- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 December 2016 16:46
- Hits: 1288
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนในแดนบวก แกว่งตัวผันผวนแคบ ๆ ทำจุดสูงสุดของวันที่ 1532.84 จุด เพิ่มขึ้น 7.43 จุด โดยได้แรงหนุนหลักจาก PTT, PTTEP ก่อนที่จะเผชิญแรงขายกดดัชนีไหลลงอย่างต่อเนื่องพร้อมกับสลับขึ้นลงอยู่ในแดนบวกและลบมีจุดต่ำสุดของวันที่ 1522.84 จุด ลดลง 2.57 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 10 จุด สำหรับหุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ PTT, PTTEP, SCB, PTL, SCI, GUNKUL ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1526.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 43,866 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตัวแรง ขยับเดินหน้าทำ New High ต่อที่ 1532 จุด ก่อนที่เผชิญแรงขายกดดัชนีอ่อนตัวลงทำ Low ที่ 1522 จุด พร้อมกับทำปิดที่ใกล้จุดต่ำสุดของวัน ส่งผลกราฟแท่งเทียนดูไม่ค่อยสวยสักเท่าไร แต่จากการที่อ่อนตัวแล้วไม่หลุด High เดิมที่เพิ่งเบรกขึ้นมา ทำให้ยังไม่เสียทิศทางของการขึ้นไปทดสอบ 1540-1550 จุด ซึ่งคาดว่าการขึ้นนั้นน่าจะเป็นลักษณะที่ค่อย ๆ ขึ้นมากกว่ากับปรับตัวขึ้นแรง ๆ และอาจจะมีพักระหว่างทาง จากภาพรายชม.เกิดสัญญาณเตือน Bearish Divergence ใน RSI มองแนวรับ 1518-1522 จุด แนวต้าน 1532-1537 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1510// 1500 จุด Resistance 1530 // 1540-1550 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) กลุ่มรับเหมาฯ : การประมูล รฟฟ. สายสีส้ม ITD CK STEC UNIQ ได้รับงาน
(+) ANAN : คาด Presales ปี 2016 ทำได้ดีกว่าเป้า / กำไรเริ่มเข้าสู่ช่วงเติบโตสูง
(+) BCH : แนวโน้มกำไรทั้งปีเติบโตดีขึ้นถึง 38% ดาดปีหน้าโตต่อเนื่อง
(0) BCP : ปรับเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายธุรกิจสร้างความแข็งแกร่งระยะยาว
(+) KTBST - ENERGY : กลุ่มผู้ผลิตตกลงลดการผลิต 5.58 แสนบาเรลต่อวัน ซาอุฯระบุ อาจลดกำลังการผลิตของประเทศเพิ่มเติมขึ้นกับภาวะราคาน้ำมัน
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลาดต่างประเทศ ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยหยุดไป มี 2 เรื่องที่มีผลมาถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้
1.โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC ที่ทราบผลเช้าวันพฤหัส ตามเวลาในประเทศไทยนั้น มีสูงมาก (คาดการณ์ +0.25%) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมาตลอดทั่งสัปดาห์ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี การตอบรับของตลาดต่อเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไปที่ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันไปกี่ครั้ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ของรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นไปถึง 3.18% ตลาดหุ้น Emerging market ไม่ได้กังวลต่อเงินไหลออกจากเรื่องนี้ เพราะไปให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสหรัฐฯมากกว่า แต่ตลาดพันธบัตร น่าจะเห็นเงินของนักลงทุนไหลออก เพราะเป็นลบจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น
2. การประชุมผู้ผลิตน้ำมัน OPEC ร่วมกับ Non-OPEC เมื่อวันเสาร์ ที่สรุปผลตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ คือกลุ่ม Non-OPEC จะปรับลด 5.58 แสนบาร์เรล เมื่อรวมกับกลุ่ม OPEC ที่ประกาศลด 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน รวมกันจึงอยู่ที่ 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ทั้งนี้จะมีการพิจารณาทุกๆ 6 เดือน ผลการประชุมออกมาเป็นบวกต่อราคาน้ำมัน โดยมีการคาดการณ์กว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะแตะ $60 เหรียญ ได้ท่ามกลางความกังวล หากราคาน้ำมันเกิน $55 เหรียญ ที่จะมีปริมาณน้ำมันจาก Shale Oil เข้ามาในตลาดมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน และโรงกลั่นน้ำมัน และบวกต่อภาพรวมของตลาด ด้วย
สำหรับการเมืองของ อิตาลี เราเห็นว่าตลาดกำลังจับดูว่า หลังนาย เปาโล เจนติโลนี สังกัดพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวกับ นายเรนซี นายกรัฐมนตรีคนก่อน จะมีแนวนโยบายอย่างไร แต่อย่างน้อย เราคาดว่า ความกังวลก่อนหน้านี้ที่ว่าพรรคฝ่ายค้านจะขึ้นเป็นรัฐบาลและจะนำอิตาลีออกจากสมาชิกของอียู ก็จะลดลง ซึ่งจะเป็นบวกกับตลาดมากกว่า
ปัจจัยในประเทศ การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นบวก และของไทยเอง มีแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลเข้ามาช่วย ทำให้ตลาดกลับมามีแรงซื้ออีกครั้ง ทั้งในฝั่งของนักลงทุนต่างประเทศ และผู้ซื้อหน่วยลงทุน LTF-RMF อีกทั้ง จะมีแรงซื้อจากคนที่ขายหุ้นไปก่อนเข้าวันหยุดยาวเข้ามาอีกด้วย เราจึงมองทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ ว่าจะเดินหน้าบวกต่อจากวันก่อน แต่แรงซื้อจะไม่รุนแรง เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ น่าจะรอดูผลประชุม FOMC ก่อน
Event สำคัญๆ สัปดาห์นี้ นอกจากประชุม FOMC (13-14) จะเป็นการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (15) และ การประกาศรายชื่อหุ้นที่จะคำนวณ SET50-SET100
กลยุทธ์การลงทุน จากภาพตลาดหุ้นว่ายังบวกต่อ ปัจจัยถ่วงตลาดมีน้อยลง แม้ตัวเลือกหรือหุ้นจะมีให้เลือกไม่มาก เนื่องจากราคาหุ้นที่นิยมเล่นกัน ต่างก็ขึ้นมามาก การเข้าซื้อ จึงต้องพิจารณาเป็นรายกลุ่ม รายตัวไป โดยกลุ่มที่จะเป็นตัวนำตลาดวันนี้ จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน (สินค้าโภภัณฑ์) และหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันฯ แต่หุ้นที่ถูกกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เช่น กลุ่มสายการบิน อาจถูกมองเป็นลบ จากต้นทุนที่สูงขึ้น ......... สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ PTTEP , TOP , BBL , CPALL , CPF , MINT , ILINK , WORK , KCE
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (09 ธ.ค.) - SET Index ปิดที่ 1,526.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 43,866 ล้านบาท นักลงทุนบางส่วนมีการชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุมเฟดและการประชุมระหว่าง OPEC และ Non-OPEC
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,796.43 จุด เพิ่มขึ้น 39.58 จุด หรือ +0.20%ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ และทำ New High ต่อเนื่องหลังได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ปิดลบ -0.5% แตะที่ 353.74 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ +2.6% ปิดที่ 52.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
เศรษฐกิจจีน - นายเกิง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางการจีนมีความกังวลต่อถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ในเรื่องของนโยบายจีนเดียว
เศรษฐกิจจีน - นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แสดงความมั่นใจว่า จีนจะประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายด้านเศรษฐกิจและสังคมปี 2559 และเชื่อว่าโครงการต่างๆภายใต้แผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 13 นั้นจะเริ่มต้นด้วยดี
เศรษฐกิจญี่ปุ่น - นักวิเคราะห์ญี่ปุ่นระบุว่า รายงานสำรวจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธหน้า จะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ผลิตของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส
กลุ่มรับเหมาฯ - ผลการยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ผู้ยื่นราคาต่ำสุดได้แก่ CK-STEC เสนอต่ำสุดสัญญา 1-2, ITD สัญญา 3, UNIQ สัญญา 4 และ 6 ด้านสัญญา 5 จะรู้ผลภายในสัปดาห์นี้
น้ำมัน - กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันร่วมกับกลุ่มประเทศนอกโอเปกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จำนวน 1.758 ล้านบาร์เรล/วัน
News Release :
JAS แม่-ลูกเทรดสนั่น!เก็งกำไรก่อนแปลงW3 จับตากำหนดขายหุ้นซื้อคืน-ลุ้นติดโผ SET50
+ JAS แม่-ลูกเทรดสนั่น! แห่เก็งกำไรส่วนต่างราคา ก่อน JAS-W3 ถึงกำหนดแปลงสิทธิซื้อหุ้นสามัญสิ้นเดือนนี้ ราคาจูงใจต่ำกว่าหุ้นแม่ 0.50 บาท จับตา 14-16 ธ.ค.นี้ กำหนดเวลาขายหุ้นซื้อคืน 1,200 ล้านหุ้น พร้อมลุ้น JAS ติดคำนวณ SET50 และ SET100 (ข่าวหุ้น)
"PSH"เนื้อหอมกองทุนไล่ซื้อหุ้น ปันผลสูง7% ต่อปี
+ "PSH" เนื้อหอม! กองทุนในประเทศและต่างประเทศจ้องทยอยเก็บหุ้น หลังจากลดพอร์ตก่อนแปลงสิทธิหุ้น PS เป็น PSH โบรกฯ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท เชื่ออนาคตเติบโตต่อเนื่อง-ปันผลดียีลด์เฉลี่ย 7% ต่อปี(ข่าวหุ้น)
ALT เร่งปิดดีลคดีCATปีนี้ จ่อรับทรัพย์เกิน400ล้านชา
+ ALT เจรจานอกรอบ CAT เร่งหาข้อยุติค่าชดเชยเสียหายกรณีผิดสัญญาใช้บริการโครงข่าย หลัง CAT สนใจเช่าโครงข่ายเพิ่ม คาดได้ข้อสรุปในปีนี้ จ่อรับทรัพย์เกิน 400 ล้านบาท เล็งเซ็นสัญญาให้เช่าโครงข่ายกับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ต้นปี 60 (ข่าวหุ้น)
SPALIขยายบ้านเฟส2 ตลาดอสังหาฯระยองโต โชว์ยอดขายทะลุ300ล้าน
+ SPALI ขยายบ้านเดี่ยวเฟส 2 โครงการ "ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ ระยอง" หลังกวาดยอดขายแล้วกว่า 300 ล้านบาท เชื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ระยองเติบโตต่อเนื่อง(ข่าวหุ้น)
SITHAIลุยร่วมทุนพันธมิตร ผุดโรงงานแห่งใหม่เมียนมา
+ SITHAI เปิดเกมร่วมทุนพันธมิตร ลุยสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศเมียนมา บิ๊ก "สนั่น อังอุบลกุล" สบจังหวะความต้องการล้นทะลัก ลุยตั้งโรงงานทำเงิน ส่วนปี 2560 ปักหมุดยอดขายโต 5% เชื่อเศรษฐกิจฟื้นหนุนยอดขายสดใส แถมรับทรัพย์โรงงานที่ฮานอยเต็มปี เตรียมทุ่มงบ 1 พันล้านบาท ซื้อเครื่องจักร-ตั้งโรงงานแห่งใหม่ในประเทศเวียดนาม หนุนฐานโตแกร่ง(ทันหุ้น)
BSBMหลอมผลงานร้อนระอุ เหล็กโลกทะยาน-ราคาต่ำบุ๊ก
+ BSBM ทะยานรับราคาเหล็กพุ่งพรวดแถมจีนลดกำลังการผลิตหนุนออเดอร์ใหม่ไหลเข้าไม่หยุด จับตาจ่อเซ็นสัญญารับงานก้อนโตหนุนงบเติบโตร้อนแรง พร้อมติดเครื่องควานหาพันธมิตรแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เหล็กรับดีมานด์ที่ขยายตัวพ่วงโปรเจ็กต์รัฐ และอสังหาหนุนอีกทาง ขณะที่รายได้ปี 2560 มั่นใจโตกว่า 10% ราคาหุ้นต่ำกว่า Book Value ที่ 1.69 บาท(ทันหุ้น)
AUCT ผลงานฟื้นคืนชีพค่าธรรมเนียมพุ่งเท่าตัว
+ AUCT จ่อชงบอร์ดทำแผนงานปีหน้า ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เล็งรุกช่องทาง N-user ใส่เกียร์ลุยบริษัทร่วมทุน รับรถยนต์เข้าประมูลโดยตรง กินรวบค่าธรรมเนียมเพิ่มเท่าตัวอยู่ที่ 1.6 หมื่นบาทต่อคันจากเดิม 8,000 บาทต่อคัน ฟากผู้บริหารชี้ตลาดรถยนต์มือสองโต 8% เชื่อผลงานพลิกฟื้น คอนเฟิร์มรายได้ปีนี้ผ่านฉลุย โบรกให้ต้าน 10.60 บาท (ทันหุ้น)
SAMARTจ่อเซ็นงานพันล. ปี60จัดทัพลุยธุรกิจเต็มสูบ
+ SAMART จ่อเซ็นงานใหม่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ภายในปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้าและอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง หวังได้รับงานเติม Backlog ทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต ขณะที่เดินหน้าลุยทุกธุรกิจเต็มสูบ เล็งคลอดแผนปี 2560 ต้นปีหน้า(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์