- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 December 2016 16:45
- Hits: 1272
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งตัวแคบ รอผลประชุมเฟด
KGI คาด SET วันอังคารไซด์เวย์ ตลาดชะลอดูผลประชุมเฟดคืนวันพุธ (ศุกร์ที่แล้วแกว่งตัว ตามคาด) แม้หุ้นน้ำมันยังเด่นและอาจค้ำยันดัชนีฯ ได้บ้าง หลังผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกมีมติลดปริมาณผลิต 5.58 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่ภาพใหญ่ฟันด์โฟลว์น่าจะชะลอ หลังบอนด์ยิลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ขึ้นใกล้ระดับ 2.50% ก่อนการตัดสินใจของ FOMC ในคืนวันพุธ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.50-0.75% ด้านปัจจัยภายใน valuations ของตลาดหุ้นที่อยู่ในระดับสูง ยังคงส่งผลให้การปรับขึ้นจากปัจจัยภายนอก เป็นไปอย่างจำกัด ส่วนปัจจัยบวกหลักในสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุม ครม. ซึ่งน่าจะมีการเห็นชอบมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งน่าจะหนุนจิตวิทยาของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ASEFA, TNR / ซื้อสะสม COM7*
ASEFA (เป้า Consensus 8.9 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวทดสอบแนวต้านกรอบ Sideway ที่ 7.75 บาท หาก Breakout ผ่านได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 8.0 บาท และ ±8.5 บาท ตามลำดับ แนวรับ 7.5 บาท (Stop loss 7.2 บาท) 2) เราประเมินเป็นหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการประมูลโครงการภาครัฐฯต่างๆ ต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว โดย ASEFA เป็นผู้ผลิตและติดตั้งระบบไฟฟ้า คาดจะเข้าร่วมการประมูลงานระบบไฟฟ้าในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการรถไฟฟ้า โครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการย้ายสายไฟลงใต้ดิน เป็นต้น 3) Bloomberg consensus คาด PE ปี 2560 ยังต่ำเพียง 13.2 เท่า ขณะที่คาด EPS เติบโต 15.7% CAGR (2558 - 2561)
TNR (เป้า Consensus 20.26 บาท ... คาดมีโอกาสปรับขึ้น) 1) คาดรายได้ปี 2560 มีโอกาสแตะ 1.6 – 1.7 พันล้านบาท โต 23 – 30% YoY (Consensus คาดเพียง 1.4 – 1.5 พันล้านบาท) จาก i) Backlog งานประมูลในมือที่มีแล้วราว ±300 ล้านบาท และมีโอกาสได้ได้งานประมูลเพิ่มเติมใน 1Q60 อีก ii) การเปิดการผลิตโรงงานแหลมฉบัง (ปีนี้หยุดการผลิต ปรับเครื่องจักรใหม่ทันสมัยขึ้น) ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มจากปีนี้ทันที +30% รองรับงานประมูล และทำให้อัตรากำไรดีขึ้น (ปีนี้ต้องรับรู้ค่าเสื่อมฯโรงงานแหลมฉบัง) iii) ดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากปีนี้ราว 10 ล้านบาท (ปีหน้าเกือบศูนย์) iv) ประเมินอัตรากำไรสุทธิในกรอบ 20-22% ... คาดกำไรปีหน้าจะอยู่ในกรอบ 320 – 374 ล้านบาท (EPS 1.07 – 1.25 บาท) 2) หากอิง PE 25 เท่า จะได้ราคาพื้นฐาน 26.7 – 31.2 บาท (PE ปี 2560 ของหุ้น Karex ผู้ผลิตถุงยางฯในมาเลเซียจาก Bloomberg consensus = 26 เท่า) 3) คาด 4Q59 กำไรโต QoQ เพราะเป็น High season (ผลิตถุงยางอนามัยเตรียมช่วงเทศกาลปีใหม่และวาเลนไทน์) 4) ปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคายางพารา มีผลเพียงเล็กน้อยเพราะคิดเป็นเพียง 15% ของต้นทุนการผลิต 5) ประเมินแนวรับ 26.25 บาท แนวต้าน 27.25 บาท (กราฟราย 60 นาที) หากทะลุผ่านแนวต้านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 28.25 บาท และ 29.25 บาท
COM7* (เป้าสูงสุดใน Consensus 17.5 บาท … ปรับขึ้นตามคาด) 1) แนะนำ “ซื้อสะสม” แนวรับ ±14 บาท แนวต้านแรก 14.8 บาท ถัดไป 15.4 บาท 2) ประเมินกำไร 4Q59 มีโอกาสทำนิวไฮ (คาดจะมากกว่าประมาณการฯ Consensus) จาก i) High season ii) iPhone7 iii) การเป็นพันธมิตร TRUE* (ขายซิม True รับค่าคอมฯ และเข้าบริหาร True shop แล้ว 30 สาขา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) iv) ได้แรงหนุนจากมาตรการช้อบช่วยชาติ ที่มีโอกาสจะเข้า ครม วันนี้
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มค้าปลีก (COM7*, ROBINS*, TVD, CPALL*, TACC) คาดวันนี้ ครม พิจารณามาตรการ “ช้อบช่วยชาติ” เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกอาทิ COM7*, ROBINS*, TVD ขณะที่เริ่มการแจกเงินผู้มีรายได้น้อยแล้ว คาดเป็น Sentiment บวกต่อการบริโภคในประเทศ (ระดับรากหญ้า) อาทิ CPALL*, TACC
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (THAI*, MINT*, SPA) วันนี้ นสพ โพสต์ทูเดย์ลงประเด็นข่าวมีโอกาสที่ ครม จะพิจารณายืดอายุมาตรการลดภาษีเที่ยวเพิ่ม 1.5 หมื่น ยาวถึง 1Q60 และรวมกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เน้น จีน) คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น THAI*, MINT*, SPA
หุ้นมีข่าว
(+) บิ๊กรับเหมาลุ้นสัญญา 5 รถไฟฟ้าสายสีส้ม 15 ธ.ค. นี้ (ข่าวหุ้น) การประกาศผลประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เร็วกว่าคาด สร้างความประหลาดใจแก่เรา โดยกลุ่มกิจกรรมร่วมค้า CK* และ STEC* ชนะการประมูลสัญญาที่ 1 และ 2 ขณะที่ ITD* ชนะการประมูลสัญญาที่ 3 และ UNIQ* ชนะการประมูลสัญญาที่ 4 และ 6 ทั้งนี้ รฟม. คาดจะสามารถประกาศผลประมูลสัญญาที่ 5 ได้ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ ด้วยการประกาศงานรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เร็วกว่าคาดและงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐบาลที่รอประมูลอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม (ราคาเป้าหมาย 39.50 บาท)
(+) กลุ่ม non-OPEC จะลดการผลิตของตัวเองลง 558KBD (Bloomberg) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากลุ่ม non-OPEC 11 ประเทศตกลงที่จะลดการผลิตลง 558KBD มีผลตั้งแต่มกราคม 2017 ซึ่งตัวเลขที่ออกมาน้อยกว่าตลาดคาดไว้ที่ 600KBD โดยมีรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดใน 11 ประเทศกลุ่ม non-OPEC จะลดการผลิตลง 300KBD ขณะที่เม็กซิโกจะลดการผลิตรองลงมาเป็นอันดับสองที่ 100KBD นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียยังส่งสัญญาณว่าประเทศพร้อมที่จะลดการผลิตมากกว่าที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ที่ 10.06MBD ซึ่งส่งผลให้ตลาดน้ำมันตอบรับในเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน เห็นได้จากราคาน้ำมันดิบดูไบในวันนี้กระโดดไปทำจุดสูงสุดใหม่ของปีที่ US$53.9/bbl ถึงแม้ว่าเราจะแนะนำให้เกร็งกำไรใน PTTEP (PTTEP.BK/PTTEP TB)* เนื่องจากบริษัทฯ น่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากข่าวนี้ในระยะสั้น แต่เราเห็นว่าราคาน้ำมันดิบมี upside จำกัดแล้วเพราะหลังจากนี้ราคาน้ำมันดิบน่าจะถูกกดดันจากกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นของสหรัฐจาก Shale oil นอกจากนี้ การประชุม Fed ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ ซึ่งตลาดคาดว่ามีโอกาลปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ย่อมส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบด้วยอีกแรงหนึ่ง
(+) THAI* ฉลุยมาตรฐานยุโรปลุยเพิ่มอัตราบรรทุกขนส่ง (ทันหุ้น) กพท.โล่งใจหลัง THAI ไม่ติดโผบัญชี "EU Air Safety List" ของสหภาพยุโรป ฟุ้งพัฒนามาตรฐานด้านการบินได้ดี ด้าน THAI ลุ้นผลงานไตรมาส 4/2559 ฟื้นตัวต่อเนื่อง รับอานิสงส์ไฮซีซันการท่องเที่ยว พร้อมเน้นเพิ่มอัตราขนส่งบรรทุกผู้โดยสาร ชดเชย Passenger Yield ชะลอตัว
(+ TICON, AMATA*) 'บีโอไอ' จัดหนักแผนดึงเงินลงทุนปี 60 หวังยอดขอรับส่งเสริมทะลุ 6 แสนล้าน-พุ่งเป้านิวเอสเคิร์ฟจากจีน (คมชัดลึก) บีโอไอเตรียมลุยแผนดึงทุนต่างชาติเข้าไทย เคาะตัวเลขปีหน้ายอดขอรับส่งเสริมกว่า 6 แสนล้านบาท เน้นกลุ่มอุตฯ เป้าหมายนิวเอสเคิร์ฟจากจีน หวัง เม็ดเงินลงทุนราว 8 หมื่นล้านบาท เตรียมจัดสัมมนาใหญ่โชว์ศักยภาพการลงทุนของไทยเดือนกุมภาพันธ์ ดึงซีอีโอองค์กรใหญ่ร่วมบรรยาย ให้นักลงทุนไทยเทศเข้าร่วมฟังกว่า 2.5 พันคน
(+) KSL แจ้งศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด บ.ย่อยได้เงินคืน28ล้าน + ดอกเบี้ย (ข่าวหุ้น) “KSL” เผยศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งพิพากษาให้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย คืนเงินบริษัทย่อย “น้ำตาลท่ามะกา” จำนวน 28.83 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.50% ภายใน 90 วัน
(+ STA, TRUBB) ตลาดโลกขาดยาง จี้รัฐบาลเก็บสต๊อก (โพสต์ทูเดย์) เครือข่ายสหกรณ์ยางเผย มาเลเซียต้องการซื้อยาง 3.1 แสนตัน สะท้อนตลาดโลกขาดแคลน จี้รัฐบาลออกมาตรการเก็บสต๊อกรอขายราคาดี นายประยูรสิทธิ์ คณานุรักษ์ ประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และประธานกรรมการสหกรณ์ สกย.อุตสาหกรรมยางปัตตานี (2015) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยางในตลาดโลกกำลังขาดแคลน เฉพาะประเทศไทยในปี 2559 ยางหายไปประมาณ 1.5 ล้านตัน ส่วนภาพรวมทั่วโลกยางหายไปประมาณ 20-30% ภาวะเช่นนี้ ควรเก็บยางสต๊อกเอาไว้ แล้วค่อยปล่อยออก เพราะราคายางที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรชาวสวนยางยังไม่เป็นจริง และไม่เป็นธรรม
(- SAT, AH) มอเตอร์เอ็กซ์โปจองต่ำเป้า (โพสต์ทูเดย์) มอเตอร์เอ็กซ์โป ปิดงานยอดจองต่ำเป้าหมายที่ตั้ง 5 หมื่นคัน สะท้อนตลาดรถยังชะลอตามเศรษฐกิจ รายงานข่าวจากบริษัท สื่อสากล ในฐานะผู้จัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 (มอเตอร์เอ็กซ์โป) เปิดเผยว่า ยอดจองรถยนต์ภายในงานตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค. 2559 มียอดจองอยู่ที่ 33,073 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 36,239 คัน โดยเป้าหมายยอดจองภายในงานปีนี้ตั้งไว้ที่ 5 หมื่นคัน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
THAI* (เป้าสูงสุดใน Consensus 34 บาท) ประเมินแนวรับ ±23 บาท แนวต้านแรก 24 บาท (เทรนไลน์) และถัดไปที่ 25 บาท ... ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 ได้แรงหนุนจาก High season + มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภาครัฐฯ
TRC* (เป้าสูงสุด Consensus 1.8 บาท) แนวต้านเทรนไลน์ขาลงที่ 1.52 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1.57 บาท และ 1.65 บาท ตามลำดับ แนวรับ 1.46 บาท (Stop loss 1.43 บาท สำหรับนักลงทุนระยะสั้น) ... คาดอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลท่อส่งก๊าซของ PTT* (ท่อก๊าซเส้นที่ 4 มูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท) + การปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ภายใน 1Q60 ปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ (มูลค่าลงทุนงานโครงสร้างเหมืองฯราว ±3.5 หมื่นล้านบาท)
SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) ประเมินแนวรับ 11.2 บาท แนวต้านแรก 11.7 บาท และถัดไป 12.5 บาท
PYLON (เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท) ประเมินแนวรับ 12.1 บาท แนวต้านแรก 12.6 บาท และถัดไปที่ 13.6 บาท
KSL (เป้า Consensus 4.5 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” และกำหนดจุด Trailing stop 4.3 บาท ... ประเด็นบวกเรื่องเอทานอลขาดตลาดฯ + คาดกำไรปี 2559/60 โตเด่น YoY จากการล๊อกราคาขายน้ำตาลได้ในราคาที่สูงกว่าฤดูหีบก่อนหน้า
VGI* (เป้าสูงสุด Consensus 5.5 บาท) หากยืนเหนือ 5.25 บาทได้ แนะนำ “ถือ / เก็งกำไร” ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 5.5 บาท และ 5.9 บาท ตามลำดับ ... ประเด็นบวกเรื่องการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ + มีโอกาสได้สัมปทานพื้นที่โฆษณาบนรถไฟฟ้าสายสีชมพู – เหลือง ที่ BTS* ชนะการประมูล
TVD (เป้าพื้นฐาน 3.60 บาท) แกว่งตัว Sideway รอสัญญาณการ Breakout กรอบแนวต้านที่ 2.40 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±2.7 บาท (Stop loss 2.2 บาท) ... ประเมินภาพรวมการจับจ่ายใช้สอย และการโฆษณาขายสินค้าทางช่องทีวีฟื้นตัวตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. หลังชะลอตัวในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และจะกลับมาเด่นอีกครั้งใน 1Q60
ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) แนวโน้มฟื้นตัวทดสอบแนวต้านแรก 10.8 บาท (เทรนไลน์) หากทะลุผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 11.7 บาท ... คาดกระทรวงดีอีเตรียมเสนอแผนโครงการอินเตอร์เนตหมู่บ้านเข้า ครม ภายในเดือนนี้ + ราคา Laggard ALT ที่ปรับขึ้นแรง
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) แนะนำ “ถือ” ประเมินแนวรับ ±4.3 บาท (Stop loss 4.2 บาท) ... ประเมิน Earnings Momentum เป็นขาขึ้นตั้งแต่ 4Q59 หลังการรวมงบ DMM ในเดือน ธ.ค.
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BA* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 30.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2559 – 60 ขึ้น 8.9% และ 8.1% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี คาดแนวโมกำไร 4Q60 จะอ่อนตัวลง QoQ เพราะ Low season ของเกาะสมุย แต่จะเติบโต YoY
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ยังอยู่ที่นัยรับ 1524 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1524 จุดนั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นในกรอบ 1524-1539 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1524 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1524-1511 จุด
แนวรับวันนี้ : 1524/1512 แนวต้านวันนี้ : 1531/1538
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]