WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวต้าน 1480-1485 แนวโน้มลงทดสอบ 1440
  SET Index: 1485.84 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1485 จุด ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านสำคัญของการฟื้นตัวในระยสั้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1470 จุดแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ แต่เรายังคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1480-1485 จุด และมีแนวรับที่ 1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรบตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1440 จุด ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นบางส่วน
  แนวต้าน : 1485 และ 1488
  แนวรับ : 1480 และ 1477

TRUE = 7.25 / 7.40, PTT = 342 / 345, JAS-W3 = 3.30 / 3.50, ADVANC = 142 / 144, CPF = 28.50 / 29.00

JMT Network Services (JMT TB; THB 17.20) – ซื้อ
  แนวต้าน : 17.80 และ 18.00 / แนวต้านสำคัญ 19.00
  แนวรับ : 17.20 และ 17.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
  แนะนำซื้อ JMT โดยมีแนวรับที่ 17.20 และ 17.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.80 และ 18.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.70 ลงไป

SPCG (SPCG TB; THB 21.20) – ซื้อ
  แนวต้าน : 22.00 และ 23.00 / แนวต้านสำคัญ 23.50
  แนวรับ : 21.20 และ 21.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ SPCG โดยมีแนวรับที่ 21.20 และ 21.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 22.00 และ 23.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 20.50 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 920 หลังจากฟื้นตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 908-910 แต่เราคาดว่า โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 924 ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 932-933 และมีแนวรับสำคัญที่ 918 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 910
  แนวต้าน : 924** และ 928
  แนวรับ : 920 และ 918
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50Z16 โดยมีแนวต้านที่ 916-918 เอาไว้ เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 908-910
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 924 ขึ้นไป

TRUEZ16X
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.40 ซึ่งเราแนะนำให้ Open short ที่บริเวณ 7.30-7.40 เอาไว้ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนรับที่ 7.00 และ 6.80 แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.44 ขึ้นไป ควร STOP LOSS สถานะ Short ออกไปก่อน
  แนวต้าน : 7.40 และ 7.44
  แนวรับ : 7.30 และ 7.20
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Short ใน TRUEZ16X ที่บริเวณ 7.40-7.44 รอกลับเข้าไปอีกครั้งถ้าหลุด 7.00 ลงไป
  STOP LOSS สถานะ Short หลังจาก TRUEZ16X ทะลุผ่าน 7.44 ขึ้นไป

BEMZ16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 7.40-7.50 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 7.35 ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 จึงแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 7.40-7.50 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 7.35 ลงไป จะเป็นสัญญาณขาย
  แนวต้าน : 7.70 และ 7.80
  แนวรับ : 7.45 และ 7.40
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BEMZ16 เอาไว้ที่บริเวณแนวรับ 7.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 และ 8.00
  STOP LOSS สถานะ Long ใน BEMZ16 ปรับตัวลดลงหลุด 7.35 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ประคับประคองตัว
  ดัชนีตลาดหุ้นไทย เปิดขึ้นมาช่วงต้นสัปดาห์ ปรากฏว่ายังอยู่ในภาวะซึมๆ หลังตัวเลข GDP Q3/16 ออกมาต่ำกว่าคาด คืออยู่ที่ 3.2% (โพลส์คาดไว้ที่ 3.4%) เทียบ 3.5% ใน Q2/16 สะท้อนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยตลาดยังคาดกันว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรฐกิจใน Q4/16 จะชะลอตัวต่อเนื่องไปอีก จนกว่าจะเห็นสัญญาณการกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แม้ตัวเลข GDP ใน Q3 จะชะลอตัวต่ำกว่าคาด แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อดัชนี SET มากนัก เนื่องจากอยู่ในความคาดหมาย
  หากมาดูการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET เทียบดัชนีหลักๆของโลก รวมทั้งราคาน้ำมัน จะพบว่า นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นๆไทย ยังทรงตัวได้ดีมาก คือ ขึ้นได้มากกว่าดัชนีหลักๆ แต่ต่ำกว่าราคาน้ำมัน ภาพตรงนี้สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่อพื้นฐานของตลาดในปีหน้ายังดี เพียงแต่รอความชัดเจนของการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ การปรับน้ำหนักการนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยของต่างชาติหลังอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรปรับตัวขึ้นและการแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์
  ส่วนการประเมินภาพของตลาดหุ้นเกิดใหม่เทียบตลาดพัฒนาแล้วทั้ง ค่า P/E และ P/BV 12 เดือนล่วงหน้า จะพบว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังถูกกว่าตลาดพัฒนาแล้ว เพียงแต่ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ อาจจะยังมีแรงกดไปอีกสักพัก จากเม็ดเงินไหลออกทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งยังต้องติดตามนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐในปีหน้า ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร จะวิ่งขึ้นแรงหรือไม่
  สำหรับแรงกดในตลาดหุ้นไทย ยังคงเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ซึ่งจะกดดันให้ตลาดซึมลงต่อ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนนี้ ที่อาจจะเกิดแรงขายจากการทำ MSCI Rebalancing ดังนั้นการเข้าซื้อ อาจจะต้องรอให้ผ่านช่วงดังกล่าวไปก่อนหรือให้ดัชนีลงมาในกรอบ 1460-1450 จุด สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจในแง่ยังไม่ขึ้นและ Underperform กว่า SET มานาน คือ กลุ่มบันเทิง (ดูรูปด้านขวา) โดยแรงกดหลังจากนี้น่าจะค่อยๆคลายตัวลง หลังสื่อ TV เริ่มดำเนินการได้ตามปกติ กลุ่มนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEC และ Major เนื่องจากราคาหุ้นที่เทรดกันอยู่ เล่นกันต่ำกว่าราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์และต่ำกว่า SET ค่อนข้างมาก
  วันนี้มองดัชนี SET จะยังซึมตัวลงต่อ ตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา (หากมีดัชนีจะเด้งแค่ในช่วงสั้น) ซึ่งจะสังเกตได้ว่าตอนนี้แม้จะมีปัจจัยหนุน อย่างแนวโน้มการเลื่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกมาไปอีก ตลาดแทบจะไม่ตอบสนอง หรือแม้แต่หุ้นหลายๆ ตัวที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด แต่ก็ไม่เล่น เรามองว่าลักษณะดังกล่าวเป็นลักษณะของความกังวลในช่วงสั้นๆ วันนี้มองแนวรับที่ 1465-1473 จุดและแนวต้านที่ 1483-1490 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEC MAJOR BDMS และ ADVANC

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,485.84 จุด เพิ่มขึ้น 7.54 จุด (+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 21,341.81 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ตลาดรอการประชุมกลุ่มโอเปก (30 พ.ย.) นอกจากนี้ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทย


Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้ายืน 1485 จุดได้ จะเกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไรตาม ระยะสั้นน่าจะเริ่มเห็นแรงซื้อกลับของพอร์ตโบรกเกอร์และสถาบันในประเทศกลับเข้ามาผลักดันตลาดอีกครั้ง หลังตลาดรับรู้ปัจจัยลบเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างชาติตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นไปแล้วและล่าสุดค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นน่าจะช่วยหนุนให้สัญญาณการเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยฟื้นคืนกลับมา โดยเรามองแนวต้านถัดไปที่ 1500 จุด แนะนำกลับเข้าซื้อหุ้นใหญ่คืน เราแนะนำซื้อ เล่นรีบาวน์ โดยเลือก SCC, PTT, AOT, KBANK, SCB, CPALL, CK, BANPU, IVL, ADVANC เน้น SCB ประเมินราคาเหมาะสมที่ 177 บาท โดยมองว่า SCB มีปัจจัยบวกทางพื้นฐานพิเศษเพิ่ม จากกรณีการปรับโครงสร้างหนี้ SSI ซึ่งจะช่วยลดระดับ NPLs ลงสู่ 2.4% จากเดิมที่ 2.8%

Technical Pick (PM) ...
JMT Network Services (JMT TB; THB 17.20) - ซื้อ
SPCG (SPCG TB; THB 21.20) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

 
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM) 
 
SET Index: แนวต้าน 1480-1485 แนวโน้มลงทดสอบ 1440 
  SET Index: 1485.84 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1485 จุด ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านสำคัญของการฟื้นตัวในระยสั้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1470 จุดแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ แต่เรายังคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1480-1485 จุด และมีแนวรับที่ 1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรบตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1440 จุด ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นบางส่วน   
  แนวต้าน : 1485 และ 1488
  แนวรับ   : 1480 และ 1477
 
TRUE = 7.25 / 7.40, PTT = 342 / 345, JAS-W3 = 3.30 / 3.50, ADVANC = 142 / 144, CPF = 28.50 / 29.00
 
JMT Network Services (JMT TB; THB 17.20) – ซื้อ
  แนวต้าน : 17.80 และ 18.00  /  แนวต้านสำคัญ 19.00 
  แนวรับ   : 17.20 และ 17.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น 
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
  แนะนำซื้อ JMT โดยมีแนวรับที่ 17.20 และ 17.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.80 และ 18.00 เป็นจุดขายทำกำไร 
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.70 ลงไป 
 
SPCG (SPCG TB; THB 21.20) – ซื้อ
  แนวต้าน : 22.00 และ 23.00  /   แนวต้านสำคัญ 23.50 
  แนวรับ   : 21.20 และ 21.00 
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60 
  แนะนำซื้อ SPCG โดยมีแนวรับที่ 21.20 และ 21.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 22.00 และ 23.00 เป็นจุดขายทำกำไร 
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 20.50 ลงไป 
 
SET50 Index Futures  
  S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 920 หลังจากฟื้นตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 908-910 แต่เราคาดว่า โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 924 ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 932-933 และมีแนวรับสำคัญที่ 918  ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 910
  แนวต้าน : 924** และ 928
  แนวรับ   : 920 และ 918
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50Z16 โดยมีแนวต้านที่ 916-918 เอาไว้ เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 908-910  
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 924 ขึ้นไป
 
TRUEZ16X
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.40 ซึ่งเราแนะนำให้ Open short ที่บริเวณ 7.30-7.40 เอาไว้ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนรับที่ 7.00 และ 6.80 แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.44 ขึ้นไป ควร STOP LOSS สถานะ Short ออกไปก่อน  
  แนวต้าน : 7.40 และ 7.44 
  แนวรับ   : 7.30 และ 7.20 
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Short ใน TRUEZ16X ที่บริเวณ 7.40-7.44 รอกลับเข้าไปอีกครั้งถ้าหลุด 7.00 ลงไป  
  STOP LOSS สถานะ Short หลังจาก TRUEZ16X ทะลุผ่าน 7.44 ขึ้นไป
 
BEMZ16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 7.40-7.50 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 7.35 ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 จึงแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 7.40-7.50 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 7.35 ลงไป จะเป็นสัญญาณขาย   
  แนวต้าน : 7.70 และ 7.80 
  แนวรับ   : 7.45 และ 7.40
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BEMZ16 เอาไว้ที่บริเวณแนวรับ 7.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 และ 8.00  
  STOP LOSS สถานะ Long ใน BEMZ16 ปรับตัวลดลงหลุด 7.35 ลงไป 
 
Analysts :    
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
 
SET...ประคับประคองตัว 
  ดัชนีตลาดหุ้นไทย เปิดขึ้นมาช่วงต้นสัปดาห์ ปรากฏว่ายังอยู่ในภาวะซึมๆ หลังตัวเลข GDP Q3/16 ออกมาต่ำกว่าคาด คืออยู่ที่ 3.2% (โพลส์คาดไว้ที่ 3.4%) เทียบ 3.5% ใน Q2/16 สะท้อนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยตลาดยังคาดกันว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรฐกิจใน Q4/16 จะชะลอตัวต่อเนื่องไปอีก จนกว่าจะเห็นสัญญาณการกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แม้ตัวเลข GDP ใน Q3 จะชะลอตัวต่ำกว่าคาด แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อดัชนี SET มากนัก เนื่องจากอยู่ในความคาดหมาย 
  หากมาดูการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET เทียบดัชนีหลักๆของโลก รวมทั้งราคาน้ำมัน จะพบว่า นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นๆไทย ยังทรงตัวได้ดีมาก คือ ขึ้นได้มากกว่าดัชนีหลักๆ แต่ต่ำกว่าราคาน้ำมัน ภาพตรงนี้สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่อพื้นฐานของตลาดในปีหน้ายังดี เพียงแต่รอความชัดเจนของการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ การปรับน้ำหนักการนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยของต่างชาติหลังอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรปรับตัวขึ้นและการแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์ 
  ส่วนการประเมินภาพของตลาดหุ้นเกิดใหม่เทียบตลาดพัฒนาแล้วทั้ง ค่า P/E และ P/BV 12 เดือนล่วงหน้า จะพบว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังถูกกว่าตลาดพัฒนาแล้ว เพียงแต่ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ อาจจะยังมีแรงกดไปอีกสักพัก จากเม็ดเงินไหลออกทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งยังต้องติดตามนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐในปีหน้า ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร จะวิ่งขึ้นแรงหรือไม่ 
  สำหรับแรงกดในตลาดหุ้นไทย ยังคงเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ซึ่งจะกดดันให้ตลาดซึมลงต่อ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนนี้ ที่อาจจะเกิดแรงขายจากการทำ MSCI Rebalancing ดังนั้นการเข้าซื้อ อาจจะต้องรอให้ผ่านช่วงดังกล่าวไปก่อนหรือให้ดัชนีลงมาในกรอบ 1460-1450 จุด สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจในแง่ยังไม่ขึ้นและ Underperform กว่า SET มานาน คือ กลุ่มบันเทิง (ดูรูปด้านขวา) โดยแรงกดหลังจากนี้น่าจะค่อยๆคลายตัวลง หลังสื่อ TV เริ่มดำเนินการได้ตามปกติ กลุ่มนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEC และ Major เนื่องจากราคาหุ้นที่เทรดกันอยู่ เล่นกันต่ำกว่าราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์และต่ำกว่า SET ค่อนข้างมาก 
  วันนี้มองดัชนี SET จะยังซึมตัวลงต่อ ตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา (หากมีดัชนีจะเด้งแค่ในช่วงสั้น) ซึ่งจะสังเกตได้ว่าตอนนี้แม้จะมีปัจจัยหนุน อย่างแนวโน้มการเลื่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกมาไปอีก ตลาดแทบจะไม่ตอบสนอง หรือแม้แต่หุ้นหลายๆ ตัวที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด แต่ก็ไม่เล่น เรามองว่าลักษณะดังกล่าวเป็นลักษณะของความกังวลในช่วงสั้นๆ วันนี้มองแนวรับที่ 1465-1473 จุดและแนวต้านที่ 1483-1490 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEC MAJOR BDMS และ ADVANC
 
Analysts :
          Kiatkong  Decho   +662 657-9236 [email protected] 
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
 
Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,485.84 จุด เพิ่มขึ้น 7.54 จุด (+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 21,341.81 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ตลาดรอการประชุมกลุ่มโอเปก (30 พ.ย.) นอกจากนี้ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทย  
 
 
Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้ายืน 1485 จุดได้ จะเกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไรตาม ระยะสั้นน่าจะเริ่มเห็นแรงซื้อกลับของพอร์ตโบรกเกอร์และสถาบันในประเทศกลับเข้ามาผลักดันตลาดอีกครั้ง หลังตลาดรับรู้ปัจจัยลบเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุนของต่างชาติตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นไปแล้วและล่าสุดค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นน่าจะช่วยหนุนให้สัญญาณการเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยฟื้นคืนกลับมา โดยเรามองแนวต้านถัดไปที่ 1500 จุด แนะนำกลับเข้าซื้อหุ้นใหญ่คืน เราแนะนำซื้อ เล่นรีบาวน์ โดยเลือก SCC, PTT, AOT, KBANK, SCB, CPALL, CK, BANPU, IVL, ADVANC เน้น SCB ประเมินราคาเหมาะสมที่ 177 บาท โดยมองว่า SCB มีปัจจัยบวกทางพื้นฐานพิเศษเพิ่ม จากกรณีการปรับโครงสร้างหนี้ SSI ซึ่งจะช่วยลดระดับ NPLs ลงสู่ 2.4% จากเดิมที่ 2.8% 
 
Technical Pick (PM) ...           
          JMT Network Services (JMT TB; THB 17.20) - ซื้อ 
          SPCG (SPCG TB; THB 21.20) - ซื้อ
 
Analysts :
          Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected] 
 
 
 
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!