- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 December 2016 17:44
- Hits: 1300
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
แรงเทขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ความกังวลประเด็นเรือดำน้ำโดรนสหรัฐฯ ผ่อนคลายลง
คาดหุ้นไทยวันนี้ซื้อขายในกรอบแคบ หลังเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอดนับตั้งแต่ Donald Trump ชนะการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามประเด็นที่จีนพร้อมจะคืนเรือดำน้ำโดรนที่ยึดได้ให้แก่สหรัฐฯ ได้ทำให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศมหาอำนาจ มีปัจจัยภายในประเทศที่เป็นบวกจากที่ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์เตรียมจะให้เงินคืนแก่ผู้มีรายได้น้อยที่มีประวัติการกู้ยืมที่ดี ขณะที่มองประเด็นที่รัฐบาลออกมาปฏิเสธความคืบหน้าการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงเพื่อพิจารณาผลประโยชน์ของรัฐบาลให้รอบคอบว่าเป็นเพียงความกังวลช่วงสั้น และไม่น่าจะกินเวลามาก
หุ้นเด่นวันนี้ : BEM (Bt7.45; BUY; 17TP AWS Bt10.10)
BEM เป็นผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากความพยายามของรัฐบาลในการแก้ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจากการเพิ่มระบบขนส่งมวลชน เราคาดว่าบริษัทจะทำการตกลงกันได้เร็ว ๆ นี้ กับ รฟม.ในการสรุปอนุมัติให้สัมปทานการก่อสร้างระบบและการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างสถานีสายสีน้ำเงินบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเตาปูนให้สะดวกต่อผู้โดยสาร ซึ่งจะต้องสร้างให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการได้ต้องใช้เวลาราว 3 ปี แต่ส่วนที่ขาดหายไปของสองสถานีดังกล่าวขั้นต้นจะเร่งทำให้เสร็จก่อนใน 6 เดือน ขณะที่ผลการดำเนินงานของ BEM ดีขึ้นอย่างโดดเด่นนับจาก 3Q59 เป็นต้นไปจากการเปิดใช้บริการทางพิเศษศรีรัชฯและ MRT สายสีม่วง ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้วในเดือนสิงหาคม 2559 เราคาดว่ากำไรปกติของ BEM เติบโตแข็งแกร่งถึง 129% ในปี 2559 และเติบโตเป็น 38% ในปี 2560 แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 10.10 บาท จากวิธี sum-of-the-parts มี Upside อีก 36% Price Pattern ของ BEM ยังอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นขาขึ้น จากการเกิด Monthly Buy Signal เพียงแต่ในระยะสั้นและระยะกลางยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Sell Signal ทั้งนี้หากสามารถปิดตลาดเหนือ 7.55 บาท (คือปิดตลาด 7.60 บาทขึ้นไป) ก็จะกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และหากปิดตลาดรายสัปดาห์เหนือ 7.60 บาท (คือปิดตลาด 7.65 บาทขึ้นไป) ก็จะกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ซึ่งหากกลับมาเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ จะเป็นการยืนยันว่าการปรับฐานของ BEM ที่ผ่านมาได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยมุมมองต่อ Price Pattern ของ BEM ระยะสั้นมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 7.75 บาท (Resistance: 7.50, 7.55, 7.65; Support: 7.40, 7.35, 7.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ธ.อาคารสงเคราะห์และออมสินเตรียมแจกเงินคืน นอกจากเงินให้เปล่าแก่ผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ธนาคารทั้งสองยังเตรียมแจกเงินคืนให้แก่ลูกหนี้ชั้นดี โดย ธอส. คาดจะใช้ 3 พัน ลบ. สำหรับลูกหนี้ 3.5 ล้านรายที่จะได้เงินคืน ขณะที่ออมสินคาดว่าจะแจกได้ 150-160 ลบ. สำหรับลูกหนี้ 7-8 แสนราย โดยโครงการนี้จะให้ ครม.อนุมัติในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ (Bangkok Post)
ผู้คนน่าจะเข้าร่วมกิจกรรมเทศกาล Neilsen Thailand ระบุ ผลสำรวจล่าสุดจาก 500 คน ในบริเวณกรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หัวหินและขอนแก่น พบว่าเกือบ 90% ยังต้องการเข้าร่วมกิจกรรมปีใหม่เป็นสัดส่วนเดียวกันปีที่แล้ว แม้จะมีผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอและช่วงโศกเศร้าซึ่งอาจจะฉุดรั้งกิจกรรมช่วงสิ้นปี แม้การซื้อของขวัญน่าจะน้อยลงในช่วงเทศกาลปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ 81% ของคนก็ยังเตรียมเงินสำหรับใช้จ่ายช่วงสิ้นปี (Bangkok Post)
ส่งเสริมการลงทุนของไทยในอาเซียนมากขึ้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Bol) เตรียมจะเริ่มเปิดสำนักงานในย่างกุ้งของประเทศพม่าช่วงต้นปีหน้าตามแผนการส่งเสริมและขยายการลงทุนของบริษัทไทยในพม่าและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกเกียวกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดของประเทศนั้นๆ รวมไปถึงนโยบายการลงทุน โอกาสการลงทุน กฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆ และวัฒนธรรมทางธุรกิจ ขณะที่ Bol มีแผนจะเปิดสำนักงานในประเทศอื่นๆ มากขึ้น ได้แก่ ฮานอยในประเทศเวียดนามช่วงปีหน้า รวมไปถึงเมืองจาการ์ตาในอินโดนิเซียช่วงปี 2561 (The Nation)
ยังไม่ได้ข้อสรุปกรณีรถไฟฟ้าสถานีที่ขาดหายไป รัฐบาลยืนยันว่าการเจรจากับ BEM เกี่ยวกับการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วงที่ยังไม่สามารถเชื่อมกันได้ ยังไม่ถึงข้อตกลงขั้นสุดท้าย การเจรจาต่อรองคาดว่าจะดำเนินต่อไปจนได้ข้อสรุปและผลประโยชน์ที่เป็นธรรมกับภาครัฐ (Bangkok Post)
ความเห็น: แม้มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุป 16 ธ.ค.59 แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เชื่อว่ายังอยู่ในการพิจารณาที่เร่งด่วนของรัฐบาล การเลื่อนเวลาที่จะได้ข้อสรุปออกไปอาจจะส่งผลทางจิตวิทยาทางลบต่อ BEM (ราคาปิด 7.45 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 10.10 บาท) และ CK (ราคาปิด 31.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 39.50 บาท) ต่เรายังคงมองเป็นโอกาสของการเข้าสะสมหุ้นเมื่อราคาอ่อนตัว
ต่างประเทศ :
เรือรบจีนได้ทำการยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้เมื่อวันพฤหัส อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศเผยเมื่อวันเสาร์ว่าจีนจะคืนโดรนให้สหรัฐฯ โดรนดังกล่าวซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่ามีการใช้งานโดยชอบด้วยกฎหมายกำลังเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความเค็ม อุณหภูมิและความใสของน้ำออกไปประมาณ 50 ไมล์ทะเลห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอ่าวซูบิค ประเทศฟิลิปปินส์ จีนกล่าวว่าเรือรบของจีนได้พบ "อุปกรณ์ซึ่งไม่ระบุชื่อ" และได้ทำการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยทางการเดินเรือและตัดสินใจส่งคืนให้สหรัฐใน "ท่าทีอย่างเหมาะสม" ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวหาว่าจีนขโมยอุปกรณ์ดังกล่าวในทวีตเตอร์ของเขา ซึ่งจีนร้องว่าสหรัฐทำเรื่องดังกล่าวให้รุนแรงขึ้น (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ คงแนวโน้มปรับตัวต่อจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลง 6/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.600% เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันพฤหัสที่ 2.578% ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมามา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดังกล่าวปรับตัวขึ้น 13 bps (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ แต่ยังคงยืนใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีหลังการประชุมคณะกรรมการเฟดเมื่อวันพุธ โดยแรงขายทำกำไรหยุดยั้งการทะยานต่อของดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 102.900 ปรับตัวลง 0.12% ไม่ห่างจากระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อวันพฤหัสที่ระดับ 103.560 (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นวอลสตรีทปิดลบเมื่อวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นออราเคิลที่ร่วงลง 4% หลังจากรายงานรายได้ที่น่าผิดหวัง ในขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาและกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้นมากที่สุด นักลงทุนยังเป็นกังวลและหันมาลงทุนในหุ้น defensive รวมทั้งตราสารหนี้สหรัฐหลังมีรายงานว่าเรือรบของจีนลำหนึ่งได้ทำการยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวผ่านการติดต่อระหว่างสหรัฐกับจีนได้มีการรายงานสู่สาธารณะตลอดมา (Reuters)
ผู้ช่วย Trump ช่วยผ่อนท่าทีเรื่องการเห็นต่างเรื่องจีนเดียว Reince Priebus หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของประธานาธิบดีช่วยลดท่าทีเรื่องที่ Trump ออกมาบอกว่าจะทบทวนเรื่องนโยบายจีนเดียว ว่ายังไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น แม้ Trump จะพึ่งพูดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)
ยุโรป :
ดัชนีหุ้น Blue chip ของยูโรโซนเมื่อวันศุกร์พลิกกลับมาให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกในรอบปี จากการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องของดัชนีในรอบ 2 สัปดาห์ซึ่งนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปมาก อาทิ Deutsche Bank, lntesa Sanpaolo และ Societe Generale ที่ฟื้นตัวสูงขึ้น 17-23% ในเดือนธ.ค. ทั้งนี้ราคาหุ้น Adidias ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 60% นับตั้งแต่ต้นปี สูงที่สุดในปีนี้ (Reuters)
EU เผยการเจรจาการค้าเสรีร่วมกับญี่ปุ่นใกล้ได้ข้อสรุป หลังจากที่มองว่าจะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ เตรียมจะถอนตัวจากข้อตกลงทางการค้าร่วมกับชาติแปซิฟิกต่างๆ โดยข้อตกลงระหว่าง EU และญี่ปุ่นคาดจะได้ข้อสรุปช่วงต้นปีหน้าหากญี่ปุ่นเปิดตลาดให้กับสินค้าการเกษตรของ EU เช่นเดียวกับที่ EU จะเปิดตลาดให้กับค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น (Reuters)
เอเชีย :
หมอกควันรุนแรงกระทบเทียนจิน: เจ้าหน้าที่ในเทียนจินห้ามการบินสำหรับหลายเที่ยวบิน และปิดไฮเวย์มากที่สุดในวันอาทิตย์ หลังจากหมอกควันรุนแรงปกคลุมเมือง ถือเป็นหนึ่งในกว่า 40 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนที่ออกคำเตือนมลพิษใน 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQl) ในบางสถานีตรวจสอบของเทียนจิน เมืองอุตสาหกรรมทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่ง วัดได้ถึงพีคเหนือ 400 ซึ่งค่าที่เหนือ 300 ถือว่าเป็นอันตราย ตามการวัดของหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (Reuters)
การส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลค่าเงินเยนอ่อนตัวเร็ว และดีมานด์ความต้องการสินค้าในต่างประเทศกระเตื้องขึ้น การส่งออกลดลง 0.4% YTD ถึงเดือน พ.ย.เทียบกับที่ลดลง 2.0% YoY คาดโดยนักเศรษฐศาสตร์ ขณะที่มีการลดลง 10.3% YTD ถึงเดือน ต.ค. ในแง่ของปริมาณการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 7.4% YoY มากกว่าลดลง 1.4% YoY ในเดือนก่อนหน้า การนำเข้าลดลง 8.8% YoY เมื่อเทียบกับค่าคาดการณ์เฉลี่ยมองว่าลดลง 12.6% ดุลการค้าเกินดุลถึง 152.5 พันล้านเยน (1.29 พันล้านดอลลาร์ฯ) เมื่อเทียบกับคาดการณ์เฉลี่ยว่าจะเกินดุล 227.4 พันล้านเยน(Reuters)
อาเบะ-ปูติน ประชุมสุดยอดความร่วมมือรัสเซีย-ญี่ปุ่น: นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ และประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูติน สรุปการเจรจาในวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับข้อตกลงทางเศรษฐกิจต่าง ๆ นานา แต่ไม่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องดินแดนที่เป็นข้อพิพาทกันตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบสหรัฐบวกวันศุกร์ ปรับเข้าใกล้จุดสูงสุดรอบ 17 เดือน หลัง Goldman Sachs ปรับขึ้นคาดการณ์ราคาปี 60 และผู้ผลิตแสดงท่าทีว่าจะตกลงกันได้ลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานล้นเกิน น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าบวก 1.19 ดอลลาร์สหรัฐหรือ +2.2% ปิด 55.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบ ม.ค. ปิดบวก 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (+2.0%) อยู่ที่ 51.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำบวกวันศุกร์ ไต่จากระดับต่ำสุดในรอบสิบปีครึ่งเพราะดอลลาร์และหุ้นสหรัฐร่วงในช่วงสิ้นสัปดาห์ที่ผันผวน เพราะ Fed ได้พูดเชิงจะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐต่อไปมากกว่าคาดในปี 60 ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.6% ที่ 1,135.16 ดอลลาร์สหรัฐ ทองแตะ 1,122.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันพฤหัสซึ่งเป็นจุดอ่อนแอที่สุดนับแต่ 2 ก.พ. และร่วง 2% ในสัปดาห์นี้ ทำให้ลบรายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่หก (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094