- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 November 2016 18:01
- Hits: 2390
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ไปไม่ถึง 1,500”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้กลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้งหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มธนาคารที่มีแรงขายออกมาหลังมีข่าวเรื่องหนี้เสียรายย่อยที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารติดลบไป 0.8% และ 0.5% ตามลำดับ ด้านนักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดขายสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 1,300 ล้านบาท ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 6.25 จุด (-0.4%) มาอยู่ที่ 1,490.11 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายเบาบางเพียง 33,752.37 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) GDP 3Q59 ของเยอรมันขยายตัว 0.2%QoQ และขยายตัว 1.5%YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด โดยตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ตอบรับเชิงบวก ทำให้ DAX +0.25%Day, FTSE +0.17%Day และ CAC40 +0.29%Day
(+) ราคาถ่านหิน Newcastle วานนี้ปิดบวก 0.7%Day มาอยู่ที่ 93 US/Tons ยังคงสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นถ่านหิน BANPU, LANNA
(+) ราคายาง TOCOM เช้านี้เริ่มอ่อนตัวลงไป 1.2%Day มาอยู่ที่ 228.80 Yen/Kg. แต่หากเทียบกับต้นเดือน พ.ย. ราคายังคงเพิ่มขึ้น 27%MTD มองยังเป็นบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มยางทั้ง STA, NDR
(+/-) รัฐบาลมีมติให้ไทยสามารถนำเข้าถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองได้ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบของ WTO และ NAFTA เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.60
(+/-) รฟม. เปิดซองคุณสมบัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม วงเงิน 8.0 หมื่นลบ. พบ 4 รับเหมาใหญ่ CK, STEC, ITD, UNIQ ผ่านเกณฑ์ฯ คาดรู้ผลการประมูลพร้อมเซ็นสัญญาได้ภายในเดือนม.ค. 60
(+/-)มีการแต่งตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลโครงการอินเตอร์เน็ตประชารัฐ 1.5 หมื่นลบ. โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ธ.ค 59
(+/-) ครม. เตรียมพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องสำอางน้ำหอม 2 เดือน (ลบต่อธุรกิจเครื่องสำอางในประเทศ BEAUTY,KAMART), ช็อปช่วยชาติลดหย่อนภาษี และท่องเที่ยวช่วยชาติ (คาดดีต่อกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว)
(+/-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดทำการ เนื่องในวัน Thankgiving Day
(-) ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ต.ค. -0.4%YoY inline กับที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, KKP, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP)
การลงประชามติเกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลี ในวันที่ 4 ธ.ค.
ประชุม FED รอบธ.ค. (13-14 ธ.ค.) ตลาดคาดรอบนี้จะขึ้นดอกเบี้ย
ตัวเลขสำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่ อัตราการว่างงานญี่ปุ่นเดือน ต.ค., GDP 3Q59 สหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจยูโรโซน (29 พ.ย.), PMI ภาคการผลิตจีน และ PMI ภาคการผลิตสหรัฐ (1 ธ.ค.), อัตราการว่างงานสหรัฐ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (2 ธ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “เน้นรายตัว”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ เรามองเม็ดเงินต่างชาติจะยังคงไหลออกต่อเนื่อง ก่อนการประชุม FED ในเดือนหน้า ยังคงแนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เช่น กลุ่มส่งออกอาหาร และ ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ และยังคงแนะนำเก็งกำไรสั้นรายวันในกลุ่มทีมีปัจจัยบวกเฉพาะ จากที่เรายังมีมุมมองลบต่อตลาดกลุ่ม Emerging Country ในระยะกลาง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BANPU เก็งกำไร
ราคาสัญญา ICE Newcastle Coal ส่งมอบเดือน พ.ย. อยู่ที่ 105.95 เหรียญ/ตัน ปรับบวก 2.65 เหรียญต่อตันจากวานก่อน
ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาถ่านหินใน 2H59 ในช่วงผลประกอบการ 1H60
คาดปีหน้าผลประกอบการโรงไฟฟ้าหงสาจะดีขึ้นในปี 60 เทียบจากปี 59 จากผ่านช่วงแรกของการเดินเครื่อง
TCAP เก็งกำไร
คาดแนวโน้มการดำเนินงานในปี 60 ดีกว่าปี 59 จากแนวโน้มการตั้งสำรองที่ลดลง,ธุรกิจลีสซิ่งยานยนต์และอสังหาเริ่มฟื้นตัว
คาดกำไร 4Q59 ยังเติบโตต่อดี จากที่ไม่มีการตั้งสำรองหนี้พิเศษเพิ่มเติม และ Credit Cost ที่คาดว่าจะลดลง QoQ
ทีมวิเคราะห์