- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 December 2016 18:00
- Hits: 1610
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
กรอบแคบ? ภายใต้การเคลื่อนไหวที่คาดยังมีความผันผวน แนะติดตามสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ หลังกองทัพจีนยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียด และทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลง แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด ขณะที่ล่าสุดสถานการณ์ดีขึ้น หลังจีนจะส่งมอบโดรน คืนให้สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามภายใต้ปัจจัยเดิม คาด (+) ความคาดหวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นตามลำดับ และคาดสามารถรองรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้การประชุมล่าสุดเฟดจะส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้ง ในปีหน้ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2 ครั้ง (-) ค่าเงินของสหรัฐฯ คาดภาพรวมยังมีแนวโน้มแข็งค่า ภายใต้ประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงความคาดหมายต่อนโยบายของทรัมป์ (หลังเข้ารับตำแหน่ง 20/1/60) คาดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งคาดส่งผลกระทบต่อ (1) ราคาสินค้า Commodity ที่ซื้อขายในรูปเงินสหรัฐฯ มีราคาลดลง แต่ในทางตรงข้ามคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย และ (2) ภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาด EM รวมถึงไทย ที่คาดยังกดดันภาพรวมตลาดฯ
ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่เพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีรายได้ทุกกลุ่มในช่วงปลายปีทั้งเงินช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย และมาตรการหนุนการบริโภค รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ คาดผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มโรงแรม เช่น HMPRO, CPN และ ERW เป็นต้น และหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันทั้ง WTI, Brent และ DUBAI ปรับขึ้นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
นอกจากนี้ ครม. เตรียมดำเนินแผนมาตรการเร่งด่วนด้านคมนาคมปี 2560 (Action Plan 60) วงเงินประมาณ 8.96 แสนล้านบาท โดยมีโครงการที่จะเริ่มประกวดราคาได้ 15 โครงการ คาดส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์จากความชัดเจนในการเปิดประมูลโครงการต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้า และรถไฟทางคู่ ในเส้นทางต่างๆ ที่คาดทยอยเปิดประมูลต่อเนื่องในปี’60 คาดยังคงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาใน ITD, CK, STEC และ UNIQ เป็นต้น
ขณะที่แนะติดตาม (1) การประชุม กนง. (21/12/59) ที่คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% และ (2) Window Dressing ในช่วงสิ้นปี’59
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
SET SET50 SET100
1,522.51 +2.86 946.62 -0.36 2,142.76 +1.60
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -8.83, NASDAQ -19.69, S&P -3.96, FTSE +12.63, CAC +14.04 และ DAX +37.61
ภายใต้ปัจจัยลบ (1) ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ หลังมีรายงานว่า เรือรบของกองทัพจีนได้ยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐฯ ในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯ ร้องเรียนจีนผ่านช่องทางการทูต และ (2) ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐฯ – พ.ย. ลดลง 18.7% อยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.23 ล้านยูนิต เช่นเดียวกับการอนุญาตก่อสร้างบ้าน – พ.ย. ลดลง 4.7%
ส่วนทางด้านยุโรป ได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ หลังมีรายงานว่า บริษัทซาโนฟี เอสเอ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของฝรั่งเศส มีความคืบหน้าในการเจรจาซื้อกิจการบริษัทแอคเทเลียน ฟาร์มาซูติคัลส์ ผู้ผลิตยาของสวิตเซอร์แลนด์
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ม.ค. +US$1.0 อยู่ที่ US$51.90 ต่อบาร์เรล หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ออกมาส่งสัญญาณว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิต ซึ่งรวมถึงคูเวตและรัสเซีย และยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงกระตุ้นแรงซื้อในตลาดน้ำมันด้วย
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$7.6 อยู่ที่ US$1,137.4 ต่อออนซ์ ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ กระตุ้นให้
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.32 1.93 3.08
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 46,841.99
สถาบัน 826.64
บัญชีหลักทรัพย์ 631.17
ต่างประเทศ -1,980.20
ในประเทศ 522.39
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –1,980 ล้านบาท สะสม YTD +75,603 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 19 - 23 ธ.ค. 2559
19/12/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนธ.ค.
20/12/59 ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
21/12/59 ประชุม กนง. (อัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด 1.50%)
สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.
สต็อกน้ำมัน
22/12/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.
ประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 3Q/59
ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ย.
รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย.
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย.
23/12/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนธ.ค.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่าง
ต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.02 อยู่ที่ 2.60% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.59 อยู่ที่ 12.20
หุ้นแนะนำ : PTTEP
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788