- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 December 2016 18:38
- Hits: 2957
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ แต่เรามองอัพไซด์จำกัด
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ขึ้นต่อกรอบจำกัด หนุนโดยหุ้นน้ำมัน (วานนี้ดัชนีฯ ปรับขึ้นค่อนข้างแรง หนุนโดยการรีบาลานซ์ MSCI และแรงเก็งกำไรหุ้นน้ำมัน) ผลประชุมโอเปกเมื่อวานนี้ มีมติลดปริมาณผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หนุนราคาน้ำมันรีบาวด์กว่า 8% และดัชนีภาคการผลิตของจีน พ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ 51.7 (51.2 ใน เดือน ต.ค.) หนุนจิตวิทยาได้บ้าง อย่างไรก็ดีเราคงมองดัชนีฯ มีอัพไซด์จำกัดในระยะสั้น เนื่องจากฟันด์โฟลว์ยังมีทิศทางไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียก่อนผลประชุมของ ธ.กลางสหรัฐฯ ในวันที่ 14 ธ.ค. ขณะที่ SET เมื่อวานนี้ปิดที่เป้าหมายสิ้นปี 2559 พอดี เราจึงมองภาพใหญ่ของดัชนีฯ ยังเป็นไซด์เวย์ ขณะที่แรงซื้อจากฝั่งสถาบันฯ น่าจะสร้างเสถียรภาพต่อตลาดเช่นเดียวกับใน พ.ย. ซึ่งสถาบันฯ ซื้อสุทธิไป 8.4 พันล้านบาท ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมาที่ 9.0 พันล้านบาท ขณะที่ในเดือน ธ.ค. สถิติชี้ว่าสถาบันฯ ซื้อสุทธิเฉลี่ย 1.25 หมื่นล้านบาท
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ซื้อ COM7*, SEAFCO / เก็งกำไร KSL
COM7* (เป้าสูงสุดใน Consensus 15 บาท … คาดมีโอกาสปรับขึ้น) 1) วานนี้ถูกแรงขายทำกำไร ประเมินเป็นแรงขายจากนักเก็งกำไรระยะสั้น (เข้า MSCI Global small cap) เป็นโอกาสซื้อสะสมที่แนวรับ 13.7 บาท และ 13.5 บาท แนวต้านแรก 14.8 บาท 2) คาด ครม เตรียมพิจารณามาตรการช้อบช่วยชาติสัปดาห์หน้า (ข้อมูลจากปี 2558 มาตรการช้อบช่วยชาติหนุนรายได้โต +10% จากปกติ ขณะที่ปีนี้คาดกรอบวงเงินที่มากกว่า และระยะเวลาที่นานกว่า จะเป็นบวกต่อยอดขายมากกว่าปีที่แล้ว) 3) ประเมินกำไร 4Q59 ทำนิวไฮ (คาดจะมากกว่าประมาณการฯ Consensus) จาก i) High season ii) iPhone7 iii) การเป็นพันธมิตร TRUE* (ขายซิม True รับค่าคอมฯ และเข้าบริหาร True shop แล้ว 30 สาขา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) iv) ได้แรงหนุนจากมาตรการช้อบช่วยชาติ 4) คาดได้อานิสงส์จากโครงการอินเตอร์หมู่บ้านที่จะเข้า ครม ในเดือน ธ.ค.นี้ (ความต้องการใช้ สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น)
SEAFCO (เป้า Consensus 13.5 บาท) 1) เรายังคงประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมา เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นในปี 2560 – 61 จากงานประมูลโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก คือ ขายซองฯรถไฟรางคู่ 2 เส้นทางภายในต้นเดือน ธ.ค.นี้ + รู้ผลประมูลรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลืองในเดือน ธ.ค.นี้ (อย่างช้า ม.ค.60) + รู้ผลประมูลรถไฟฟ้าสีส้มต้นปี 2560 และล่าสุด กระทรวงคมนาคม เผยโครงการรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง มูลค่า 1 แสนล้านบาทจะเปิดประมูล 13 – 20 ธ.ค. นี้ โดยงานเสาเข็มและฐานรากจะเป็นงานแรกของทุกโครงการ ซึ่งเราประเมินจะเริ่มงานตอกเสาเข็มในช่วงกลางปี 2560 เป็นต้นไป 2) ด้วยจำนวนผู้รับเหมางานเสาเข็มที่สามารถรับงานขนาดใหญ่ได้ในไทยมีจำกัดเพียง 3 – 4 ราย ทำให้คาดว่าอัตรากำไรงานเสาเข็มปี 2560 – 61 จะอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา (งานโครงการใหญ่ออกมามาก เมื่อเทียบกับ 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถเลือกงานที่อัตรากำไรสูงได้) 3) PE ปี 2560 ต่ำเพียง 14 เท่า ขณะที่ PYLON PE 18 เท่า และค่าเฉลี่ยกลุ่มรับเหมาฯ +20 เท่า 4) ประเมินแกว่งขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.5 บาท และ 12.5 บาท ตามลำดับ แนวรับ 10.8 บาท
KSL (เป้า Consensus 4.5 บาท) 1) ผลจากข้อสรุปการประชุม OPEC คืนวานนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้นมา เป็นบวกต่อแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร โดยเฉพาะน้ำตาลที่ในปัจจุบันอุปทานขาด 2) สำหรับฤดูหีบอ้อยปี 2559/60 คาด กอน. ล๊อกราคาขายล่วงหน้าน้ำตาลไว้ที่ ±20.5 เซนต์/ปอนด์ (ปีที่แล้วเฉลี่ย 15.5 เซนต์/ปอนด์) แต่คาด KSL ล๊อกราคาขายล่วงหน้าได้ดีกว่า (เป็นบวกต่อมาร์จิ้น) ขณะที่ปริมาณอ้อยเข้าหีบปีนี้ทรงตัวเทียบปีที่แล้ว (ปริมาณขายทรงตัว แต่ราคาดีขึ้น คาดรายได้โต) 3) ประเมินแนวรับ 3.96 บาท แนวต้าน 4.2 บาท และถัดไปที่ 4.4 บาท (Stop loss 3.84 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP*) และเกษตร (STA*, KSL) วานนี้ที่ประชุม OPEC ได้ข้อสรุปลดกำลังการผลิตน้ำมันลง (ผิดจากที่เราคาด) ส่งผลให้ราคาน้ำมันรีบาวด์แรง คาดเป็น Sentiment บวกต่อ PTTEP* และหุ้นกลุ่มสินค้าเกษตรที่กำลังมีประเด็นอุปทานขาด อาทิ ยางพารา (STA*) และน้ำตาล (KSL) แนะนำ “เก็งกำไรสั้น” อย่างไรก็ดีเราประเมิน Upside ราคาน้ำมัน WTI จำกัดที่บริเวณ 50 – 55 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นจะทำให้ Shale oil ในสหรัฐฯและแท่นขุดเจาะฯที่หยุดการผลิตไปก่อนหน้า กลับมาเดินเครื่องผลิตอีกครั้ง
หุ้นกลุ่มค้าปลีก (COM7*, ROBINS*, TVD) และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (THAI*, MINT*, SPA) โครงการเที่ยวไทยลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีก 1.5 หมื่นบาท (รวมปีนี้ลดหย่อนฯได้ 3 หมื่นบาท) ต่อเนื่องจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะ “จีน” และคาดจะนำมาตรการ “ช้อบช่วยชาติ” เข้าที่ประชุม ครม ในสัปดาห์หน้า จะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกอย่าง COM7*, ROBINS*, TVD และกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง THAI*, MINT*, SPA รวมถึง KTC* (คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตพุ่งปลายปีนี้)
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK*, SEAFCO) เรายังคงประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างไทยจะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้งในปี 2560 – 61 จากการประมูลโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟรางคู่จำนวนมากปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มการตอกเสาเข็มก่อสร้างได้ในกลางปี 2560 เป็นต้นไป แนะนำ “ซื้อสะสม” CK* + SEAFCO
หุ้นมีข่าว
(0) 'PSH' เทรดแทน PS วันแรก คำนวณ SET50/100 ทันที (ทันหุ้น) PS ส่ง "พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH)" เข้าเทรดแทน เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ ขณะที่ ตลท.นำเข้าคำนวณในดัชนี SET50/SET100 และ SETHD มีผลทันที ส่งซิกยอดโอนไตรมาส 4/2559 ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท จากแบ็กล็อกที่มีอยู่ 2.74 หมื่นล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปี 5.1 หมื่นล้านบาทตามเป้า
(+) JMT ลงนาม TBANK สอยหนี้เน่าเข้าพอร์ต มูลค่าเฉียด 400 ล้านบ. (ทันหุ้น) JMT ส่งบริษัทลูก "บริหารสินทรัพย์เจ" ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพของสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลจาก TBANK มูลค่า 399 ล้านบาท หนุนพอร์ตบริหารหนี้ทั้งปี 2559 แตะ 1.1 แสนล้านบาท พร้อมหาโอกาสประมูลหนี้เน่าในช่วงปลายปี
(+) STEC* ขาขึ้นเนื่อง ฝรั่งเก็บหุ้นเพิ่ม (โพสต์ทูเดย์) STEC พุ่งรับ รฟม. เปิดซองที่ 2 รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ถมแบงก์ออฟนิวยอร์กเก็บหุ้นเพิ่มดันถือเกิน 5% บิ๊กรับสถาบันต่างประเทศขอข้อมูลถี่ ราคาหุ้นของ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ปรับตัวขึ้นติดอันดับ 10 หุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยปิดตลาดที่ 29 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.45%
(+) PTG* ลุยธุรกิจนันออยล์ 5 ปีกำไรน้ำมันเหลือ 85% ปีหน้าผุดซ่อมรถยนต์ (โพสต์ทูเดย์) PTG ลุยธุรกิจนันออยล์กางแผน 5 ปี เหลือสัดส่วนกำไรธุรกิจน้ำมัน 85% ปีหน้าลงทุน 4,500 ล้าน ผุดธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถบรรทุกและรถยนต์ นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า จากนี้ไปจะเห็นบริษัทลงทุนและขยายงานในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ไม่ใช่น้ำมัน (นันออยล์) มากขึ้น เพื่ออัตราการทำกำไรที่ดี แต่จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตั้งเป้าหมายกำไรภายปี 2564 หรือ 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจน้ำมันจะอยู่ที่ 85% และธุรกิจนันออยล์ 15% และปี 2571 ธุรกิจน้ำมันจะไม่เกิน 40% นันออยล์จะขยับเพิ่มเป็น 60%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
THAI* (เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท) ประเมินแนวรับ 24 บาท แนวต้านแรก 25 บาท หากผ่านได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 26.25 บาท (Stop loss 22.7 บาท) ... คาดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (กลุ่มลูกค้าระดับกลาง) จะช่วยหนุน Cabin factor ใน 4Q59 ขณธที่ผลกระทบจากการปราบทัวร์ผิดกฏหมายกระทบต่อ THAI น้อย สำหรับประเด็นต้นทุนน้ำมัน แม้วานนี้รีบาวด์แรง แต่เราประเมินว่า Upside ราคาน้ำมันจำกัด (คาดอุปทานใหม่จาก Shale oil และแท่นขุดเจาะฯที่หยุดไปจะกลับมาผลิต)
ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) รีบาวด์ที่แนวรับ ±10 บาท ตามคาด แนะนำ “สะสม” ... คาดกระทรวงดีอีเตรียมเสนอแผนโครงการอินเตอร์เนตหมู่บ้านเข้า ครม สัปดาห์หน้า เราประเมินจะเป็นตัวกระตุ้นอัตราการเช่าโครงข่าย Fiber optic ของ ITEL ซึ่งปัจจุบันยังต่ำเพียง ±20% แต่สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 400 ล้านบาท + อัตรากำไรสูงถึง 28 – 30% และรวมถึงการประมูลงานรับเหมาฯระบบ
TRC (เป้าสูงสุด Consensus 1.6 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบแคบ แนวรับ 1.50 – 1.56 บาท รอสัญญาณการ Breakout กรณีที่ทะลุผ่านแนวต้าน 1.56 บาทได้ ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.60 – 1.65 บาท แต่ในกรณีที่หลุดแนวรับ 1.5 บาท แนะนำ “รอเก็งกำไรที่แนวรับถัดไป” 1.45 บาท ... รอการปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ที่ผ่านมติ ครม แล้วรอเพียงการเพิ่มทุนโดยกระทรวงการคลัง (หรืออาจเป็นรัฐวิสาหกิจ) หลังจากนั้นธนาคารพาณิชย์ 3 – 4 แห่งก็จะเริ่มการปล่อยเงินกู้สำหรับการลงทุนก่อสร้างเหมืองฯ ซึ่งจะทำให้ Backlog ของ TRC เพิ่มขึ้นทันทีไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท (มูลค่าลงทุนก่อสร้างรวม 3 หมื่นล้านบาท)
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) แนะนำ “ถือ” มีโอกาสปิดแก๊บราคาที่ 4.70 บาท แนวรับ 4.40 บาท ... ประเมิน Earnings Momentum เป็นขาขึ้นตั้งแต่ 4Q59 หลังการรวมงบ DMM ในเดือน ธ.ค.
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SMT แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.25 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯปี 2559 – 2561 ลง 18.7%, 4.2% และ 4.9% ตามลำดับ สะท้อนการหยุดผลิต Hard disk drive ของ SMT อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ SMT สำหรับการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสินค้า High margin จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ต้านสั้น 1514 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1514 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1514-1527 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1514 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1514-1495 จุด
แนวรับวันนี้: 1502/1496 แนวต้านวันนี้: 1514/1525
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]