- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 November 2016 18:09
- Hits: 3814
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ : หุ้นรายตัวยังเป็นบวก แต่โมเมนตัมของตลาดจะชะลอตัวลงหลังต้น ธ.ค.
เราคาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ และอยู่ในบรรยากาศของการเลือกตัวเก็งกำไรที่ผลักดันด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปัจจัยในประเทศเป็นหลัก แม้เรายังคงมุมมองบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกในระยะสั้น ที่เป็นผลจาก post-election rally ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้น (โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ ทำให้เกิดจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นโลก) อย่างไรก็ตามเราประเมินโมเมนตัมของการเก็งกำไรจะชะลอตัวลงในช่วงธ.ค.อันเนื่องมาจากการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลง และความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากการปรับพอร์ตระหว่างสินทรัพย์ต่างๆ (asset classes) ที่จะเกิดขึ้นอย่างจริงจังหลังการปรับขึ้นอกเบี้ยของเฟดที่คาดว่าจะเกิดในการประชุมรอบธ.ค.นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมยังแข็งแกร่ง
แม้ส่งออก ต.ค.59 พลิกกลับมาติดลบ 4.2% (มูลค่า 17,783 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กลับมาติดลบในรอบ 2 เดือน จาก ส.ค. ที่โต 6.54% และก.ย.โต 3.43% สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง แต่การนำเข้าที่ เพิ่มขึ้น 6.5% และดุลการค้าที่ยังเกินดุล 248 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ภาพรวมคาดไม่กระทบกับจิตวิทยาการลงทุน ในขณะที่การบริโภคโดยรวมดีขึ้น ยอดจดทะเบียนใหม่รถจักรยานยนต์ ขยายตัว 3.1% YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 บวกต่อกลุ่มเช่าซื้อจักรยานยนต์ TK, S11, GL //วันนี้ติดตามประชุมครม.เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ซึ่งเราประเมินส่งผลบวกต่อหุ้น กลุ่มค้าปลีกและผู้จำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงกระเบื้อง TK, S11, JMART, SYNEX, DCC, DRT / ห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ROBINS, BIGC, MAKRO, CPN / กลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, ERW, CENTEL และ MINT
ปัจจัยอื่นๆ: MSCI rebalancing – ระวังความผันผวนและแรงทำกำไรของหุ้นที่ปรับขึ้นมากจากการถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี MSCI มีผล 30 พ.ย. ได้แก่ MSCI Thailand Index: (+) BJC, KCE / MSCI Thailand Small Cap: (+) COM7, MALEE, TKN, TFG (-) ASP, BJCHI, CBG, COL, CGD, DNA, ROJNA // TNR - เข้าซื้อขายเป็นวันแรก ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ระวังความเสี่ยงการเก็งกำไรจาก valuation ที่แพง // ข้อมูลบริษัทจาก Opportunity day: 30 พ.ย. – A, GUNKUL, PTG, SGP, LALIN/1 ธ.ค. – BCPG, HTECH, SENA, AIT/ 2 ธ.ค. – PJW, THRE, JUBILE, EA, TM / 6 ธ.ค. – MEGA, SEAFCO, ORI, DEMCO, PYLON // 30 พ.ย. – โอเปค หารืออีกครั้งเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ / 4 ธ.ค. - ประชามติรัฐธรรมนูญอิตาลี / 13-14 ธ.ค. - ประชุมเฟด (ทราบผลเช้า 15 ธ.ค.)
แนวรับ/แนวต้าน : 1485 /1500-1505 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
คำแนะนำทางกลยุทธ์ : คาดเห็นการผลักดันหุ้นรายตัว ขณะที่ตลาดเคลื่อนไหว 1490-1505 เก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสิ้นปี แต่เพิ่มความระมัดระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเมื่อเข้าสู่ช่วง ธ.ค.อันเนื่องมาจากความเสี่ยงจากการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ // หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ AOT, ERW, SCB / เก็งกำไร PSTC*, TK*, SYNEX*
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
- กลุ่มอาหาร/เกษตร/ยาง/เรือ: GFPT*, CPF, TFG*, TU, CFRESH*, STA*, TRUBB*, TTA*, PSL*, RCL*
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า: BH, ERW, IRPC, PTT, TU / ยูโรอ่อน: THAI, TPIPL
- หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*
- หุ้นที่ได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลปลายปี: TU, ROBINS, BCP, AP, BDMS, BH, BCH, DCC, DRT
หุ้นแนะนำ
AOT (464) : คาดเป็นเป้าหมาย shot covering ทั้งนี้ราคาที่ปรับลดลง 13% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนความเสี่ยงที่ชะลอตัวจากทัวร์ 0 เหรียญจีนหายไประดับหนึ่งแล้ว ขณะที่มาตราการลดค่าธรรมเนียมเพื่อดึงนักท่องเที่ยวน่าจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ERW (5) : หุ้น top pick กลุ่มโรงแรม เป็นผู้เล่น pure hotel play ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2-3 ซึ่งเป็น low season เริ่มพลิกเป็นมีกำไร บ่งชี้ว่าผลการดำเนินงานอยู่ในการฟื้นตัว (turnaround) คาดผลกระทบจากทัวร์ศูนย์เหรียญจำกัด ขณะที่การลงทุนโรงแรมประหยัดและ budget hotel คาดจะเป็นปัจจัยเร่งการเติบโตในช่วง 1-2 ปีนี้
SCB (190) : ธนาคารใหญ่ที่ผ่านวงจรสูงสุดของหนี้เสียแล้ว ขณะที่มี upside จากการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา ปี 2560 คาดการณ์ dividend yield ที่ 4.4% และกำไรเติบโต 15.6% ซึ่งสูงสุดในกลุ่มธนาคารใหญ่
PSTC* (1) : หุ้นพลังงานทดแทนที่มีความชำนาญพิเศษด้านไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ กำลังการผลิตไฟฟ้าสิ้นปี 59 และ 60 คาดอยู่ที่ 30 และ 50MW ขณะที่มีอัพไซด์เพิ่มจากการประมูลไฟฟ้าชีวมวล 400MW ราว ก.พ.60
TK* (12) : ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้วจากการตั้งสำรอง ขณะที่ยอดการเช่าซื้อจักรยานยนต์เริ่มกลับเป็นบวก นอกจากนี้มีแผนเข้าสู่การปล่อยสินเชื่อที่กัมพูชาและอินโดนีเซียตามลำดับ
SYNEX (5.50) : ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งจากโครงการภาครัฐ ขณะที่มีโอกาสได้ผลบวกมาตรการสิ้นปี
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)
นักกลยุทธ์: กิจพล ไพรไพศาลกิจ Email: [email protected]