- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 November 2016 17:39
- Hits: 1931
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับฐาน หลังขึ้นใกล้เป้าหมายสิ้นปีแล้ว
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ลดลง กรอบจำกัด รับแรงกดดันจากเงินดอลล่าร์ฯ พุ่งแรง + ดัชนีฯ เข้าใกล้เป้าหมายสิ้นปีแล้ว (วานนี้ดัชนีฯ ขึ้นต่อ แรงกว่าที่คาดเล็กน้อย) ทั้งนี้แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าทำนิวไฮ แต่เรามอง SET มีโอกาสปรับฐานในวันนี้ หลังค่าเงินบาทร่วงแรงเมื่อวานเย็นต่อเนื่องเช้าวันนี้ ตามดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ที่ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ตอบสนอง i) รายงานประชุมเฟดจากครั้ง พ.ย. ชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. มีความเหมาะสม ii) ตัวเลขสั่งซื้อสินค้าคงทน ต.ค. +4.8% สูงกว่าที่ตลาดค่อนไว้ที่ +1.1% ค่อนข้างมาก นอกจากนี้ SET ปรับขึ้นมาใกล้ระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,500 จุด และใกล้เป้าดัชนีฯ สิ้นปี 2559 ของฝ่ายวิจัยที่ 1,510 จุดแล้ว ด้านตลาดน้ำมันไม่ตอบสนองต่อข่าวบวกล่าสุดที่ว่าอิรักพร้อมลดปริมาณการผลิต (upside ตลาดน้ำมันจำกัดแล้ว) ขณะที่แรงซื้อจากสถาบันในประเทศยังอยู่แต่จะเริ่มชะลอตัว หลังจากยอดสะสมจากต้นเดือน พ.ย. ขึ้นมาที่ 7.5 พันล้านบาทแล้ว (สถิติย้อนหลัง 10 ปีที่ผ่านมา สถาบันฯ ซื้อสุทธิในเดือน พ.ย. เฉลี่ย 9.0 พันล้านบาท)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ซื้อ THAI*, ITEL
THAI* (เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท) 1) ราคาหุ้นอ่อนตัวลงจากความกังวลเรื่องต้นทุนน้ำมันที่ปรับขึ้น (WTI รีบาวด์ขึ้น 4.4% WTD ราคาหุ้น THAI ปรับลง 5.3% WTD) ล่าสุดเราประเมินราคาน้ำมันมีโอกาสจะเริ่มพักฐานอีกครั้ง (ประเทศอิรักและอิหร่าน อาจไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่ม OPEC ในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน) ส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนใน THAI* ... อย่างไรก็ดีในกรณีที่เราประเมินผิด สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำ stop loss ก่อน 2) มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆของภาครัฐฯ (ลดค่าธรรมเนียมวีซ่า รวมถึง “จีน” + ขยายระยะเวลาวีซ่าให้นักท่องเที่ยวบางประเทศ) ลดความกังวลเรื่องผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฏหมาย และล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมเสนอ ครม ให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะยาว (มติ ครม วันอังคารเว้นเพียง 3 เดือน) เช่น ตลาดจีน อินเดีย ไต้หวัน มาเก๊า เป็นต้น (ที่มา: นสพ โพสต์ทูเดย์) 3) ค่าเงินบาทอ่อนเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบวกต่อการท่องเที่ยวจากต่างชาติ 4) ประเมิน Valuation ถูกเมื่อเทียบกับหุ้นสายการบินในภูมิภาคด้วย PE 8 เท่า PBV 1.56 เท่า (ค่าเฉลี่ยภูมิภาค PE 16.6 เท่า PBV 1.88 เท่า) … ข้อมูล Bloomberg 5) ประเมินแนวรับ 23.8 บาท แนวต้านแรก 25 บาท และถัดไปที่ 26.25 บาท (Stop loss 22.7 บาท)
ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นโดยจะเริ่มเกิดสัญญาณซื้อต่อเนื่อง เมื่อทะลุแนวต้านแรกที่ 11.2 บาท (กราฟรายชั่วโมง) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไรตาม” ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.7 บาท และหากทะลุผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 12.7 บาท แนวรับ 10.9 บาท 2) เราประเมินแผนแม่บทของกระทรวงดีอี ที่มุ่งเน้นการเพิ่มการเข้าถึงอินเตอร์เนตของคนไทย รวมถึงโครงการอินเตอร์เนตหมู่บ้านจะเป็นตัวกระตุ้นอัตราการเช่าโครงข่าย Fiber optic ของ ITEL ซึ่งปัจจุบันยังต่ำเพียง ±20% แต่สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 400 ล้านบาท + อัตรากำไรสูงถึง 28 – 30% หากอัตราการเช่าโครงข่ายเพิ่มขึ้น จะทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นตามในอัตราเร่ง (เป็นเส้น Back Bone ตามแนวรถไฟทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้สัมปทาน 2 ราย คือ ITEL และ ALT โดย ITEL เดินสายโครงข่ายครบทั้งประเทศแล้ว)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK*, SEAFCO) จากการเข้าพบผู้บริหาร SEAFCO วานนี้ เรายังคงประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างไทยจะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้งในปี 2560 – 61 จากการประมูลโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟรางคู่จำนวนมากปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มการตอกเสาเข็มก่อสร้างได้ในกลางปี 2560 เป็นต้นไป แนะนำ “ซื้อสะสม” CK* และ SEAFCO
1) CK* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) ฝ่ายวิจัยฯเลือก CK เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ และเราประเมินเป็นหุ้นที่ความเสี่ยงต่ำจากการที่มี บ.ลูกที่มีรายได้สม่ำเสมออย่าง BEM*, TTW*, และ CKP* ประเมินแนวรับ 30 บาท แนวต้านแรก 31.75 บาท
2) SEAFCO (เป้า Consensus 13.5 บาท) เราประเมิน SEAFCO ที่เป็นผู้รับเหมางานเสาเข็มและฐานรากรายใหญ่ของไทย มีความเสี่ยงต่ำกว่าผู้รับเหมาหลัก ไม่ว่าผู้ชนะการประมูล จะเป็นผู้รับเหมาหลักรายใด ด้วยปริมาณงานจำนวนมาก คาดว่าจะต้องแบ่งงานเสาเข็มกันระหว่าง SEAFCO และ PYLON ขณะที่ SEAFCO มี PE ปี 2560 ที่ต่ำกว่า (SEAFCO 13.3 เท่า / PTLON 17 เท่า) ประเมินแนวรับ 10.2 บาท แนวต้านแรก 10.8 บาท และแนวต้านถัดไป 11.5 บาท
หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.)
1) MSCI global standard: BJC*, KCE*
2) MSCI global small cap: COM7*, TFG, MALEE, TKN
หุ้นมีข่าว
(+) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเพิ่มเติมให้กับนักท่องเที่ยวฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน โดยมีเป้าหมายเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวประมาณ 10% ในปีหน้า ซึ่งมีเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนที่ใกล้เข้ามา (บางกอกโพสต์) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวจะเป็นอานิสงสืบวกต่อกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากกลุ่มแรก (19 ประเทศ ซึ่งเริ่มมีผลวันที่ 1 ธ.ค.59) ในช่วง 9M59 จำนวนนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในไทย ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวยังช่วยลดผลกระทบทางลบนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลง ภายหลังการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย.59
(+) ลุ้นอานิสงส์เว้นวีซ่าปลุกตลาดจีนขึ้นทันไฮซีซั่น (โพสต์ทูเดย์) โรงแรมหวังนักท่องเที่ยวจีนกลับไทย หลังรัฐยกเว้นวีซ่าให้ในช่วง ไฮซีซั่น นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัท เอเชียโฮเต็ล เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (วีซ่า) และลดค่าธรรมเนียมตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) 1,000 บาท/คน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2559-28 ก.พ. 2560 ให้นักท่องเที่ยว 19 ประเทศ ซึ่งมีจีนด้วย น่าจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น เพราะช่วยให้ ค่าใช้จ่ายลดลง อีกทั้งภาครัฐก็ไปทำตลาดจีนต่อเนื่อง โดยน่าจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ วันที่ 7 ธ.ค.เป็นต้นไป เพราะนักท่องเที่ยวจองล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง
(-) ส่งออกรถต.ค.ร่วง 7.23% (โพสต์ทูเดย์) ยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค.ทำได้แค่ 1.03 แสนคัน ลดลง 7.23% ทำ 10 เดือน ส่งออกได้แค่ 1 ล้านคัน ลดลง 1.25% นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์ในเดือน ต.ค. 2559 อยู่ที่ 1.03 แสนคัน ลดลง 7.23% เทีบบกับ ต.ค. 2558 มีมูลค่าส่งออก 5.39 หมื่นล้านบาท ลดลง 10.11% สาเหตุมาจากการส่งออกใน ตลาดสำคัญปรับตัวลดลง เช่น ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้
(+) รพ.เฮคนไข้ต่างชาติเพิ่ม (โพสต์ทูเดย์) BH-BDMS มีเฮ! รัฐลดค่าวีซ่าหนุนคนไข้ต่างประเทศโตขึ้นดันไตรมาส 4 กำไรดี หลังจากรัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับ 19 ประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2559-28 ก.พ. 2560 รวมถึงขยายเวลาให้พักในประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยวอายุ 55 ปีขึ้นไป จากเดิม 1 ปีเป็น 10 ปี จะส่งผลดีต่อกลุ่ม โรงพยาบาลและกลุ่มโรงแรม
(+) BA* ไม่กระทบทัวร์ศูนย์เหรียญ การันตีรายได้ปีนี้เติบโต 10% (ข่าวหุ้น) “BA” ลั่นไตรมาส 4/59 ไม่ได้รับผลกระทบปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ การันตีปีนี้รายได้เติบโต 10% รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวพุ่ง 12% กางแผนปีหน้ารายได้เพิ่มขึ้น 10-12% เล็งเพิ่มเครื่องบินเป็น 39 ลำ พร้อมขยายเส้นทางการบิน 2 เส้นทาง
(+) CHO คว้าออเดอร์ใหญ่230ล้าน ลุ้นซิวงาน THAI-รถบัสเพิ่ม 220 ล้านสิ้นปีนี้ (ข่าวหุ้น) “ช.ทวี” คว้าออเดอร์รถบรรทุกสินค้า 92 คัน มูลค่า 230 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 700 ล้านบาท พร้อมลุ้นผลประมูลงานการบินไทย-รถบัสเอกชน มูลค่ารวม 220 ล้านบาท คาดรู้ผลสิ้นปีนี้
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) วานนี้ปิดทดสอบแนวต้าน 13.7 บาท เราประเมินหากวันนี้ยืนเหนือ 13.7 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 14.5 บาท แนวรับ 13.4 บาท และ 13.1 บาท ตามลำดับ ... ประเมินงบฯ 4Q59 มีโอกาสจะทำนิวไฮ สูงกว่าที่ Consensus คาด จากมาตรการหนุนการบริโภคในประเทศปลายปี
SQ (เป้าพื้นฐาน 4.9 บาท) แนะนำ “ซื้อ” ประเมินแนวต้าน 4.42 บาท และถัดไปที่ 4.70 บาท แนวรับ 4.12 บาท (Stop loss 3.94 บาท) ... Earnings momentum จะดีขึ้นแบบ QoQ ตั้งแต่ 4Q59 – 1Q60 พ้นช่วง Low season ใน 3Q59 และการประมูลงานเหมืองแม่เมาะเฟส 9 มูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาทกลางปีหน้า
TFG (เป้า Consensus 5.8 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 6.3 บาท) ... เข้า MSCI global small cap (มีผล 30 พ.ย.นี้)
TRC (เป้าสูงสุด Consensus 1.6 บาท) แนะนำ “เก็งกำไรตาม” แนวรับ 1.50 บาท แนวต้าน 1.6 – 1.65 บาท (Stop loss 1.43 บาท) ... ประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนของกระทรวงการคลังเพื่อปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์นั้น มีโอกาสที่จะให้รัฐวิสาหกิจเข้าเพิ่มทุนแทนกระทรวงการคลัง ทำให้โครงการฯ เดินหน้าเร็วขึ้น
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) ราคาหุ้น Oversold หลุดกรอบ Bollinger band มีโอกาสรีบาวด์ โดยประเมินแนวรับ 4.2 บาท เป็นจุดเข้าซื้อสะสมใหม่อีกครั้ง (ตัดขาดทุน 4.0 บาท) ... ประเมิน Earnings Momentum เป็นขาขึ้นตั้งแต่ 4Q59 หลังการรวมงบ DMM ในเดือน ธ.ค.
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield 10.4%)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
CBG* แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 69 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2559-2561 เพิ่มขึ้น 9.0%, 20.3% และ 21.8% ตามลำดับ หลังจากที่เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้ขึ้น 11.0%, 32.5% และ 41.3% เนื่องจาก i) คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ii) ธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศเติบโตเร็วขึ้น และ iii) มีโอกาสสร้างการเติบโตในต่างประเทศสูงขึ้น โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 69.00 บาท ซึ่งคำนวณโดยวิธี DCF (WACC ที่ 8.8% และ terminal growth ที่ 4.0%) จากเดิมที่ 47.50 บาท แต่เรายังคงแนะนำให้ขาย CBG เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2560F ที่ 45.3 เท่า ถือว่าแพง เทียบกับแนวโน้มการเติบโตของ EPS ที่ 16.3% CAGR ในปี 2560-2561F
CK* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯได้ไปเยี่ยมชมโครงการไซยะบุรีในลาวแม้ว่าเราจะปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2559 ลงเหลือ 1.76 พันล้านบาท จากเดิม 1.8 พันล้านบาท แต่ความคืบหน้าของโครงการใหม่ และแนวโน้มที่สดใสของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก่อน่าจะทำให้กำไรในปี 2560 ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท จากแนวโน้มธุรกิจที่สดใสและร่วมเป็น JV กับ STEC* ทำให้ CK มีโอกาสมากขึ้นในการเข้าร่วมประมูลงานที่จะเปิดเพิ่มในอนาคตเราแนะนำให้ซื้อโดยให้ราคาเป้าหมายปี2560 ที่ 39.50 บาท
EGCO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 230 บาท ฝ่ายวิจัยฯยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อสินทรัพย์ที่บริษัทมีในมือ (BLCP และ Khanom) ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกหลายเฟส ฝ่ายวิจัยฯประเมินความเสี่ยงที่กำลังการผลิตใหม่อาจจะเพิ่มได้ไม่ทันตามแผน PDP2015 เป็น upside สำหรับโครงการของ EGCO ซึ่งพร้อมเข้าไปดำเนินการ จากการที่งานก่อสร้างโครงการใหม่คืบหน้าตามกำหนด
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยสั้นที่รับ 1494 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1494 จุดนั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นทดสอบต้าน 1505 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1494 จุด อาจกดราคาลงทดสอบแนวรับ 1483 จุด
แนวรับวันนี้: 1489/1483 แนวต้านวันนี้: 1501/1505
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]