- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 December 2016 17:57
- Hits: 1263
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (19/12/59)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา 'เคลื่อนไหวในกรอบแคบ'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆเท่านั้น โดยปัจจัยหลักมาจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยช่วงท้ายสัปดาห์หลังจากผลการประชุมออกมาตลาดสามารถกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง โดยกลุ่มธุรกิจการเกษตรมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา (+12%) จากปัจจัยบวกเรื่องราคายางพาราที่เพิ่มขึ้น ปิดตลาดวันศุกร์ดัชนีเพิ่มขึ้น 2.86 จุด (+0.2%) มาที่ 1,522 จุด ด้วยปริมาณ Vol. 46,841 ล้านบาท รวมทั้งสัปดาห์ดัชนีลดลง 3.81 จุด (-0.2%)
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) เรือรบจีน ได้ยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐได้ในบริเวณทะเลจีนใต้ ก่อให้เกิดความกังวลว่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง
(-) ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. ลดลง 18.7%MoM มาอยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต เนื่องจากเดือนก่อนหน้าเป็นเดือนที่มียอดสูงสุดในรอบ 9 ปี
(-) ตัวเลขดุลการค้าเดือน พ.ย. ของญี่ปุ่น เกินดุลอยู่ที่ 1.53 แสนล้านเยน (แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ว่าจะเกินดุล 2.27 แสน
ล้านเยน)
(-) ราคาถ่านหิน Newcastle ปิดลง 2.6%Day มาปิดที่ 86.5 จุด แต่ยัง +71%YTD (ลบต่อกลุ่มถ่านหิน BANPU, LANNA)
(+) ปัญหาไข้หวัดนกที่ญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นต้องฆ่าสัตว์ปีกว่า 2 แสนตัว (คาดเป็นบวกต่อ CPF, GFPT ที่จะส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้น)
(+) ราคาน้ำมันดิบ (WTI) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บวกไป 2%Day มาอยู่ที่ 51.9 US/Barrel โดยได้ผลบวกจากการคาด Supply จะลด และค่าเงิน USD แข็ง
(+) ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อน (Hot Roll Coil) ยังแข็งแกร่งที่ระดับ 585 US/Tons (เทียบสิ้น 3Q59 อยู่ที่ 496 US/Tons) หรือบวกเพิ่มขึ้น 18% จากสิ้นไตรมาส 3/59 คาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มเหล็ก PERM, PAP, TMT, AMC, MCS
(+) JAS แจ้งตลาดลดทุนโดยตัดจำหน่ายหุ้นที่เคยซื้อคืน จำนวน 1.2 พันล้านหุ้น/มูลค่า 6 พันลบ. ออกไป ส่งผลให้จำนวนหุ้นจดทะเบียนชำระแล้วลดลงจากเดิม 16.8% เหลือ 5.94 พันล้านหุ้น ซี่งทำให้ EPS ในอนาคตเพิ่มขึ้น และปันผลในอนาคตมีโอกาสเพิ่มขึ้น
(+) BOI รายงานยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน 11M59 อยู่ที่ 5 แสนลบ. ทำให้ทั้งปี 59 คาดว่าจะอยู่ที่ 5.5 แสนลบ. และปี 60 ตั้งเป้า 6 แสนลบ.
(+/-) ตลท. ประกาศรายชื่อหุ้นเข้าออก SET 50 และ SET 100 สำหรับรอบ 1H60 โดยหุ้นเข้า SET 50 (GLOBAL, KKP, PTG, SPRC, THAI) และหุ้นเข้า SET100 (BIG, KAMART, SCN, SPRC, SUPER, THANI, TKN, VIBHA) สำหรับหุ้น SET50 ที่ออก (TASCO, MTLS, BEC, TTW, SAWAD
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
ประชุมครม. เตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีเพิ่มเติม เช่น ให้ธนาคารรัฐฯให้ส่วนลด และลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าชั้นดี วงเงิน 3 พันลบ.
ประชุมธนาคารกลาง BOJ (20 ธ.ค.) และกนง. (21 ธ.ค.)
FSTE SET Large-Cap Index มีผล 19 ธ.ค. (หุ้นเข้า BJC / ออก SCCC)
ตัวเลขสำคัญในสัปดาหนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน (21 ธ.ค.), ยอดขายบ้านเดือน พ.ย. ของสหรัฐ (21 ธ.ค.), GDP 3Q59 สหรัฐ (22 ธ.ค.), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ (22 ธ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน 'ซึมๆ'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ด้วยปัจจัยใหม่ๆยังจำกัดในช่วงปลายปี เราแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า หลังจากทืรัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มลดสภาพคล่องในตลาดเงิน เช่นกลุ่มส่งออก และแนะนำทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Big Cap เพื่อรอดักเม็ดเงินซื้อกองทุน RMF และ LTF ในช่วงปลายปี ( PTT,SCC,AOT,CPALL,SCB) สำหรับระยะกลางเรายังมองลบต่อเม็ดเงินต่างชาติที่ยังไหลออกจากตลาดไทยต่อเนื่อง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TU เก็งกำไร
มองเป็นผู้ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
คาดปี 60 ธุรกิจปลาเซลมอนจะมีกำไรฟื้นตัวจากที่ปี 59
ได้ประโยชน์จากธุรกิจกุ้งในประเทศที่ฟื้นตัว จากด้านปริมาณการผลิตและธุรกิจอาหารสัตว์
PTT เก็งกำไร
ได้โมเมนตัมบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังการคว่ำบาตรอิหร่านสร้างแรงตึงตัวในตลาดน้ำมันเพิ่มเติม
เตรียมนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ในปี 60
ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER 13.8 เท่า และ PBV 1.40 เท่า
ทีมวิเคราะห์