- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 November 2016 17:57
- Hits: 3602
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้านสำคัญ 1515-1520
SET Index: 1505.54 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1500 จุดขึ้นมาได้ แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวต้านที่ 1515-1520 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1485 และ 1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1440 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
แนวต้าน : 1505 และ 1510
แนวรับ : 1500 และ 1497
TNR = 25.00 / 27.00, GL = 52.00 / 54.00, INTUCH = 50.50 / 51.00, AOT = 384 / 388, ADVANC = 145 / 147
Thoresen Thai Agencies (TTA TB; THB 9.75) – ซื้อ
แนวต้าน : 10.20 และ 10.40 / แนวต้านสำคัญ 11.00
แนวรับ : 9.75 และ 9.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TTA โดยมีแนวรับที่ 9.75 และ 9.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.20 และ 10.40 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.55 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 9.00 เป็นจังหวะซื้อเพิ่ม
Solartron (SOLAR TB; THB 3.72) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.90 และ 4.20 / แนวต้านสำคัญ 4.60
แนวรับ : 3.72 และ 3.68
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SOLAR โดยมีแนวรับที่ 3.72 และ 3.68 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.90 และ 4.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.54 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 940-944 ซึ่งยังคงเราคาดว่า โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 915 และ 890 แต่ถ้าสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 944 ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 950 และ 965
แนวต้าน : 940 และ 943
แนวรับ : 936 และ 934
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 โดยมีแนวต้านที่ 940-942 และมีแนวรับที่ 932 เป็นจุดขายทำกำไร และ Short เพิ่มถ้าหลุด 930 ลงไปต่อเนื่อง
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 944 ขึ้นไป
BEMZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 7.40-7.50 ห ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 จึงแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 7.40-7.50 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 7.35 ลงไป จะเป็นสัญญาณขาย
แนวต้าน : 7.80 และ 7.90
แนวรับ : 7.60 และ 7.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BEMZ16 ที่แนวรับ 7.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 และ 8.00
STOP LOSS สถานะ Long ใน BEMZ16 ปรับตัวลดลงหลุด 7.35 ลงไป
IRPCZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และเส้นแนวโน้มขาขึ้นเดิมที่ 4.84 หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญลงไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.50 ตามกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวต้านที่ 4.80-4.84 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 5.10
แนวต้าน : 4.86 และ 4.88
แนวรับ : 4.70 และ 4.60
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน IRPCZ16 ที่แนวต้าน 4.84-4.88 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.60 และ 4.50
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 4.90 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET… แกว่งกรอบแคบ
ภาวะและทิศทางดัชนี SET หลังขึ้นมายืนเหนือ 1500 จุด เรามองว่ายังคงมีความไม่แน่นอน เพราะปัจจัยหลายๆ ด้านโดยเฉพาะในต่างประเทศยังคงไม่มีอะไรเด่นๆ โดยทิศทางดัชนีดาวโจนส์ยังมองกันว่าจะยังแกว่งในกรอบแคบๆ ส่วนราคาน้ำมันต้องรอลุ้นการประชุมของกลุ่ม OPEC ในวันพรุ่งนี้ หากมีการลดกำลังการผลิตในระดับที่ตลาดยอมรับ ราคาน้ำมันก็น่าจะวิ่งขึ้นทะลุ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แต่หากไม่บรรลุข้อตกลงหรือลดกำลังการผลิตต่ำกว่าที่ตลาดคาด ราคาน้ำมันน่าจะลงมาเล่นที่กรอบ 40-45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ สำหรับ MSCI Rebalancing จะเริ่มมีผลในวันพรุ่งนี้ หุ้นที่จะกลับมาคึกคักน่าจะเป็นหุ้นที่ได้ถูกนำเข้าไปคำนวณและที่ถูกถอดออก รวมทั้งหุ้นที่ได้รับการปรับน้ำหนักเพิ่มและลดน้ำหนัก
ในภาวะที่ตลาดซึมๆ หุ้นที่จะเข้าเก็งกำไร เริ่มมีค่อนข้างน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเล่นหมุนเวียนกันทุกกลุ่มแล้ว หากจะมีที่เป็นหุ้นพื้นฐาน ตลาดก็ไม่ค่อยเล่น เนื่องจากไม่มีเรื่องราวหนุน หุ้นที่กลับขึ้นมาเล่นในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ เป็นหุ้นที่โยงท่องเที่ยว ลิ่สซิ่งและบันเทิง โดยหุ้นที่โยงท่องเที่ยว คาดในวันนี้น่าจะยังเล่นกันต่อ จากการคาดว่าประชุม ครม. ในวันนี้จะพิจารณาแผนกระตุ้นกำลังซื้อคนในประเทศในช่วงปลายปีนี้ผ่านทางนโยบายการลดภาษี
โดยส่วนใหญ่ตลาดหุ้นทั่วโลก ขึ้นมาเล่นเหนือค่า P/E เฉลี่ย 10 ปี ส่วนของไทยเล่นกันที่ค่า P/E 14 เท่า (รูปด้านซ้าย) ซึ่งถือว่าอยู่ในระนาบเดียวในภูมิภาค แต่มีจุดด้อยตรงที่ กำไรของตลาดในปีหน้าโตแค่ 9% เทียบภูมิภาคที่ 12.4% นอกจากนั้นดัชนี SET ถือว่า Outperform กว่าดัชนีหลักๆของโลก นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (รูปด้านขวา) ปัจจัยหนุนของเศรษฐกิจโลกล่าสุด คือทาง OECD ได้มีการปรับประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในปีนี้เป็น 3.3% ในปีหน้า จากมุมมองในเชิงบวกกับเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า แต่ได้ลดประมาณการณ์การเติบโตของจีนจาก 6.7% ในปีนี้ เหลือ 6.4% ในปีหน้า
ทิศทางดัชนี SET ในวันนี้ คาดยังแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ แม้ดัชนีในต่างประเทศและราคาน้ำมันจะรีบาวน์กลับได้ เนื่องจากความกังวลเรื่องการขาดปัจจัยหนุน การอ่อนตัวของค่าเงินและคอยผลการประชุมของกลุ่ม OPEC วันนี้มองดัชนีเปิดในแดนบวกแต่จะถูกขายทำกำไร จนลงมาในแดนลบ โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1505-1510 จุด ส่วนแนวรับที่ 1494-1490 จุด โดยแนะนำ ซื้อเก็งกำไร QH CPALL TPIPL และ HMPRO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,505.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด (+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 21,983.34 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น โดยมีแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่มีแรงขายทำกำไรใกล้ระดับ 1510 จุด ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นลบ เนื่องจากความกังวลผลประชุมโอเปก (พรุ่งนี้) ติดตามตัวเลข GDP 3Q16 ของสหรัฐฯ (คืนนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะยังแกว่งตัวขึ้นต่อ โดยปัจจัยหลักจะมาจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐทั้งในเรื่องท่องเที่ยว หรือช้อปช่วยชาติ ส่วนปัจจัยหนุนระยะยาวจะเน้นไปโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการเลือกตั้งที่น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวอาจจะยังไม่มีทิศทางชัดเจนเพราะโดยปกตินักลงทุนต่างชาติจะลดการซื้อขายลงไป ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรรายตัว โดยแนะนำเก็งกำไร SCB มองการตัดสินเรื่องการออกจากแผนฟื้นฟูของ SSI หากผ่าน น่าจะหนุนให้อัตราการกันสำรองของ SCB จะสูงขึ้นและจะมีผลให้การตั้งสำรองของ SCB ลดลง มีผลให้กำไรน่าจะเริ่มกลับมาเติบโตได้ มองแนวต้านที่ 149/155 บาท แนวรับ 145/143 บาท
Technical Pick (PM) ...
These Thai Aecies (TTA TB; THB 9.75) - ซื้อ
Solartron (SOLAR TB; THB 3.72) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ในภาวะที่ตลาดซึมๆ หุ้นที่จะเข้าเก็งกำไร เริ่มมีค่อนข้างน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเล่นหมุนเวียนกันทุกกลุ่มแล้ว หากจะมีที่เป็นหุ้นพื้นฐาน ตลาดก็ไม่ค่อยเล่น เนื่องจากไม่มีเรื่องราวหนุน หุ้นที่กลับขึ้นมาเล่นในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ เป็นหุ้นที่โยงท่องเที่ยว ลิ่สซิ่งและบันเทิง โดยหุ้นที่โยงท่องเที่ยว คาดในวันนี้น่าจะยังเล่นกันต่อ จากการคาดว่าประชุม ครม. ในวันนี้จะพิจารณาแผนกระตุ้นกำลังซื้อคนในประเทศในช่วงปลายปีนี้ผ่านทางนโยบายการลดภาษี ดัชนี SET ถือว่า Outperform กว่าดัชนีหลักๆของโลก นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ปัจจัยหนุนของเศรษฐกิจโลกล่าสุด คือทาง OECD ได้มีการปรับประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในปีนี้เป็น 3.3% ในปีหน้า จากมุมมองในเชิงบวกกับเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า แต่ได้ลดประมาณการณ์การเติบโตของจีนจาก 6.7% ในปีนี้ เหลือ 6.4% ในปีหน้า ทิศทางดัชนี SET ในวันนี้ คาดยังแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ แม้ดัชนีในต่างประเทศและราคาน้ำมันจะรีบาวน์กลับได้ เนื่องจากความกังวลเรื่องการขาดปัจจัยหนุน การอ่อนตัวของค่าเงินและคอยผลการประชุมของกลุ่ม OPEC วันนี้มองดัชนีเปิดในแดนบวกแต่จะถูกขายทำกำไร จนลงมาในแดนลบ โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1505-1510 จุด ส่วนแนวรับที่ 1494-1490 จุด โดยแนะนำ ซื้อเก็งกำไร QH CPALL TPIPL และ HMPRO
Themes play :
CPF : เราแนะนำ ซื้อ CPF โดยมีราคาเป้าหมาย 39.00 บาท (upside +34%) เรามองว่ามีปัจจัยอยู่สามประการที่จะช่วยผลักดันให้ CPF มีกำไรเติบโตในปี FY17 ประการแรก เราคาดว่าธุรกิจกุ้งจะกลับมาทำกำไรหลังถึงจุดคุ้มทุนในปี FY16 จากอัตราการใช้กำลังการผลิตและการส่งออกกุ้งที่เพิ่มขึ้น ประการที่สอง เราเชื่อว่าธุรกิจในต่างประเทศจะเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจในตุรกีที่มีผลขาดทุนมานานหลายปีแต่เราคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปี FY17 นอกจากนี้ เราคาดว่า CPF จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ด้วยการซื้อกิจการ ประการสุดท้าย การเติบโตของ CPF จะมาจากการเพิ่มสัดส่วนยอดขายของผลิตภัณฑ์อาหารมาร์จินสูง เรามองว่าผลกำไรของบริษัทจะเติบโตจากการที่ธุรกิจหลักเข้าสู่วงจรขาขึ้น บวกกับส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่งจาก CPALL ทั้งนี้ CPF เป็นหุ้น top pick ของเราในกลุ่มเกษตรและอาหาร โดยเราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรเติบโตสูงถึง 52% CAGR ในปี FY16-18
ประเด็นในสัปดาห์
29 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Annualized QoQ ไตรมาส 3/59 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.9% และตัวเลข personal Consumption ไตรมาส 3/59 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.1%
30 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข ADP Employment Change เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 147,000 รายและตัวเลข Pending Home Sales MoM เดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.5%
Opportunity Day
29 พ.ย. : BJC BIGC CENTEL KTIS CNT AMATA BTS
30 พ.ย. : A GUNKUL PTG SGP LALIN
1 ธ.ค. : BCPG HTECH SENA AIT
2 ธ.ค. : PJW THRE JUBILE EA TM
6 ธ.ค. : MEGA SEAFCO ORI DEMCO PYLON
7 ธ.ค. : TVD ALLA GTB TPCH TKS
8 ธ.ค. : EPG DRT SCN SAT TRC TKT
9 ธ.ค. : BM UREKA VTE WICE EFORL
13 ธ.ค. : BRR LDC APCO ANAN RJH
14 ธ.ค. : SIS LIT TRT
15 ธ.ค. : NCH NWR IEC MBKET
Fundamental Stock :
MTLS : Company Note (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31 บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1490 จุด แนวต้าน 1510 จุด
TTCL (TTCL TB; THB 21.20) - ซื้อ
SCI Electric (SCI TB; THB 10.10) - ซื้อ
SET Index : ผันผวนในกรอบ
Retail Research Team