- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 November 2016 23:02
- Hits: 6629
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งระหว่าง 1,495 - 1,510 จุด และยังไม่สามารถปิดยืนเหนือ 1,510 จุดได้ เนื่องจากเกิดแรงขายทำกำไร และค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อนข้างมาก กดดันจิตวิทยาการลงทุนโดยรวม SET INDEX ปิดที่ 1,497.18 จุด ลบเพียง 3.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,000 ล้านบาท
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 3,026 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,044 สัญญา แต่คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 เพียง 175 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• ประธานสนช.ประกาศจะกราบบังคมทูลอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์
• โครงการ “ช็อปช่วยชาติ#2” เลื่อนการพิจารณา แต่ครม.อนุมัติโครงการเงินลดหย่อนการท่องเที่ยวในประเทศ 15,000 บาท
• ติดตามการประชุมโอเปกในวันนี้ต่อประเด็นการลดกำลังการผลิต
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนต.ค.
• และการปรับดัชนี MSCI Thailand ณ ระดับปิดวันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง – Sideways (วันที่ 16)
SET INDEX กลับมาปิดต่ำกว่า 1,500 จุดอีกครั้ง กดดันด้วยหุ้นหลักในกลุ่มค้าปลีกเป็นสำคัญ หลังขยับขึ้นเด่นตั้งแต่วันที่ 25 และ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อครม.เลื่อนการพิจารณาออกไป ทำให้เกิดแรงขายออกมาหนาแน่นขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ มุมมองของเรากลับมองว่าเป็นจังหวะของการเข้าสะสมหุ้นกลุ่มดังกล่าว เพราะท้ายที่สุดมาตรการดังกล่าวจะถูกผลักดันออกมาในท้ายที่สุด เพื่อประคองกำลังซื้อภายในประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 3.2% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่วันนี้มีปัจจัยที่หลากหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับดัชนี MSCI เราประเมินว่าต่างชาติจะต้องปรับพอร์ตการลงทุนเป็นซื้อสุทธิราว 3.0 พันล้านบาท อาจทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ปิดในราคาที่ผิดปกติได้ และมีผลต่อ SET INDEX
สำหรับการประชุมโอเปกในวันนี้ เรายังคงให้โอกาสที่กลุ่มสมาชิกโอเปกจะพยายามสรุปแนวทาง/ กรอบการลดกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้กระทบกำลังการผลิตของสมาชิกอิรัก อิหร่าน ไนจีเรีย ที่กำลังการผลิตลดลงไปมากในช่วงก่อนหน้า
กลยุทธ์การลงทุนเรายังคงแนะนำ “ถือพอร์ตเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,520 จุด +/-“ สำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI ควรพิจารณาขายทำกำไรภายในวันนี้ กรอบแกว่ง SET INDEX วันนี้ เราประเมิน 1,490-1,510 จุด
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BEM : ราคาปิด 7.60 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้รฟม.ประกาศว่า BEM ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคเพื่อเข้าประมูลเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู และเหลือง
b) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ ใน 4Q59 จะเติบโตต่อเนื่อง yoy และ qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่จะรับรู้รายได้จากทางด่วนศรีรัช และค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงอย่างเต็มไตรมาส ขณะที่ดอกเบี้ยจะลดลง yoy จากอานิสงค์ของการ Refinance ซึ่งส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3Q59 ที่ผ่านมา
c) มี Catalyst รออยู่ ใน 4Q59 ได้แก่ 1.มีโอกาสเซ็นสัญญาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย 2.ต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมออกไปอีก 20 ปี ซึ่งเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในราคาเหมาะสมของเราอีกหุ้นละ 1.00 บาท
2. เก็งกำไร SCB : ราคาปิด 145.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) SCB เป็นหุ้น Big Cap ที่ดัชนี MSCI ปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้นในรอบนี้ โดยจะมีการปรับน้ำหนักดัชนีในวันนี้ และคาดว่าจะมี Fund Flows ไหลเข้า SCB ราว 900-1,000 ล้านบาท
b) มี Catalyst รออยู่ โดยคาดว่าศาลล้มละลายกลางจะอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของ SSI ใน 4Q59 ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ SCB จะกลับสำรองหนี้สูญ และส่งผลให้ NPL ลดลง และ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
c) หากสามารถปิดดีลขายหุ้น SCB Life ให้กับพันธมิตรได้ จะส่งผลให้มีกำไรพิเศษสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท เป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา ขณะที่กำไรสุทธิปี 2560 คาดว่าจะเติบโต +26.3% yoy เป็น 5.8 หมื่นล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ PBV2560 เพียง 1.3 เท่า
Strategist Team