- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 November 2016 17:24
- Hits: 3860
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวันศุกร์ปิด +10.29 จุดที่ 1500.40 แต่มูลค่าซื้อขายไม่ได้คึกคักนัก กลุ่มที่นำตลาดขึ้นเป็นท่องเที่ยว (สนามบิน, สายการบิน, โรงแรม) ค้าปลีก รับมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิสก์ที่ได้รับประโยชน์จากบาทอ่อน ซึ่งเป็นไปตามที่เรา call ในวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 510 กว่าล้านบาท สำหรับปัจจัยสำคัญ/จับตาในระยะสั้นมาก ได้แก่
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนเล็กน้อยหลังเดือนต.ค.ขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น แต่ยังทรงตัวเหนือระดับ 101
•/- ราคาน้ำมันดิบร่วง 3% กว่า : แหล่งข่าวแจ้งว่าซาอุดิอาระเบียอาจจะไม่ร่วมประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 30 พ.ย.นี้
• ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้แกว่งในกรอบแคบ
+ อุตสาหกรรมไก่ : พบเชื้อไข้หวัดนกที่เนเธอร์แลนด์ & สวีเดน...ราคาส่งออกไก่ไปยุโรปมีโอกาสขยับขึ้น นำเข้าปู่ย่าพันธุ์อาจลำบากขึ้นราคาไก่ในประเทศมีโอกาสเพิ่มขณะที่ราคาวัตถุดิบยังต่ำ หุ้น Top Pick เป็น GFPT (ราคาพื้นฐาน 16.50 บาท)
+ มีความหวังว่าแรงซื้อ LTF จะช่วยหนุน แม้อาจจะอ่อนลง เพราะตั้งแต่ปีนี้ LTF ต้องถือครอง 7 ปีปฎิทิน (เดิม 5 ปีปฎิทิน)
กลยุทธ์ : ซื้อใหม่ยังเน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและดัชนี, ถือหุ้นดีที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ และทยอยสะสมหุ้นเติบโตแกร่งช่วงราคาปรับฐาน/อ่อนตัว หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์วันนี้เป็น GFPT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ (ปิดเหนือ SMA10) ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ต่ำกว่า 1485 ลดพอร์ตตาม/ตัดขายขาดทุน แนวต้านระยะสั้น 1510-1520 จุด
ส่วนการ SCAN หุ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ CPN, RS, BR, PJW หุ้นที่ยังอยู่ใน List ได้แก่ SPRC, SMT, RJH, TMT, TPOLY, UV, BRR หุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร คือ IFEC, MTLS, PTG, EKH, FSMART
ปัจจัยต่างประเทศ
•/- อังกฤษ : เศรษฐกิจ 3Q59 ขยายตัว 2.3%YoY ตามคาด...แต่ในปี 60 จะเติบโตชะลอตัวลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจอังกฤษ +0.5%QoQ และ +2.3%YoY ในไตรมาส 3/59 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออก การลงทุนภาคธุรกิจ (+0.9%QoQ) การใช้จ่ายภาคครัวเรือน (+0.7%QoQ) ซึ่งเป็นไปตามตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ONS คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตชะลอตัวลงเป็น 1.4% ในปี 60 จาก 2.1% ในปี 59 เพราะผลกระทบจาก Brexit
• สหรัฐ : ขาดดุลการค้าเพิ่มในเดือนต.ค.
ตัวเลขขาดดุลการค้าที่ระดับ 6.20 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 พันล้านดอลลาร์จากเดือนก.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 5.65 หมื่นล้านดอลลาร์
+ จีน : กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.เติบโตเพิ่มขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า กำไรในภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. +9.8%YoY ดีขึ้นจากเดือนก.ย.ปีนี้ที่ +7.7%YoY การเติบโตที่ดีขึ้นมาจากรายได้และราคาขายสูงขึ้น โดยกำรของกลุ่มเคมี ถ่านหิน และอุปกรณ์ทั่วไปเติบโตแข็งแกร่ง ส่วนยอด 10M59 +8.6%YoY โดยขยายตัวสูงขึ้นใน 3Q59
+ จีน : เงินเฟ้อด้านต้นทุนเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.59
สำหรับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนเดือนต.ค. +1.2%YoY มากขึ้นจาก +1.0%YoY ในเดือนก.ย.59
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ทั้ง 3 ดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้ง 3 ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐต่างทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยดัชนี DJIA ปิด +68.96 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 19,152.14 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่ม 8.63 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 2,213.35 จุด ดัชนี NASDAQ บวก 18.24 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 5,398.92 จุด โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกคึกคัก เพราะยอดขายในวันแบล็กฟรายเดย์พุ่งขึ้นมาก (+21.6%YoY) โดยเฉพาะที่ซื้อผ่านระบบออนไลน์ไร้สาย (+33%YoY) รวมทั้งนักลงทุนเชื่อว่านโยบายของทรัมป์จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้
- ราคาน้ำมันดิบ : ร่วงลง...ตลาดไม่เชื่อว่ากลุ่มโอเปกจะบรรลุข้อตกลงลดปริมาณการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 3.96% ปิดที่ 46.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ลดลง 1.76 ดอลลาร์ หรือ 3.59% ปิดที่ 47.24 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยแหล่งข่าวจากโอเปกรายงานว่าซาอุฯอาจไม่เข้าประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งทำให้อาจไม่บรรลุข้อตกลงเรื่องการลดปริมาณการผลิตน้ำมัน (ทั้งนี้ โอเปกได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการประชุมเมื่อเดือนก.ย.59 ว่าจะลดกำลังการผลิตลงสู่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.6 ล้านบาร์เรล/วัน)
นอกจากนั้นมีข่าวอื่นกดดันด้วย คือ บริษัท ซาอุดิ อารามโค จะเพิ่มการส่งมอบน้ำมันให้กับลูกค้าเอเชียในเดือนม.ค.ปี 60 และจีนนำเข้าน้ำมันดิบเดือนต.ค.59 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.59
- ราคาทองคำ : ลดลงต่อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ระดับ 1,178.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะขาดปัจจัยหนุน โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในกลางธ.ค.นี้ยังกดดันราคาทองคำ
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ กลุ่มสัตว์ปีก : พบเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีกที่เนเธอร์แลนด์และสวีเดน…ให้ GFPT เป็น Top Pick
# กระทรวงกิจการเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่าได้มีการกำจัดเป็ด 190,000 ตัว ภายหลังจากที่ตรวจพบไข้หวัดนกที่ฟาร์มแห่งหนึ่งทางตอนกลางของประเทศ และได้กำจัดสัตว์ปีกอีก 3 ฟาร์มของบริษัทแห่งนี้ รวมถึงทำลายสัตว์ปีกในฟาร์มใกล้เคียงด้วย รวมทั้งประกาศห้ามขนส่งสัตว์ปีก ไข่ ปุ๋ยที่ทำจากมูลสัตว์ปีก ชั้นวางที่ใช้งาน ในรัศมี 10 กม.จากฟาร์มที่พบเชื้อไข้หวัดนกด้วย
# สถาบันสัตวศาสตร์แห่งชาติสวีเดน รายงานว่า ได้ตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N8 ที่ฟาร์มสัตว์ปีกบริเวณนอกเมืองเฮลซิงเบิร์ก โดยฟาร์มดังกล่าวเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงสัตว์ปีกกว่า 200,000 ตัว ในขณะนี้ยังไม่ทราบถึงจำนวนสัตว์ที่ติดเชื้อ
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : ต้องติดตามดูว่าไข้หวัดนกจะมีการแพร่ระบาดออกไปอีกหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องกำจัดสัตว์ปีกเพิ่มอีก ซึ่งอาจทำให้ปริมาณผลผลิตสัตว์ปีกไม่เพียงพอต่อการบริโภค ความต้องการนำเข้าจึงมีโอกาสเพิ่มขึ้น และการต่อรองด้านราคานำเข้าจากฝั่งยุโรปจะน้อยลง นอกจากนั้นการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ไก่ก็จะยากลำบากขึ้น ทั้งนี้ปกติไทยนำเข้าปู่ย่าพันธุ์จากสหรัฐ 70% ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด แต่สหรัฐเกิดไข้หวัดนกทางการไทยจึงห้ามนำเข้า ผู้ประกอบการบางรายหันไปนำเข้าจากประเทศในยุโรปแทน และเนเธอร์แลนด์ก็เป็นหนึ่งในประเทศดังกล่าว) แต่หากนำเข้าจากยุโรปไม่ได้อีก ปริมาณผลผลิตของลูกไก่ก็อาจไม่เพียงพอ อุปทานในประเทศก็จะตึงตัวขึ้นและราคาไก่ในประเทศก็มีโอกาสปรับขึ้น ซึ่งจะเป็นเรื่องดีกับผู้ประกอบการไก่ของไทยในระยะสั้น บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับไก่ครบวงจร คือ GFPT (แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 16.50 บาท), CPF (แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 40 บาท), TFG (Not rated)
•/+ AMARIN (ราคาปิด 7.35 บาท) : กลุ่มคุณเจริญจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP & ถือ 47.62% แต่ไม่ทำเทนเดอร์
# กลุ่มคุณเจริญจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP & เข้ามาถือ 47.62% ทางบอร์ดบริษัท AMARIN ได้มีมติให้บริษัทเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้นขายให้บริษัท วัฒนภักดี จำกัด (บริษัทในกลุ่มคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี) ในราคาหุ้นละ 4.25 บาท (ราคาพาร์ 1 บาท) มูลค่ารวม 850 ล้านบาท ยังผลให้กลุ่มคุณเจริญจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 47.62% โดยขอยกเว้นที่จะไม่ทำเทนเดอร์ฯ และทางกลุ่มคุณเจริญจะส่งคนเข้ามาเป็นกรรมการใน AMARIN 3 ท่าน รายการนี้จะต้องมีการขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจัดในวันที่ 10 ก.พ.60 สำหรับเงินเพิ่มทุนบริษัทจะนำไปใช้ชำระหนี้ ผลิตรายการสำหรับทีวีดิจิตอล และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
# ด้านงบการเงิน ณ สิ้นก.ย.59 ของ AMARIN บริษัทมีรายได้ 9M59 เท่ากับ 1.25 พันล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 469 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 4.92 พันล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 926 ล้านบาท (ทุนเรียกชำระแล้ว 220 ล้านบาท ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 270 ล้านบาท สำรองตามกฎหมาย & กำไรสะสม 436 ล้านบาท) โดยมี BVS เท่ากับ 4.21 บาท/หุ้น ซึ่งราคาซื้อขาย PP ที่ 4.25 บาท/หุ้นใกล้เคียงกับ Current BVS ของบริษัท
# Win-Win เรามองว่าการเข้ามาของกลุ่มเสี่ยเจริญ จะทำให้ธุรกิจของ AMARIN มีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นในระยะต่อไป เพราะผู้บริหารฝั่ง AMARIN มีความชำนาญเรื่องธุรกิจสื่อและการผลิตรายการขณะที่ทางกลุ่มคุณเจริญก็มีฐานเงินทุนแข็งแกร่งและมีสินค้าหลากหลายประเภทที่จะมาช่วยหนุนธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งก็เป็นประโยชน์กับทางกลุ่มคุณเจริญเองด้วยที่มีธุรกิจสื่อและบันเทิงเป็นของตัวเอง
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]