- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 August 2014 16:26
- Hits: 3474
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -2.19 จุด ตีตื้นท้ายตลาด แรงซื้อหวังรีบาวด์เทคนิค
SET แกว่งในแดนลบตลอดทั้งวัน กรอบ 1487-1501 โดยภาคเช้าเปิดกระโดดลงหลุดระดับ 1500 แต่ค่อย ๆ มีแรงซื้อต่อเนื่องจนถึงปิดตลาดภาคบ่าย คาดหวังราคาดีดกลับทางเทคนิค หลังราคาหุ้นลดลงเร็ว ต่างชาติยังขายสุทธิต่อ 468 ลบ. เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และ Short SET50 Index Futures 6,118 สัญญา เป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเช่นกัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : มีลุ้นดีดกลับสั้นๆ แต่มองไม่ทะลุ 1510 และยังแกว่งตัวสูง
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ (1 ส.ค.) ยังร่วงลงต่อ แต่อัตราการลดลงเริ่มชะลอตัว นลท.ยังไม่มั่นใจทิศทางนโยบายการเงินของ FED ในอนาคต หลังยุติ QE ใน ต.ค. นี้ และกังวลยุโรปอาจเกิดภาวะเงินฝืด ซึ่งจะเป็นอุปสรรคการฟื้นตัวของศก. ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในตปท. (Geopolitical Risk) ทรงตัว หลังอิสราเอล-ฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง72 ชั่วโมง แต่ภาพรวมยังไม่มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น มอง SET อาจดีดกลับสั้น ๆ ชั่วคราว หลังยังสามารถกลับมายืน1500 จุดได้ และแรงขายต่างชาติชะลอตัว อย่างไรก็ดี มองเป็นเพียงการดีดกลับเพื่อลง และแนวโน้มยังแกว่งผันผวนสูง แนวต้าน 1510+/- แนวรับ 1485-87
กลยุทธ์การลงทุน : Wait & See, หากดีดกลับ เป็นจังหวะขายลดพอร์ตต่อ
ช่วงนี้ Wait & See ก่อน หากดีดกลับเป็นจังหวะขายลดพอร์ต เรามอง SET มีแนวโน้มปรับฐานในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จาก (1) การประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัว เสี่ยงถูกขายทำกำไรระยะสั้นมากขึ้น (2) Foreign Funds Flow เริ่มสะดุดและมีโอกาสพลิกมาเป็นไหลออก (ชั่วคราว) จาก Geopolitical Risk ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) (3) เชื่อว่าการทำงานของ คสช. จะไม่มีความคืบหน้ามากนักในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เพราะหลังมีรธน.ปกครองปท.ชั่วคราว หน้าที่สำคัญหลายอย่าง อาทิ กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรี, การพิจารณากฎหมายต่าง ๆ, การตั้งคณะกรรมธิการยกร่างรธน.ฉบับถาวร และการตั้งสภาปฏิรูปประเทศ (สปช.) จะตกอยู่ในมือของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีขั้นตอนทางรัฐสภา ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควร (4) ในทางปัจจัยเทคนิค เกิดสัญญาณเชิงลบที่เรียกว่า “Bearish Divergence” ทั้งนี้ เรามอง SET ที่ระดับ 1460-80 จึงน่าเริ่มทยอยสะสม หุ้นที่แนวโน้มกำไรจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง (กำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก) และราคาหุ้นมีความเสี่ยง (Downside Risk) ในการปรับตัวลงน้อย แม้ภาวะตลาดอยู่ในช่วงปรับฐานก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นค่อนข้างนิ่ง/ไม่ขยับขึ้นมากในช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ส.ค. คือ BCP, CENTEL, HEMRAJ, LH, SIM, TTA นอกจากนี้ เรามองหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่กำลังเสนอขาย 4 กอง น่าจะมีทิศทางที่แข็งกว่าตลาด โดยเม็ดเงินน่าจะเริ่มเข้าลงทุนได้ในสัปดาห์หน้า แนะนำ SCC, LH, CENTEL, STEC, WHA (รายละเอียดเพิ่มเติมดู กลยุทธ์การลงทุน หน้า 3)
หุ้นเด่นรายวัน : LH
LH - ยอดจองโดยรวมของหุ้นกลุ่มอสังหาฯ เดือน มิ.ย. ฟื้นตัวดีมาก (+28.6% MoM แต่คงที่ YoY) เราคาดว่าแนวโน้มยอดจองจะดีขึ้นต่อเนื่อง จาก 1) แผนการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2) ทิศทางเชิงบวกของผู้บริโภคตามภาวะศก. เห็นได้จาก take-up rate ที่เริ่มดีขึ้น LH เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นสุดในกลุ่มอสังหาฯ จากยอดจองแข็งแกร่งในช่วง 1H57 (บ้าน High End ดี) กำไร 2Q57F คาดเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ และจะแข็งแกร่งสุดใน 4Q57 มูลค่าเหมาะสม 12 บ. (SOTP)
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
5 ส.ค. JP ตัวเลข PMI ภาคบริการและรวม (Markit) ของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.
CH ตัวเลข PMI ภาคบริการและรวมของจีนในเดือน ก.ค.
EU ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปใน มิ.ย., PMI ภาคบริการและรวมทุกภาคของสหภาพยุโรปใน ก.ค.
US ตัวเลข ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ใน ก.ค., คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ใน มิ.ย.
6 ส.ค. TH ประชุมธนาคารกลางไทย (BOT)
JP ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น)
GE-US ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานของเยอรมันในเดือน มิ.ย., ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537 02-633-6471 : [email protected]