WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

SET Index : แนวต้านสำคัญ 1510-1515
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1510.24 จุด เพิ่มขึ้น 13.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,967 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1510 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมีแนวต้านสำคัญที่ 1525 จุด
  Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรไปทดสอบ 1500 จุด ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นของ SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1515 จุด และมีแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 1525 จุด แต่โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1440 จุด
  กลยุทธ์ : SET Index ในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1515 และอาจขึ้นต่อไปได้ถึงระดับ 1525 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่เรายังคงแนะนำให้เน้นการขายหุ้นเพื่อถือเงินสด โดยมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1500 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1470 จุด

 

Asia Fund Flow : 30 พฤศจิกายน 2559
  ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขายสุทธิ 20 ล้านเหรียญ (1 ธ.ค.)
  ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 18 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 79 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 28 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 59 ล้านเหรียญ

Most Active Value:             แนวรับ   แนวต้าน
AOT สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 412-414 แนวรับสำคัญ 392 400 / 398 404 / 410
BJC สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 50.00-50.50 แนวต้าน 54.00 51.00 / 50.50 53.00 / 54.00
KCE สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 112 และ 105 แนวต้าน 122 116 / 112 121 / 122
SCB แนวโน้มขึ้นทดสอบ 147 และ 150 แนวรับสำคัญ 142 144 / 142** 145 / 147
PTT แนวต้าน 350-354 แนวรับ 344 และ 330 344 / 340 350 / 354
CPALL แนวรับสำคัญ 60.00 ถ้าหลุด แนวโน้มลงทดสอบ 57.00 และ 56.00 60.00** / 59.00 60.50 / 61.00
SCC สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 460 และ 450 แนวต้านสำคัญ 486 474 / 470 478 / 480
ESSO สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 13.60 และ 14.00 แนวรับสำคัญ 12.20 12.80 / 12.50 13.60 / 14.00
BANPU แนวโน้มลงทดสอบ 18.00 และ 17.70 แนวต้าน 18.80-19.00 18.40 / 18.00 18.80 / 19.00
ADVANC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 147 และ 150 แนวรับสำคัญ 142 144 / 142** 145 / 147

 

GFPT (GFPT TB; THB 14.60) – ซื้อ
  แนวต้าน : 15.50 และ 15.90
  แนวรับ : 14.60 และ 14.40
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปสร้างฐานเหนือเส้นแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 50
  แนะนำซื้อ GFPT โดยมีแนวรับที่ 14.60 และ 14.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15.50 และ 15.90 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.80 ลงไป

STP&I (STPI TB; THB 10.60) – ซื้อ
  แนวต้าน : 11.30 และ 11.60 / แนวต้านสำคัญ 12.70
  แนวรับ : 10.60 และ 10.40
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร แต่เมื่อพิจารณาการปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ STPI โดยมีแนวรับที่ 10.60 และ 10.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 11.30 และ 11.60 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 10.00 ลงไป

 

Trading Pick Follow up:           แนวรับ   แนวต้าน
SCI แนวโน้มขึ้นทดสอบ 11.00 และ 12.00 แนวรับสำคัญ 9.55 10.40 / 10.20 11.00 / 11.40
TTCL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 22.00 และ 22.60 แนวรับสำคัญ 20.50 21.00 / 20.70 21.80 / 22.00
TTA ซื้อที่แนวรับ 9.75-9.80 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 10.40 และ 11.00 9.75 / 9.70 10.20 / 10.40
SOLAR แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.90 และ 4.20 แนวรับสำคัญ 3.54 3.60 / 3.54** 3.80 / 3.90
SEAFCO สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 11.50 และ 12.00 แนวรับสำคัญ 10.50 10.80 / 10.60 11.50 / 12.00
MCS สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 18.00 และ 18.20 แนวรับสำคัญ 16.20 16.80 / 16.50 17.50 / 18.00
BIZ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 5.05 และ 5.20 แนวรับสำคัญ 4.60 4.80 / 4.70 5.00 / 5.05
SR สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 2.84 และ 2.96 แนวรับสำคัญ 2.62 2.74 / 2.70 2.84 / 2.96

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET… OPEC ตกลงลดกำลังการผลิต ดันน้ำมันพุ่ง ดีกับกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
 เมื่อวานนี้ดัชนีหุ้นไทยพุ่งขึ้นได้ 13.06 จุดหรือ +0.87% ปิดที่ 1,510.24 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 69,967 ล้านบาท จากการทำ MSCI rebalancing ที่มีการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยเพิ่ม 0.07% เป็น 2.29% ทำให้หุ้นหลายบริษัทที่มีการปรับเพิ่มน้ำหนักมีแรงซื้อกลับเข้ามา บวกกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559 ของรัฐบาลก็ช่วยให้กลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวอย่าง AOT (+3.34%) CENTEL (+6.5%) MINT (+4.90%) ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างประเทศยังคงเป็นผู้ขายสุทธิอยู่ที่ 2,112 ล้านบาทเมื่อวานนี้ เนื่องจากเม็ดเงินที่ไหลกลับไปที่สหรัฐฯ หลังคาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ยังผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาต่อเนื่องนับจากที่ทราบผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเราคาดว่าแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศจะยังคงขายต่อเนื่องไปจนหลังการประชุมเฟดกลางเดือนนี้

  เมื่อวานนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) 14 ประเทศ แถลงว่า โอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย ในเดือนก.ย. การลดกำลังการผลิตดังกล่าว จะเป็นการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.2017 นอกจากนั้นประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต โดยรัสเซียเตรียมลดการผลิตลง 300,000 บาร์เรล/วัน จากกำลังการผลิตมากกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วัน โดยกลุ่มประเทศโอเปกมีกำหนดจัดการประชุมกับประเทศนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 9 ธ.ค. โดยคูเวต เวเนซุเอลา และแอลจีเรียเห็นพ้องกันที่จะเข้าตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันของสมาชิกแต่ละประเทศ ในการประชุมเดือนก.ย. ที่ประชุมโอเปกเห็นพ้องกันให้อิหร่าน ลิเบีย และไนจีเรีย ได้รับการยกเว้นจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากการผลิตน้ำมันของประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร และความไม่สงบภายในประเทศ

  จากการที่โอเปกบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตลง ทำให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 4.21 ดอลลาร์ หรือ 9.3% ปิดที่ 49.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ในขณะที่เราเชื่อว่าการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 9 ธ.ค. จะมีข่าวดีเรื่องการลดกำลังการผลิตของประเทศนอกกลุ่มโอเปกลงอีก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปซื้อขายกันในกรอบ 50-55 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำจุดสูงสุดใหม่เกินกว่าระดับ 52.22 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ทำไว้เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่างต่อเนื่อง

  วันนี้เราคาดว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นได้ต่อจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง PTT PTTEP TOP PTTGC SPRC BCP SGP IRPC IVL โดยคาดว่าหุ้นผู้ผลิตน้ำมันขั้นต้นน้ำอย่าง PTTEP จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ โดยเราแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 98 บาท รองลงมาเป็น PTT ที่ได้ประโยชน์จากกำไรของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่จะฟื้นตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน บวกกับการแยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก (PTTOR) ออกมาเข้าตลาดก็จะช่วยปลดล็อกมูลค่าและเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับ PTT ในอนาคตอีกด้วย เราแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 402 บาท โดยคาดว่ากลุ่ม defensive อย่างกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มที่ขาดปัจจัยหนุนระยะสั้นอย่างธนาคารและกลุ่มที่เสียประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันอย่างกลุ่มสายการบินจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรแล้วสลับเข้ามาในกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีการซื้อสินค้าและบริการที่จะประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ วันนี้เราให้แนวต้านที่ 1515-1520 จุดและแนวรับที่ 1500-1505 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ได้แก่ PTTEP IVL ANAN CPALL

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)

 

Investment Strategy
  กลยุทธ์: วันนี้เราคาดว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นได้ต่อจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง PTT PTTEP TOP PTTGC SPRC BCP SGP IRPC IVL โดยคาดว่าหุ้นผู้ผลิตน้ำมันขั้นต้นน้ำอย่าง PTTEP จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ โดยเราแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 98 บาท รองลงมาเป็น PTT ที่ได้ประโยชน์จากกำไรของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่จะฟื้นตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน บวกกับการแยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก (PTTOR) ออกมาเข้าตลาดก็จะช่วยปลดล๊อกมูลค่าและเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับ PTT ในอนาคตอีกด้วย เราแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 402 บาท โดยคาดว่ากลุ่ม defensive อย่างกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มที่ขาดปัจจัยหนุนระยะสั้นอย่างธนาคารและกลุ่มที่เสียประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันอย่างกลุ่มสายการบินจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรแล้วสลับเข้ามาในกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีการซื้อสินค้าและบริการที่จะประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ วันนี้เราให้แนวต้านที่ 1515-1520 จุดและแนวรับที่ 1500-1505 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ได้แก่ PTTEP IVL ANAN CPALL

Themes play :
  ซื้อเก็งกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง PTT PTTEP TOP PTTGC SPRC BCP SGP IRPC IVL ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน หลังการประชุมโอเปกเมื่อวานนี้มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เหลือ 32.5 ล้านบาร์เรล/วันจากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย ในเดือนก.ย. ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 4.21 ดอลลาร์ หรือ 9.3% ปิดที่ 49.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ การลดกำลังการผลิตดังกล่าว จะเป็นการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ม.ค.2017 ในขณะที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต โดยรัสเซียเตรียมลดการผลิตลง 300,000 บาร์เรล/วัน จากกำลังการผลิตมากกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วัน โดยหุ้นที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือ บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขั้นต้นน้ำอย่าง PTTEP โดยเราให้ราคาเป้าหมาย 98 บาท รองลงมาเป็น PTT โดยมีราคาเป้าหมาย 402 บาท

ประเด็นในสัปดาห์
  1 ธ.ค. : จีนประกาศตัวเลข Manufacturing PMI เดือนพ.ย. โดยตลาดคาด 51.0 จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.2
  1 ธ.ค. : จีนประกาศตัวเลข Caixin China PMI Mfg เดือนพ.ย. โดยตลาดคาด 50.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.2
  1 ธ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Construction Spending MoM เดือนต.ค. โดยตลาดคาด 0.6% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4%
  1 ธ.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข ISM Manufacturing เดือนพ.ย. โดยตลาดคาด 52.1 จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.9

Opportunity Day
  1 ธ.ค. : BCPG HTECH SENA AIT
  2 ธ.ค. : PJW THRE JUBILE EA TM
  6 ธ.ค. : MEGA SEAFCO ORI DEMCO PYLON
  7 ธ.ค. : TVD ALLA GTB TPCH TKS
  8 ธ.ค. : EPG DRT SCN SAT TRC TKT
  9 ธ.ค. : BM UREKA VTE WICE EFORL
  13 ธ.ค. : BRR LDC APCO ANAN RJH
  14 ธ.ค. : SIS LIT TRT
  15 ธ.ค. : NCH NWR IEC MBKET

Fundamental Stock :
  AMATA : Company Note (คำแนะนำ : ถือราคาเป้าหมาย 11.90บาท)

Technical Pick:
  กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1500 จุด แนวต้าน 1515-1520 จุด
  GFPT (GFPT TB; THB 14.60) - ซื้อ
  STP&I (STPI TB; THB 10.60) - ซื้อ

SET lndex : แนวต้านสำคัญ 1515-1520
Retail Research Team

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!