WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
     SET INDEX วานนี้ยืนเหนือ 1,530 จุดไม่ได้ เกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นหลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียแกว่งในกรอบแคบ เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในคืนวันที่ 14 ธ.ค. ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 8.96 จุด มาอยู่ที่ 1,521.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,272 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 144 ล้านบาท และ Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 7,008 สัญญา แต่ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 496 ล้านบาท

 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
ผลการประชุมเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า มากกว่าก่อนหน้าที่ 2 ครั้ง
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดยน้ำมันปรับตัวลงแรงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า
ติดตามการพิจารณาแผนฟื้นฟู SSI โดยศาลล้มละลายกลางวันนี้
ติดตามการประชุม BoE ค่ำวันนี้
ตลาดหุ้น Nikkei เปิดบวกเด่น ตอบรับเชิงบวกต่อค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

 

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันแรกในรอบ 6 วันทำการ)
SET INDEX วันนี้มีโอกาสเปิดย่อตัวทดสอบด่าน 1,500-1,505 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า เป็น 1.50% จากเดิมคาดการณ์ไว้เพียง 2 ครั้ง หรือ 1.25% ระดับสูงสุดในปีหน้า จากปัจจุบัน 0.75% ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าในอัตราเร่ง สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นในเอเชีย / ตลาดเกิดใหม่ ในช่วงสั้นๆ รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า นำโดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานลง
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าแนวรับ 1,500 จุด จะทำงานได้แข็งแกร่ง แม้ว่าบรรยากาศรอบเอเชียวันนี้จะตอบรับในเชิงลบต่อผลการประชุมเฟดคืนวานนี้ เพราะเม็ดเงินจาก LTF / RMF ที่ทยอยเข้าตลอดเดือนธ.ค. อีกทั้งสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินโลก ที่กลับมาถือเงินสด ทำได้เพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ท้ายสุดเงินทุนจะกลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้น เพราะเมื่อเฟดมั่นใจที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ย่อมสะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพมากพอ เป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกัน
ทั้งนี้กลุ่ม Domestic Play วันนี้คาดว่าจะมีความโดดเด่น เหนือ Global Play
กลยุทธ์การลงทุน "เข้าสะสมหุ้นเป้าหมายเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย" เพื่อรอขายทำกำไรในช่วงที่เหลือของเดือนนี้

 

Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BJC : ราคาปิด 50.50 บาท ราคาเหมาะสม 52.00 บาท
a) มีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ เนื่องจาก BJC ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี FTSE Thailand Large Cap ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักดัชนีในวันพรุ่งนี้
b) คาดกำไรปกติ 4Q59 จะเติบโตทั้ง yoy & qoq และเป็นระดับสูงสุดของปี เนื่องจากเป็น High Season ของทั้ง BJC และ BIGC และเป็นไตรมาสแรกที่จะได้ประโยชน์เต็มที่จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงแบบเต็มไตรมาส นอกจากนั้น ยังได้แรงหนุนจากมาตรการ Shopping ช่วยชาติ#2 ที่จะช่วยหนุนยอดขายของ BIGC
c) กำไรสุทธิปี 2560 คาดว่าจะเติบโตสูงสุดในกลุ่มค้าปลีก เพิ่มขึ้นถึง +85.6% yoy เป็น 6,589 ล้านบาท และ Valuation น่าสนใจซื้อขายระดับ PBV2560 ที่ 1.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีกที่ 3.9 เท่า

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$141 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$154 ล้าน
ทั้งนี้ต่างชาติลดน้ำหนักตลาด TIP ต่อเนื่อง

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีกเล็กน้อย
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เล็กน้อย 144 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 1,761 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,958 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิต่ำกว่า 80,000 ล้านบาทเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 79,040 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short อีกครั้ง มากถึง 7,008 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เนื่องจาก S50Z16 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 6 เท่ากับ 2.21 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium 3.44 จุดก็ตาม และทำให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้คงสถานะ Long สุทธิแต่หลุด 30,000 สัญญา เป็น 23,300 สัญญา
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง เพียง 496 ล้านบาทเท่านั้น ภายใต้ราคาพันธบัตรที่ปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 3.51bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.13bps ปิดที่ 2.762%

 

Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 427 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 908 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 47 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 51 หลักทรัพย์

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิวันที่ 6 เป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิเพียง 89 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 255 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 6,303 ล้านบาท โดยสะสมกลุ่มพลังงานเป็นหลัก 390 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 270 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มค้าปลีก 218 ล้านบาท และกลุ่มอาหาร 211 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

 

สหรัฐอเมริกา
การประชุมเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า:
- อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับขึ้นเป็น 0.50-0.75% จาก 0.25-0.50% ตามที่ตลาดคาด
- อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าขยับขึ้นเป็น 1.25-1.50% จากเดิม 1.00-1.25% หรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ส่วนปี 2561 โอกาสขึ้น 2-3 ครั้ง และปี 2562 อีก 3 ครั้ง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวขยับเป็น 3.0% จาก 2.9%
- อย่างไรก็ตาม เฟดยืนยันที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ มากกว่าการกำหนดตารางเวลาการขึ้นที่ชัดเจน
- เฟดปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ขึ้นจากเดิม 1.8% เป็น 1.9% ส่วนปี 2560 คาดเติบโต 2.1% จากเดิม 2.0% ปี 2561 คงที่ที่ 2.0% ด้วยประมาณการ GDP ในระยะยาวที่ 1.8% ไม่เปลี่ยนแปลง
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
- ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.1% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 0.4% mom และเดือนก่อนหน้า 0.6% mom ยอดขายรถยนต์ลดลง 0.5% mom เป็นการปรับฐานลงแรงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2559
- ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนพ.ย. หดตัว 0.4% mom มากกว่า Bloomberg consensus คาด -0.2% mom และเดือนก่อนหน้า 0.1% mom เนื่องจากสภาพอากาศที่อุ่น ทำให้ผลผลิตของกระแสไฟฟ้าลดลงมากถึง 4.4% mom

ยุโรป
นายกฯ อิตาลีคนใหม่ผ่านการโหวตรับรอง: นาย Gentiloni ได้รับการรับรองจากสภาล่าง ด้วยเสียง 368 ต่อ 105 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในช่วงของการเตรียมสู่การเลือกตั้งในต้นปีหน้า ทั้งนี้นาย Gentiloni จะต้องได้รับการรับรองจากสภาสูง ซึ่งจะมีการลงคะแนนวันที่ 14 ธ.ค.นี้
ผลผลิตภาคอุตฯ ของอียูชะลอตัว: เดือนต.ค.ลดลง 0.1% mom สวนทางกับที่ Reuters Poll คาดเพิ่มขึ้น 0.2% mom และเป็นการลดลงเดือนที่ 2 ทั้งนี้เป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตในสายการผลิตขั้นกลาง และการผลิตในสินค้าที่ไม่คงทนด้านอุปโภคบริโภคที่ลดลง สะท้อนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวใน 4Q59
ภาวะการจ้างงานอังกฤษลดลง: อัตราการว่างงานเฉลี่ย 3 เดือนสิ้นสุดเดือนต.ค. ทรงตัวที่ 4.8% สอดคล้องกับที่ Reuters Poll อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ถูกจ้างงานกลับลดลง 6,000 ตำแหน่ง เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ 2Q58 แต่จำนวนแรงงานที่ตกงานก็ลดลง 16,000 ตำแหน่งเช่นกัน สะท้อนภาวะการจ้างงานที่ทรงตัวในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ภายใต้อัตราการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูง
ธนาคารกลางไอซ์แลนด์ลดอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 7 วัน ลดลง 25bps เป็น 5.00% เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 2 ในรอบ 4 เดือน หลังค่าเงิน Krona แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไอซ์แลนด์
โอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.อีก: กลุ่มโอเปก ผลิตน้ำมันในเดือนพ.ย. เท่ากับ 33.87 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค. 150,000 บาร์เรล/วัน เป็นระดับการผลิตสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นอย่างน้อย

จีน
จีนตั้งเป้าใช้เงินลงทุน US$2.60 แสนล้านเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในปี 2563: National Development and Reform Commission (NDRC) วางแผนที่จะลงทุนด้านการท่องเที่ยวและภาคบริการสาธารณะ โดยตั้งเป้าใช้เงินราว 2.0 ล้านล้านหยวนในการลงทุนภาคการท่องเที่ยวภายในปี 2563 เพื่อเป็นปัจจัยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในอุตฯ นี้ คาดว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะแตะระดับ 7 ล้านล้านหยวนภายในปี 2563 และมีสัดส่วนกว่า 10% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

เอเชียแปซิฟิก
ADB ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้ลงเหลือ 5.6%: ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียในปีนี้ ลงสู่ระดับ 5.6% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.7% เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนารายใหญ่ของเอเชีย ส่วนในปี 2560 นั้น ADB ได้คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเอาไว้ที่ระดับ 5.7%

ไทย
ไม่มี

Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!