย้งในซีเรีย โดยรัสเซียมีจุดยืนสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย ขณะที่ตุรกีต้องการที่จะให้เขาออกจากตำแหน่ง และ (2) เหตุโจมตีในเยอรมนี หลังคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. +US$0.22 อยู่ที่ US$52.12 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี หลังเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี เสียชีวิตจากการถูกยิงในกรุงอังการา แต่การปรับขึ้นยังเป็นไปอย่างจำกัด หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งาน ล่าสุด ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12 แท่น อยู่ที่ 510 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ม.ค.’59 และเป็นการเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$5.3 อยู่ที่ US$1,142.7 ต่อออนซ์ ภายใต้ความกังวลต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี หลังเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี เสียชีวิตจากการถูกยิงในกรุงอังการา
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.32 1.93 3.08
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 36,233.42
สถาบัน 220.94
บัญชีหลักทรัพย์ -154.95
ต่างประเทศ 88.1
ในประเทศ -154.1
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ+88 ล้านบาทสะสม YTD +75,691 ล้านบาท(ปี’57 และ58 ยอดขายสุทธิสะสม36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาทตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม20 - 23 ธ.ค. 2559
20/12/59 ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
21/12/59 ประชุมกนง. (อัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด1.50%)
สหรัฐฯเปิดเผย
ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.
สต็อกน้ำมัน
22/12/59 สหรัฐฯเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.
ประมาณการครั้งสุดท้ายGDP –3Q/59
ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ย.
รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย.
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย.
23/12/59 สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนธ.ค.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีเช่น ANAN, AP และSPALI ในขณะที่CPN จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงานเช่นPTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดีขณะที่TOP และSPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มค้าปลีกเช่นCPALL, HMPRO, KAMART และROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มขนส่งในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ10 ปี-0.05 อยู่ที่2.54% (ระดับสูงสุด3.77% เมื่อกพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง(VIX) -0.49 อยู่ที่11.71
หุ้นแนะนำ: PTTEP