- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 December 2016 16:50
- Hits: 1400
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เข้าใกล้เป้าหมายแล้ว ทำให้ upside เหลือน้อย เน้นทยอยขาย
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ขยับบวกต่อ ตามภาวะตลาดหุ้นเอเชีย เพื่อรอลุ้นผลประชุม ECB ว่าจะมีการขยายเวลา QE ตามคาดหรือไม่ แต่ในระหว่างวันก็ยังมีแรงขายช่วงบวกออกมากดดันอยู่บ้าง ทำให้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวค่อนข้างแคบในแดนบวก และอ่อนตัวเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ยังค่อนข้างสดใส หลัง ECB มีมติขยายเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ออกไปอีก 9 เดือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดบวกต่อเนื่องได้ดี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งกว่า 2% จากแรงซื้อเก็งกำไรก่อนที่จะมีการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกโอเปกในวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) คาดว่าจะช่วยหนุนให้ SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งบวกต่อได้อีกตามคาด อย่างไรก็ตามประธาน ECB ระบุว่าการลดวงเงิน QE ยังจะเริ่มต้นขึ้นหลังพ้นไตรมาส 1/2017 ทำให้การขยับบวกของตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มจำกัด ซึ่งช่วงนี้ SET ได้ขยับขึ้นมาใกล้ระดับดัชนีตามพื้นฐานที่ FSS ประเมินไว้แถว 1550 จุดจน upside ค่อนข้างจำกัดแล้ว นอกจากนี้ตลาดหุ้นกลุ่ม TIPs จะติดวันหยุดในวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค.นี้ด้วย ทำให้ต้องระวังแรงขายกดดันให้ SET ผันผวนและอ่อนตัวลงไว้ด้วย
กลยุทธ์ : SET เข้าใกล้เป้าหมายมากแล้ว ดังนั้นเน้นทยอยขายลดพอร์ต
แนวรับ 1524-1522 , 1518-1515 จุด
แนวต้าน 1527-1530 , 1532-1535 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT , SCN , WORK(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$474ล้าน นำโดยไต้หวัน US$392ล้าน เกาหลีใต้ US$87ล้าน และไทย US$30ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$35ล้าน และเวียดนาม US$9ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังจากการประชุม ECB ได้มีมติขยายระยะเวลา QE ไปอีก 9 เดือน (มากกว่าที่ตลาดคาด) ทำให้สภาพคล่องโลกยังอยู่ในระดับสูงต่อไป
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ECB เริ่มเห็นเศรษฐกิจยูโรโซนเป็นบวก การที่ ECB ขยายระยะเวลาซื้อพันธบัตร (QE) ออกไปอีก 9 เดือน จากเดิมที่จะหมดอายุ มี.ค. 2017 ให้สิ้นสุดเดือน ธ.ค. 2017 แต่จะลดขนาด QE ให้เหลือ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนนับตั้งแต่ เม.ย. 2017 จากปัจจุบัน 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็นการส่งสัญญาณ Tapering กลายๆ ซึ่งตีความเป็นบวกต่อเศรษฐกิจยูโรโซนว่าเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นพอเพียงที่ ECB จะเริ่มกระบวนการ Taper อย่างไรก็ตาม ผลระยะสั้นคือค่าเงินดอลลาร์ยิ่งแข็งค่า กดดันราคาทองคำ แต่ตลาดหุ้นโลกได้อานิสงส์จากสภาพคล่องโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อไป
(0) จับตา Fed ต่อ การขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 ธ.ค. และการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า ถูก priced in ในตลาดไปแล้ว แต่ยังต้องจับตา Dot plot อันใหม่ของ Fed ถ้ามีมุมมองไม่ต่างจากนี้มากนัก จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
(+) รู้ผลผู้ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 5 ใน 6 สัญญาวันนี้ วันนี้รฟม.จะประกาศผู้ที่ผ่านการประเมินข้อเสนอซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) พร้อมกับเปิดซองราคา ของสัญญาที่ 1 (ใต้ดิน ศูนย์วัฒนธรรม-รามคำแหง), 2 (ใต้ดิน รามคำแหง 12-หัวหมาก), 3 (ใต้ดิน หัวหมาก-คลองบ้านม้า), 4 (ยกระดับ คลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์) และ 6 (ระบบราง) วันนี้ ทั้ง 4 สัญญามีผู้เข้าประมูล 3 รายคือ 1. CK จับมือกับ STEC 2. ITD และ 3. UNIQ ราคาหุ้นอาจถูก take profit หลังรู้ผล เรายังชอบ CK (ราคาพื้นฐาน 44 บาท) มากที่สุด
(+) กลุ่มแบงก์ เป็นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐที่จะเพิ่มมากขึ้นในปีหน้าแม้จะยังไม่เห็นการเติบโตของสินเชื่อในทันทีก็ตาม จากสถิติในปี 2010 และปี 2012 ที่การลงทุนในประเทศขยายตัวสูงมาก กลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มแบงก์ เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด สอดคล้องกับกำไรของกลุ่มแบงก์ในปี 2010 และ 2012 ที่โตโดดเด่น +24% และ +29% ตามลำดับ ขณะที่กำไรของตลาด +35% และ +9% ตามลำดับ ในปี 2010 กลุ่มแบงก์ซื้อขายที่ PE 15 เท่า PBV 1.8 เท่า ส่วนปี 2012 มี PE 14.5 เท่า PBV 2.0 เท่า แต่ปัจจุบันมี 2017PE 10 เท่า PBV 1 เท่า ขณะที่เราคาดกำไรเริ่มฟื้น +8.4% ในปีหน้า เราคิดว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ลงทุนได้ในระยะยาว แนะนำซื้อ SCB ราคาพื้นฐาน 174 บาท และ KKP ราคาพื้นฐาน 71 บาท
(+) ASK ให้สินเชื่อรถเชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2017 +15% Y-Y สูงกว่าปีนี้ที่ +10% Y-Y เน้นสินเชื่อรถบรรทุก ซึ่งได้อานิสงส์จากการขนส่งในประเทศและการค้าชายแดนที่จะคึกคักขึ้นในปีหน้า ในบรรดาผู้เล่นในธุรกิจเดียวกัน ต้นทุนทางการเงินของ ASK ลดลงช้าที่สุดโดยเพิ่งเริ่มลดลงตั้งแต่ 3Q16 และใน 4Q16 จะมีหุ้นกู้ดอกเบี้ยสูงครบอายุอีก ทำให้ ASK ได้ประโยชน์เต็มที่เต็มปีในปี 2017 ในขณะที่บริษัทอื่นในกลุ่มรับรู้ประโยชน์ไปแล้วในปีนี้ กำไรของ ASK ในปีหน้าจึงเด่นสุด เราคาด +11.5% Y-Y สูงกว่า THANI ที่ +6.7% Y-Y ปัจจุบัน ASK มี 2017PE 9.5 เท่า ถูกกว่า THANI (12.9 เท่า) และคาด Dividend yield 6-7% สูงกว่า THANI (4.3-4.6%) เราแนะนำซื้อ ASK และชอบมากกว่า THANI ราคาพื้นฐาน 27 บาท ปรับขึ้นจากเดิม 25 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 ธ.ค. -จีน:สินเชื่อเดือน พ.ย.
12 ธ.ค. - ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย ปิดทำการ
13-14ธ.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
13 ธ.ค. -จีน:Industrial Production (พ.ย.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey (ธ.ค.)
14 ธ.ค. - ญี่ปุ่น:ดัชนี Tankan (4Q16)
- ยูโรโซน:Industrial Production (ต.ค.)
15 ธ.ค. - เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (ธ.ค.)
16 ธ.ค. -สหรัฐ:Housing starts, Building permits (พ.ย.)
20 ธ.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
21 ธ.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (พ.ย.)
22 ธ.ค. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP)ประชุม
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ต่อ หลัง ECB มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไปอีก 9 เดือนในการประชุมเมื่อวานนี้
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างแรงหลัง ECB มีมติขยายระยะเวลาของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปอีก 9 เดือน แต่จะลดวงเงินซื้อจากเดือนละ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนเหลือ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนหลังจากเดือนมี.ค.ปีหน้า
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวในกรอบ 35.55-35.70 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 50.84 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดจับตาดูการประชุมระหว่างกลุ่ม OPEC และ non-OPEC ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการตกลงเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมหรือไม่
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 5.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,172.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลัง ECB ขยายระยะเวลา QE ไปจนถึงสิ้นปีหน้าแต่ลดปริมาณการซื้อพันธบัตรต่อเดือนลง
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch