- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 November 2016 18:34
- Hits: 4173
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Sideways
วันนี้ คาด แกว่งออกข้าง กรอบ 1,487-1,500 จุด คาดแรงขายต่างชาติเริ่มชะลอหลังจากวันนี้ไปขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯหยุดเนื่องในวัน Thanks giving day ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ เมื่อวาน ดัชนีฯ เชื่อมั่นอุตฯ เดือน ตค. 86.5 สูงสุดรอบ 7 เดือน และ รัฐให้ยื่นจด พิโกไฟแนนซ์ ตั้งแต่ 1 ธค. เป็นต้นไป เชื่อช่วยลดหนี้นอกระบบ หนุนเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตต่อเนื่อง
สัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องอีกโดยขาย 5 วันติดมูลค่ากว่า 10,470 ล้านบาท เราคาดว่าหลังจากผ่านวัน Thanksgiving day ในสัปดาห์นี้ไป แรงขายต่างชาติน่าจะเริ่มชะลอลงตามปัจจัยฤดูกาล และมีโอกาสที่หุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัว เพราะเราเชื่อมั่นใน พื้นฐานกำไร บจ.ไทย ที่มีแนวโน้มโตได้ดีต่อเนื่องใน 4Q16 ขณะที่ GDP 3Q16 ที่ประกาศไปเมื่อวันจันทร์ +3.2% (9 เดือน ขยายตัว 3.3% y-y Vs. มอร์แกนสแตนลีย์คาดปีนี้ที่ 3.2%) เชื่อหนุนโมเมนตั้มตลาดหุ้นไทยให้ค่อยๆฟื้นตัวได้
ระยะเดือน (พย.) ลงผิดคาด หลุด 1,480 จุด ทำให้แนวโน้มรายเดือน คาดลง-ปิด Gap แถวๆ 1,450 +/- 10 จุด (1,455/1,450/1,440 จุด) ก่อนจึงจะค่อยฟื้นตัว โดยคงแนวต้านเดิม 1,530 จุด แนะนำ ซื้อถัวตามแนวรับ/เลือกซื้อรายตัว พัฒนาการของการฟื้นตัว...จะขึ้นอยู่กับ ท่าทีและคำสัมภาษณ์ของ ว่าที่ ปธน.สหรัฐฯ (ท่าทีล่าสุด ยืนยันไม่เข้าร่วม TPP เรามองเป็นบวกต่อไทย) จะ พลิก Sentiment ตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้ และต้องตาม ถ้อยแถลงของ ประธานเฟด ระหว่างนี้ไปถึงช่วงปลายเดือน พย. เพราะจะมีสัญญาณต่อทิศทาง ดอกเบี้ยในเดือน ธค. (ซึ่งเมื่อวาน FOMC Minute ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย แต่หุ้น-ทอง ขึ้น สวนทาง)
ส่วนปัจจัยในประเทศ ผลการดำเนินงาน บจ.ส่วนใหญ่ที่ทยอยประกาศเรามองว่า มี Flows ของการปรับเพิ่มกำไร-ราคาป้าหมาย ในกลุ่มฯ เช่น โรงกลั่น-ปิโตรฯ, โรงพยาบาล, ค้าปลีก, เกษตร-อาหาร, สินเชื่อบุคคล และ...รอบนี้เราพบว่า ตลาดวนเล่นหุ้น โรงกลั่น โรงพยาบาล Retail Finance อาหาร ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มน้อยที่มีการปรับกำไรขึ้นรอบนี้ และส่วนใหญ่ที่เล่นจะเป็น หุ้น Local play (เลี่ยงหุ้นฝรั่ง) ตลอดจน หุ้นที่มีประเด็นหนุน เช่น MSCI addition เป็นต้น
หุ้นแนะนำวันนี้ TICON สะสมอ่อนตัว แนวรับ 15.3 บ. ต้าน 16 บ. (ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯเริ่มดีขึ้น และ แนวโน้มการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ คาดหนุน Sentiment กลุ่มนิคมฯ กลับมา)
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) EGCO เรายังคงชอบการเติบโตของบริษัท ซึ่งจะมาจากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 365MW ในต้นปีหน้า คาดหนุนให้กำไรโตราว 18% นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโครงการเพิ่มเติมอีก 2,867MW ซึ่งคิดเป็นส่วนเพิ่มราว 70% ของกำลังการผลิตในมือปัจจุบัน คาดหากมีความคือหน้าของโครงการจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นที่สำคัญ ในมุม valuation เรามองว่า EGCO เทรดที่ PBV/ROE เพียง 0.10 เท่า (ถูกกว่ากลุ่มฯที่ 0.11 เท่า) ในขณะที่คาดกำไรโต 21.2% ในช่วง 2016-18 (CAGR) สูงกว่ากลุ่มฯที่ 20% คาดราคาหุ้นควรเทรดไม่ถูกกว่ากลุ่ม เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 230 บาท
(+) SPALI เป็นหนึ่งในหุ้น Top pick ของเราในกลุ่ม จากความชัดเจนของกำไรในระยะยาวที่ดูดีที่สุดในช่วงปี 2017-2018 ในขณะที่ราคาหุ้นก็ถือว่าถูกโดยเทรดกันที่ PE ปี 2017 7.3 เท่า เทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรปี 2017 ที่ 15% ดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่อยู่ที่ 6% ในแง่ของประเด็นหนุนยังมาจาก 1) ความชัดเจนและต่อเนื่องของกำไรจาก คอนโดที่เสร็จพร้อมโอนในปี 2017 +33% YoY และ 2017 +15% YoY อีกทั้ง Backlog ยังครอบคลุมประมาณการรายได้ของเราปี 2017 ราว 54% (กลุ่ม 22%) และ ปี 2018 ราว 39% (กลุ่ม 10%), 2) แผนธุรกิจปี 2016 เป็นไปตามแผนในขณะที่หลายๆบริษัทในกลุ่มพลาดเป้า และ 3) ความต่อเนื่องการเติบโตของกำไรใน 4Q16 และ 1Q17 มีการเติบโตต่อเนื่องค่อนข้างดี เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
(+) AOT เราคาดกำไร 4Q16 (ก.ค.-ก.ย.) ที่ 4.245 พันล้านบาทลดลง 27% YoY และ 16% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักคาดโต 37% YoY แต่ลดลง 11% QoQ สำหรับประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญเราคาดจะส่งผลกระทบในระยะสั้น และทำให้กำไรหลักใน 1Q17 (ต.ค.-ธ.ค.) ปรับตัวลดลง YoY แต่อย่างไรก็ตามมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาได้สะท้อนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว อีกทั้งมีประเด็นบวกหนุนอยู่ซึ่งจะสามารถเป็นประเด็นบวกให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ คือ การยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำ VISA สำหรับประชากร 19 ประเทศรวมถึงประเทศจีน และการกลับมาของฤดูกาล High Season การท่องเที่ยวในช่วง ม.ค.-มี.ค. เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 490 บาท
หุ้นมีข่าว / ประเด็น
(*) AAV ราคาลงแรงเมื่อวานนี้ มุมมองของเรา เราคิดว่าเหตุผลต่างๆ เช่น วิตกจำนวนการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น, ข้อจำกัดพื้นที่สนามบินดอนเมือง ฯลฯ ไม่ใช่ประเด็นใหม่ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว เราคิดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจะเป็นแค่ระยะสั้น ส่วนเรื่องการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เรื่องค่าตั๋วในประเทศระดับปัจจุบันได้สะท้อนการแข่งขันไปแล้ว แต่ในแง่ของอุปสงค์การเดินทางเราคิดว่ายังแข็งแกร่งอยู่ เห็นได้จาก load factor ของสายการบินต่างๆที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้น AAV ได้เปิดเส้นทางบินระหว่างจังหวัดซึ่ง demand ดี & pricing ดี สำหรับประเด็นเรื่อง valuation เราคิดว่า AAV ควรจะ trade ที่ premium กว่า peers เนื่องจากแนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไรสูงกว่ากลุ่ม (ที่มา BLS Research)
(*/-) เปิดยื่นขอใบอนุญาต ประกอบธุรกิจ พิโกไฟแนนซ์ วันที่ 1 ธค.นี้เป็นต้นไป ต้องมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เก็บดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมใดๆ ไม่เกิน 36% ต่อปี (ที่มา มติชน) / คู่แข่ง SAWAD เพิ่มโดยตรง
(0/-) กลุ่มยานยนต์ ส่งออกรถเดือน ตค. -7.23% 10 เดือน ส่งออก 1 ล้านคัน -1.25% (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(+) กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน โรงพยาบาล: มติ ครม.งดค่าวีซ่าจีน กับอีกหลายประเทศชั่วคราว และเพิ่มระยะเวลา Long stay วีซ่าสำหรับ Medical wellness (ที่มา มติ ครม.)
(+) กลุ่มสินเชื่อบุคคล (นาโนไฟแนนซ์- เงินอุดหนุนนี้ จะช่วยปลดล็อกหนี้ผู้มีรายได้น้อยลดความเสี่ยง NPL), ค้าปลีก รับกระแสมาตรการเงินอุดหนุน 1.5-3 พันบาท ให้ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียน และ อนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีผลต้นปีหน้า (ที่มา มติ ครม.)
(+/-) หุ้นเข้า-ออก MSCI Standard index มีผล 1 ธค. นี้: BJC KCE ส่วนหุ้นเข้า MSCI Small Cap index (+) addition…COM7 MALEE TKN TFG / (-) deletion…ASP BJCHI CBG COL CGD DNA KCE ROJNA (ที่มา MSCI)
(+) DEMCO กำหนดเวลาประกาศชื่อ ผู้รับเหมางานโรงไฟฟ้าพลังงานลม ชัยภูมิ 250MW ของ EA น่าจะประกาศก่อนสิ้นเดือนนี้ เราคาดว่า DEMCO เป็น shortlist candidate รอย่อซื้อ (ที่มา BLS Research)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) เมื่อวาน Euro area PMI composite 54.1 ดีกว่าคาดที่ 53.2 จาก 53.3 (ที่มา Bloomberg)
(0/-) พฤหัส ตลาดหุ้นสหรัฐฯหยุดเนื่องในวัน Thanksgiving day, เยอรมนี GDP 3Q 2nd คาด +0.2% เยอรมนี Ifo, ญี่ปุ่น PMI mnfg. สิงคโปร์ GDP 3Q16 คาด +1% จาก +0.6% (ที่มา Bloomberg)
(0) วันศุกร์ อังกฤษ GDP 3Q16 2nd คาด +0.5% ญี่ปุ่น Core CPI คาด -0.3% จาก -0.5% มาเลเซีย CPI คาด +1.4% จาก 1.5% ไต้หวัน GDP 3Q16 คาด +2.1% สิงคโปร์ Industrial production คาด +0.5% จาก +6.7% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค