- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 December 2016 17:25
- Hits: 7935
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
แรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แรงหนุนจากยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.18%, 0.45%, 0.34%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นธนาคารของอิตาลีทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.85%, 0.49%, 1.26%, 4.15%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 0.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานการผลิตในกลุ่มโอเปก
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค หลังตลาดในภูมิภาคเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติเรื่องการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลี ยังคงมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานเข้ามา โดยเฉพาะ PTT แม้ว่าทางด้านบริษัทลูก PTTEP จะได้รับผลกระทบจากข่าวรัฐบาลอินโดนีเซียจะอายัดใบอนุญาตและสินทรัพย์ของ PTTEP จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในโครงการมอนทารา ช่วงเช้ามีแรงขาย แต่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับในกลุ่มพลังงาน เนื่องจาก PTTEP ได้แจ้งว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ทางด้านสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนธ.ค. อยู่ที่ 95.69 จุด อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) ปรับลดลง 8.47% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 104.55 จุด เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนทุกกลุ่มที่ปรับตัวลดลง โดยในส่วนนักลงทุนรายบุคคลมองว่า นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความผันผวนของการไหลของเงินทุนทั่วโลกจะมีผลกระทบต่อเนื่อง
ในขณะที่นักลงทุนสถาบันมองว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของต่างประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศมองว่า การไหลออกของเงินทุนจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากที่สุด กลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนรายบุคคลสนใจลงทุนมากที่สุดคือ หมวดธุรกิจท่องเที่ยวและสันทนาการ รองลงมาคือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดรับเหมาก่อสร้าง ส่วนหมวดที่ไม่น่าสนใจลงทุนคือ กลุ่มสิ่งพิมพ์ แฟชั่น ธนาคารตามลำดับ กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศสนใจหมวดพาณิชย์ รองลงมาคือหมวดธนาคาร และท่องเที่ยวและสันทนาการ ส่วนหมวดที่ไม่น่าสนใจลงทุนคือ หมวดธุรกิจสื่อ ธนาคาร และเหล็กตามลำดับ
ส่วนกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศสนใจหมวดพาณิชย์ รองลงมาคือหมวดรับเหมาก่อสร้าง ส่วนหมวดที่ไม่น่าสนใจลงทุนคือ ยานยนต์ เกษตร และธนาคารตามลำดับ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามสำหรับปีหน้า คือ ทิศทางของเงินทุนที่ไหลออกจากลุ่มประเทศเกิดใหม่น่าจะมีอย่างต่อเนื่อง นโยบายทางการเมืองของสหรัฐฯ ที่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ อาจกระทบต่อการส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะจีนซึ่งจะกระทบต่อไทยในทางอ้อม ทางด้านการซื้อขายน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ปรับตัวลง หลังมีรายงานปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกเดือนพ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 370,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 34.19 ล้านบาร์เรล โดยมาจากลิเบีย 60,000 ไนจีเรีย 80,000 บาร์เรล/วัน และแองโกลา 170,000 บาร์เรล/วัน ในส่วนแองโกลาที่ขยับขึ้นมา เพื่อใช้เป็นตัวเลขอ้างอิงในการลดกำลังการผลิตลงสู่ 32.5 ล้านบาร์เรล/วันตามมติของกลุ่มโอเปก เราคาดว่าประเด็นนี้จะกระทบต่อการซื้อขายราคาน้ำมันดิบไม่มาก และจะฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,490 จุด แนะนำ เก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]