- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 02 December 2016 19:34
- Hits: 14294
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Consolidated
วันนี้ คาดดัชนีฯพักตัวลงในกรอบ 1,487-1,517 จุด หลังขึ้นทดสอบแนวต้านระยะสัปดาห์แล้วไม่ผ่านบวกกับช่วงหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้คาดปริมาณการซื้อขายลดลง ไม่มีแรงส่งต่อให้ขึ้นทะลุผ่านแนวต้านวันนี้ แต่หุ้นน้ำมันจะขึ้น ช่วยพยุงดัชนีฯให้ไม่หลุดจากกรอบ
สัปดาห์นี้หุ้นไทยขึ้นทดสอบบริเวณ 1,520-1,530 จุด ตามคาด ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาด ขึ้นสลับย่อ กรอบ 1,490-1,530 จุด คาดตลาดสลับเปลี่ยนมาเล่นหุ้น (1) สินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังไม่ขึ้น แนะ “น้ำตาล+เอทานอล” หลังกลุ่มหลัก เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ไก่ กุ้ง ยางพารา ถั่วเหลือง เรือเทกอง ราคาหุ้นขึ้นไปหมดแล้ว (2) หุ้นกลาง-เล็กที่มีประเด็นบวกรออยู่ (เช่นรอมาตรการช๊อปช่วยชาติ ฯลฯ)
ปัจจัยที่ต้องตามสุดสัปดาห์นี้ การลงประชามติรับร่าง รธน.ใหม่ของ อิตาลี 4 ธค. คาดส่งผลลบตลาดหุ้นยุโรป แต่เชื่อมีผลแค่จิตวิทยาช่วงสั้นต่อหุ้นโลกและ หุ้นไทย
ระยะเดือน ธค. คาด แรงขายต่างชาติเริ่มชะลอลงในเดือน ธค. และมีโอกาสที่เดือน มค. ปีหน้า จะเกิด January effect เหมือนกับปี 2012-13 และ 15 ที่ดัชนีหุ้นขึ้นในช่วงเดือน มค. อิงสมมุติฐานต่างชาติถือหุ้นไทยเหลือเพียง 29% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และ หากคำนวณเม็ดเงินต่างชาติที่สามารถซื้อหุ้นไทย กลับไปสัดส่วนเฉลี่ย ที่ 32% คาดเม็ดเงินไหลมีโอกาสไหลเข้าได้ถึง 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามสถิติ เงินต่างชาติจะเข้าเยอะช่วง มีค.เพื่อรับปันผลจากผลการดำเนินงานของปีที่ผ่านมา
กลยุทธ์คงแนะ หุ้นที่มีโอกาสปรับกำไรขึ้น จากกำไรที่ดีกว่าคาดใน 3Q16 และ BLS คาดโตต่อเนื่องใน 4Q16 และเพิ่มการสะสมหลักทรัพย์ที่มี โอกาสจะมีกำไรดีขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจหรือโครงสร้างผู้ถือหุ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ KSL แนวรับ 3.90 บ. ต้านสั้น 4.10/4.20 บ. ราคาเอทานอลกลับมาบวกแรงตามราคาน้ำมันดิบ ล่าสุด 25.75 (95-E10) จากเดือน พย.ที่ 23 บ./ลิตร หนุนกำไร 4Q16 (งบออก ธค.นี้ ปิดรอบ บช. ตค.) และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปิดซ่อมโรงกลั่นเอทานอลช่วงนี้ตามฤดูกาล ทำให้อุปทานขาดตลาด
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) กลุ่มสินเชื่อบุคคล คาดกลุ่มนี้ (SAWAD, MTLS, KTC and TK) จะมีการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่มธนาคาร จาก1) สินเชื่อที่คาดเติบโตสูงเฉลี่ยปีละ 20% ในขณะที่ GDP โตเพียง 3.5% และสินเชื่อธนาคารใหญ่โตแค่ 5% และยังมี ส่วนต่างดอกเบี้ยที่กว้าง 2) คุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง กลุ่มนี้มี NPL ที่ควบคุมได้เป็นอย่างดี ในขณะที่สินเชื่อเติบโตสูง และมี coverage ratio ที่สูงมาก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการตั้งสำรองฯพิเศษ 3) ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีโอกาสในการเติบโตออกสูง CLMV ในปี 2017-18 ซึ่งด้วย D/E ratio ที่ไม่สูง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตและลดความเสี่ยงการเพิ่มทุน เราเลือก SAWAD และ KTC เป็น top pic
(0) Grammy บริษัท เดอะวันเอนเตอร์ไพรซ์ (Grammy ถือ 51% ก่อนเพิ่มทุน) ประกาศเพิ่มทุน 1900 ล้านบาท (19 ล้านหุ้น) ให้บริษัท ประนันท์ภรณ์ (นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ถือหุ้น 99.98%) ภายหลังการเพิ่มทุน Grammy จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้น 25.5% กลุ่มนายถกลเกียรติ 24.5% และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ 50% เราเชื่อว่าการเพิ่มทุนจะช่วยหนุนธุรกิจช่อง วัน ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดขึ้นได้ เพราะธุรกิจนี้จะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้ 2 ปัจจัยหลัก คือ สายป่านที่ยาว และคอนเทนต์รายการที่แข็งแกร่ง สำหรับผลกระทบต่อผลประกอบการ Grammy คาดจะทำให้พลิกกลับมาเป็นกำไรเร็วขึ้น เนื่องจากส่วนแบ่งขาดทุนจากช่อง วัน จะน้อยลง (เราคาดช่อง วัน ยังขาดทุนในช่วงเวลาข้างต้น) แต่ในระยะยาวหลังจากช่อง วัน พลิกมาเป็นกำไร จะทำให้มูลค่าที่แบ่งกับมาน้อยลง อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้รวมผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเพิ่มทุนครั้งนี้เข้าไป เรายังคงคำแนะนำ ถือ
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) สรุปตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน US ISM ภาคการผลิต พย. 53.2 ดีกว่าคาดที่ 52 จาก 51.9
(0) EU area PMI ภาคการผลิต พย. 53.7 ดีตามคาด 53.7
(-) อังกฤษ PMI ภาคการผลิต เดือน พย. 53.4 แย่กว่าคาดที่ 54.6 จาก 54.3
(+) จีน PMI ภาคการผลิต 51.7 ดีกว่าคาดที่ 51 จาก 51.2
(+) เกาหลีใต้ ส่งออก พย. +2.7% ดีกว่าคาด +2% จาก -3.2% y-y.
(0) ไทย เงินเฟ้อ พย. +0.6% ต่ำคาดที่ +0.7% จาก 0.3% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(0) วันศุกร์ US อัตราว่างงาน คาด +4.9% จาก 4.9% และอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร คาด +180k จาก 161k เกาหลีใต้ GDP 3Q16 คาด 2.7% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค