- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 December 2016 17:08
- Hits: 4181
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีปรับตัวลงตั้งแต่เปิดตลาด ขยับทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1514.68 จุด ลดลง 6.57 จุด โดยเป็นแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน อาหาร และขนส่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ ดีดกลับจากแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มสื่อสาร พาณิชย์ และแบงก์ แกว่งสลับขึ้นลงที่อยู่ทั้งในแดนบวกและลบ แต่ส่วนใหญ่ยืนในแดนลบมากกว่า โดยมีจุดสูงสุดของวันที่ 1522.62 เพิ่มขึ้น 1.37 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 7.94 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1519.65 จุด ลดลง 1.60 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 49,531 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ปรับฐานหลุดเส้นแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นและหลุดแนว 1520 จุด ที่เพิ่งฝ่าขึ้นไปได้ไม่นาน ทำ Low ที่ 1514 จุด ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นด้วยแรงที่ยังไม่มากพอขึ้นทำปิดที่ 1519 จุด จากภาพดังกล่าวถึงแม้จะเป็นการปรับฐาน แต่ไม่ได้รุนแรง และด้วยกรอบการแกว่งตัวทั้งวันที่แคบเพียง 8 จุด อีกทั้งในภาพรายชม.มีโครงสร้างที่สามารถฟื้นตัวขึ้นแต่ยังคงมองในกรอบจำกัด 1523-1526 จุด แนวรับ 1510-1515 จุด แต่หากปรับฐานแนวรับหลัก 1500-1505 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1510// 1500 จุด Resistance 1530 // 1540-1550 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ต่อเนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และแนวโน้มดอกเบี้ยของ Fed ที่คาดจะปรับขึ้นในปีหน้า ทำให้มีการปรับพอร์ตเพื่อรับแนวโน้มดอกเบี้ยขึ้น แต่ตัวแปรที่สำคัญที่สุดของช่วงนี้ เป็นค่าเงินดอลล่าร์ ที่ได้ทั้งเรื่องดอกเบี้ยขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ออกมาดี คือ เงินเฟ้อ เพิ่ม 0.2% MoM และตัวเลขเคลมว่างงานที่ลดลง 4,000 ตำแหน่ง เพิ่มความน่าสนใจให้กับค่าเงินดอลล่าร์ เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ เราคิดว่าดอลล่าร์ กำลังจะกลับมาทวงความเป็น Safe Haven Currency หลังสูญเสียให้กับเงินเยน มาในปีที่แล้ว และดอลล่าร์เอง ได้อานิสงค์จากนโยบายของว่าที่ประธานนาธิบดีสหรัฐฯ ที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การเข้าคุยกับผู้นำธุรกิจ Technology ของนายทรัมป์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา น่าจะถูกมองในเชิงบวกต่อภาคธุรกิจมากกว่า
การแข็งค่าของเงินดอลล่าร์ จะทำให้นักลงทุนต่างประเทศ ที่ลงทุนในตลาดหุ้น หรือสินทรัพย์เสี่ยง ลดพอร์ตลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เราอาจเห็นแรงขายหุ้นในบางประเทศ ทั้งนี้ เรามองว่าการขายของนักลงทุนต่างประเทศ จะไม่ขายแบบรุนแรงในทุกประเทศ เนื่องจากบางประเทศ มีความแข็งแรงด้านเศรษฐกิจ และตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูง อย่างเช่นของไทย ที่ดุลบัญชีเดินสะพัด เป็น บวก 3 ปี ติดต่อกันแล้ว (งวด 10 เดือนแรก +3.8 หมื่นล้านเหรียญ หรือ +52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน)
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เริ่มแยกทางเดินกับค่าเงินดอลล่าร์หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นพร้อมๆกันมาตั้งแต่เดือน พ.ย. (หลังทราบผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ) ทำให้ช่วงสั้นๆ เรามองว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาจถูกขายทำกำไรออกมา ขณะที่ราคาน้ำมัน แม้จะได้ผลบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มผู้ผลิต แต่ด้วยความที่นักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าจะลดได้จริง และผลของดอลล่าร์ที่แข็งค่า ทำให้ราคาน้ำมันทำได้ก็เพียงทรงๆตัวใกล้ $50 ไปก่อน (เราประเมิน 3 เดือน ข้างหน้า ราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่น่าจะขึ้นได้เกิน $55 เหรียญ)
ปัจจัยในประเทศ วันนี้ ปัจจัยบวกในประเทศไม่มีอะไรใหม่ แต่จะมีความกังวลในเรื่องนักลงทุนต่าวประเทศ จะขายหุ้นหรือไม่ ? ซึ่งจะทำให้นักลงทุนทั่วๆไปชะลอการลงทุน หรือลดการถือหุ้นที่นักลงทุนกลุ่มนี้ถืออยู่ลง
สำหรับหุ้นที่บวกหรือลบจาก การแข็งค่าของเงินดอลล่าร์ จะมีความคึกคักขึ้นในวันนี้
*หุ้นบวกจากดอลล่าร์แข็ง : กลุ่มส่งออก (อีเล็คทรอนิกส์ , อาหารแช่แข็ง)
*หุ้นลบจากดอลล่าร์แข็ง : ผู้นำเข้าสินค้า (ICT) ผู้ส่งออกไปญี่ปุ่น โรงกลั่นน้ำมัน ผู้ที่มีหนี้เป็นเงินดอลล่าร์
ทิศทางตลาดหุ้นในวันนี้ คาดจะยังปรับตัวลดลง อันเป็นผลพวงจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และอาจมีแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา
กลยุทธ์การลงทุน ทิศทางตลาดหุ้นยังมีความไม่แน่นอน เราแนะนำให้ชะลอการลงทุน เพื่อรอดูท่าทีของนักลงทุนรายใหญ่ๆ ว่าจะถือต่อหรือขายหุ้นออก หุ้นที่จะเข้าลงทุนควรเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวไว้ก่อน ............ สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ CPALL , BH , SVI , KBS , LOXLEY , S11
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (15 ธ.ค.) - SET Index ปิดที่ 1,519.65 จุด ลดลง 1.60 จุด หรือ -0.11% มูลค่าการซื้อขาย 49,530.71 ล้านบาท ตลาดฯปรับตัวลงในลักษณะเดียวกับตลาดฯภูมิภาค หลังเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยและมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,852.24 จุด เพิ่มขึ้น 59.71 จุด หรือ +0.30% ได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง และตลาดฯได้ซึมซับข่าวเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 358.79 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 14 เซนต์ หรือ -0.3% ปิดที่ 50.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ยังคงมีความกังวลเรื่องภาวะอุปทานล้นตลาดอยู่หลัง โอเปกระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 254,000 ราย ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 255,000 ราย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับ 54.1 ในเดือนพ.ย.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. จากแรงหนุนจากค่าเช่าที่พุ่งขึ้น, ราคาน้ำมันชะลอตัวลง และราคาอาหารเพิ่มขึ้นไม่มาก
เศรษฐกิจยุโรป - ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เศรษฐกิจยุโรป - อิโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีรวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น (PMI) ของยูโรโซนในเดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับ 53.9 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย.
เศรษฐกิจไทย - นายกฯสั่งให้หน่วยงานต่างๆเร่งรัดขับเคลื่อน ไทยแลนด์ 4.0 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยวางกรอบรายจ่ายไว้ที่ 2.7 ล้านล้านบาท และ คาดกู้ขาดดุลไม่เกิล 5.5 แสนล้านบาท
กลุ่มรับเหมาฯ - สคร. คาดว่าจะเห็นการออกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund:TFF) ขนาดราว 3-4 หมื่นล้านบาท อายุ 3 ปี ภายใน 1Q60
News Release
วัดใจ"พิชญ์"วันสุดท้ายขายหุ้นJASหรือลดทุน กำหนดแปลงสิทธิ W3 ภายใน 30 ธ.ค.นี้
+ วันนี้วัดใจ "พิชญ์" วันสุดท้าย JAS ครบกำหนดขายหุ้นซื้อคืน 1,200 ล้านหุ้น จับตาขายคืนในกระดาน หรือเตรียมตัดลดทุน หลังวันที่ 14-15 ธ.ค.59 ไม่มีแจ้งขาย พร้อมประกาศกำหนด JAS-W3 แปลงสิทธิซื้อหุ้นสามัญภายใน 30 ธ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น)
SUPER รุกจีนลงทุนโซลาร์ฯ 792 ล้าน 20 MW
+ บอร์ด SUPER ไฟเขียวบริษัทย่อย "SSE-HK1" รุกแดนมังกร ลงทุนโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 20 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 792.501 ล้านบาท จ่อขายไฟเข้าระบบภายในสิ้นปี 59 หนุนยอด COD เพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์(ข่าวหุ้น)
CK-STEC ซิวเพิ่มสัญญาที่ 5 สายสีส้มมูลค่า 4.9 พันล้าน
+ "CK-STEC" ในนาม CKST ซิวงานโยธาสัญญาที่ 5 รถไฟฟ้าสายสีส้ม เสนอต่ำสุดที่ 4,901 ล้านบาท จากราคากลาง 4,915 ล้านบาท หลังก่อนหน้านี้คว้าได้แล้ว 2 สัญญา มูลค่ารวมกว่า 42,270 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
ALT ส่งซิกปีหน้ารายได้โตไม่หยุด รับอานิสงส์โอเปอร์เรเตอร์เร่งลงทุนมากขึ้น
+ "ALT" มั่นใจปี 60 โตไม่หยุด รับอานิสงส์โอเปอร์เรเตอร์เร่งลงทุนมากขึ้น จ่อบุ๊ครายได้ธุรกิจให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น พร้อมลุ้นบันทึกกำไรพิเศษคดีผิดสัญญาใช้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง ล่าสุดภาครัฐลุยลงทุนย้ายสายสื่อสารลงดิน(ข่าวหุ้น)
SPRC ซ่อนเงินปันผลเด่น มีแววชนเป้าหมาย 15 บาท
+ โบรกเจาะพื้นฐานหุ้นกลุ่มโรงกลั่นชู SPRC ผลตอบแทนเงินปันผลเด่นในระดับ7.8% ราคาเป้าหมาย 15 บาท อิงกับ PBV 1.5 เท่า ด้วย ROE สูงที่สุดในกลุ่มโรงกลั่น จับตากลุ่มหุ้นโรงกลั่นจะกลับมาได้รับความสนใจในไม่ช้านี้ จาก Sentiment ที่จะปรับดีขึ้นในระยะสั้นหนุนด้วยกำไรสต๊อกน้ำมัน ต่อด้วยการเติบโตในระยะยาว(ทันหุ้น)
กลุ่ม'PTT' โชว์เงินสด 4 แสนล. ตระเวนซื้อกิจการปิโตรเลียม
+ กลุ่ม PTT เงินสดล้นมือ 4 แสนล้านบาท เตรียมลุยซื้อกิจการแหล่งปิโตรเลียม เน้นการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มองทิศทางราคาน้ำมันปีหน้าอยู่ในระดับ 50-55 ดอลลาร์ โบรกชี้ปี 2560 ตลาดน้ำมันดิบจะเข้าสู่จุดสมดูล หนุนหุ้นน้ำมันต้นน้ำอย่าง PTTEP และ PTT แนะสอยเข้าพอร์ต(ทันหุ้น)
'AAV 'ผลงานก้าวกระโดด อัพไซด์ 31%-เป้า 8.20 บ.
+ AAV อัพไซด์สูง 31.2% จากราคาเป้าหมายที่ 8.20 บาท แนวโน้มผลงานปี 2559 โตเกือบเท่าตัว ไม่ต่ำกว่า 2.1 พันล้านบาท จากราคาน้ำมันตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ หนุนท่องเที่ยวทั้งปีมีแนวโน้มเติบโตดีกลยุทธ์ขยายตลาดโดยการเปิดเส้นทางการบินใหม่เข้าสู่ CLMV และอินเดียมากขึ้น ยังครองแชมป์สายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก และมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศ(ทันหุ้น)
IVLเดินเกมรุกPET ลุยซื้อวัตถุดิบต่างแดน ป้อนโรงงานในอเมริกา
+ IVL เดินเกมมุ่งเป็นผู้ผลิต PET ที่มีการบูรณาการในแนวดิ่งมากที่สุดในอเมริกาเหนือล่าสุดเซ็นสัญญาซื้อวัตถุดิบระยะยาวสำหรับโรงงานก๊าซแครกเกอร์ในสหรัฐอเมริกา เพื่อผลิตเอทิลีน โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 420,000 ตันต่อปี และผลิตโพรพิลีน จำนวน 20,000 ตันต่อปี (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์