- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 December 2016 17:11
- Hits: 8042
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวกได้เล็กน้อย พร้อมกับแกว่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1518.29 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารและอาหาร กดดันชีไหลลงเข้าสู่แดนลบ พร้อมกับแกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่องลงทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1498.57 จุด ลดลง 13.81 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 19.72 จุด
ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ PTT, AOT, ESSO, TFG, TOP, TNR ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1501.66 จุด ลดลง 10.72 จุด (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 42,089 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จนสามารถขึ้นมาทำ High ที่ 1523 ซึ่งเป็น High เดิม จะเห็นแนวดังกล่าวขึ้นมาทดสอบเป็นครั้งที่ 3 และไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งเป็นสัญญาณในเชิงลบ ทำให้วันศุกร์ที่ผ่านดัชนีพักตัวลง และภาพที่เปิดสูงปิดต่ำ ทำ High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า ส่งผลให้มีโอกาสพักตัวลงต่อ แต่มองแนวรับที่ 1490 จุดที่ไม่ควรหลุด หากหลุดทำให้เปิดความเสี่ยงในการลงลึก คาดดัชนีมีโอกาสพักตัวแต่ไม่น่าลึกและมีโอกาสฟื้นจากสัญญาณ Oversold ในภาพรายชม. แนวรับ 1490-1495 จุด แนวต้าน 1506-1513 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1500 // 1490// 1480 จุด Resistance 1520-1530 // 1540 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(-) KTBST comment - PTTEP รัฐบาลอินโดเตรียมระงับทรัพย์สินของบริษัทในอินโดจากเหตุน้ำมันรั่วในแหล่งมอนทาร่าปี 09
(0) TRC คาดกำไรปีนี้อ่อนตัวลง แต่ลุ้นงานเหมืองโปแตชดัน backlog สู่ระดับหมื่นล้าน
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือน พ.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.78 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่คาด 1.8 แสนตำแหน่ง แต่อัตราการว่างานลดลงมาอยู่ที่ 4.6% จาก 4.9% เป็นสัญญาณ confirm ว่าภาคการจ้างงาน (เศรษฐกิจ) ขยายตัวดี โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 13-14 ธ.ค. แทบจะยังเต็ม 100% ถ้าผลจากการเหวต "No" ของการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลีไม่ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดในช่วงเวลาก่อนการประชุม ที่สำคัญ คือ ดัชนี Dow Jones เดินหน้าทำ new high ต่อ
ทั้งนี้ ผลการลงประชามติเพื่อรับหรือไม่รับ สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลี ที่ออกมา คือไม่รับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง ไม่เห็นด้วย : เห็นด้วย เท่ากับ 59.1 : 40.9 ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ของประเทศอิตาลี ประกาศลาออกในทันที (แต่ระงับการลาออกไว้ชั่วคราว) ผลที่ออกมา เป็นไปตามที่ตลาดคาด และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนทยอยเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลง ก่อนทราบผลการลงประชามติครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หากการเปลี่ยนขั้วการเมืองครั้งนี้ ไม่ทำให้คนคิดว่าอิตาลีจะออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มอียู เราเชื่อว่าตลาดจะคลายความกังวลจากเรื่องนี้ และจะกลับเข้ามื้อหุ้น หลังชะลอการลงทุนไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือ "Buy on Fact" ราคาทองคำที่อ่อนค่าลงในคืนที่ผ่านมา สะท้อนว่านักลงทุนไม่ได้กังวลในเรื่องนี้มากนัก
การลดกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC คาดจะยังมีผลต่อตลาด แต่จะไม่มากนักแล้ว เพราะตอบรับกันมา ตั้งแต่ทราบผลในวันที่ 30 พ.ย. ในวันที่ 10 ธ.ค. ตัวแทนของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC จะประชุมกันอีกครั้ง เพื่อสรุปกำลังการผลิตที่จะมีการปรับลด การตัดสินใจร่วมกันของผู้ผลิตน้ำมันครั้งนี้ ผลที่ได้นอกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันที่มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และจะทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้น
การซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ จากการคาดการณ์ในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยขงสหรัฐฯ และความเสี่ยงในโซนยุโรป เราจึงยังมองว่า นักลงทุนต่างประเทศยังมีการขาย (หรือยังไม่ซื้อหุ้นไทย) และจะเป็นตัวกดดันตลาด ทำให้นักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ไม่กล้าเข้ามาซื้อหุ้นในช่วงเวลาแบบนี้ (ยกเว้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ)
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ เราประเมินว่า ตลาดจะมีความผันผวน แต่คาดจะมีแรงซื้อหุ้นกลับ หลังขายไปก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุด และตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ + ผลประชามติอิตาลี ไม่ได้เป็นลบต่อตลาดมากนัก ดัชนีฯ จึงมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นในลักษณะของ technical rebound ขณะที่ปัจจัยบวกของตลาด จะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
กลยุทธ์การลงทุน แม้ตลาดหุ้นไทยจะไม่ได้รับผลโดยตรงจากประชามติของประเทศอิตาลี แต่คงประมาทไม่ได้ เพราะเรามองเป็น Market Risk ตัวหนึ่ง อีกทั้งปัจจัยหลายๆตัว ยังไม่นิ่งนัก ภาพรวม เราจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุน หรือเข้าเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ......... สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BH , TOP , PLANB , CBG , SMT , SPCG
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์