- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 November 2016 15:55
- Hits: 2119
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ ปัจจัยบวกภายใน + ราคาน้ำมันขึ้น หนุนดัชนีฯ
KGI คาด SET วันอังคารปรับขึ้น ฟันด์โฟลว์อาจชะลอไหลออก + ราคาน้ำมันพุ่งแรงหนุนหุ้นพลังงาน (วานนี้ดัชนีฯ ไซด์เวย์อิงทางขึ้น ตามคาด) เรามองว่าต่างชาติจะขายสุทธิน้อยลงในระยะสั้น หลังเครื่องชี้หลักเช่นบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ และดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ ปรับลง ผนวกกับต่างชาติขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยลดลงเหลือเพียง 1.7 พันล้านบาท (จากที่มากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อวันในช่วงก่อนหน้า) ขณะที่หุ้นน้ำมันน่าจะโดดเด่นตามราคาน้ำมันสหรัฐฯ +6.0% ด้วยความคาดหวังต่อมาตรการลดปริมาณผลิตในการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย. นี้ ด้านปัจจัยภายใน ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปียังหนุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้อง (ดูรายละเอียดในส่วนถัดไป) ขณะที่แรงซื้อจากฝั่งสถาบันในประเทศในช่วงฤดูซื้อกองทุน LTF จะสร้างเสถียรภาพให้กับ SET โดยหากอิงสถิติย้อนหลัง 10 ปี สถาบันฯ ซื้อสุทธิใน พ.ย. เฉลี่ย 9.0 พันล้านบาท (จากต้นเดือน พ.ย. 2559 สถาบันฯ ซื้อสุทธิไปแล้ว 5.1 พันล้านบาท)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SQ / ซื้อ SEAFCO, ITEL
SQ (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 4.9 บาท) 1) จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เราประเมินว่า Consensus มีโอกาสปรับประมาณการขึ้นเนื่องจากมีโอกาสที่ SQ จะได้รับงานขุดเหมือง เพิ่มเติมจากข้อมูลในไฟลิ่งตอน IPO (ประเมินมีศักยภาพรับงานเฟสต่อเนื่อง จากงานปัจจุบัน ของเหมืองแม่เมาะ รวมทั้งมีโอกาสรับงานขุดเหมืองแร่โปแตซของ บ.อาเซียนโปแตซชัยภูมิ APOT (คาดจะ JV กับ TRC) โดยรอเพียงการปลดล๊อก เพิ่มทุนของกระทรวงการคลัง (คาดให้รัฐวิสาหกิจเข้าเพิ่มทุน ภายในปลายปีนี้ อย่างช้าต้นปีหน้า) 2) มีปัจจัยบวกหนุนจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย คือ i) Earnings momentum จะดีขึ้นแบบ QoQ ตั้งแต่ 4Q59 – 1Q60 พ้นช่วง Low season ใน 3Q59 และ ii) การประมูลงานเหมืองแม่เมาะเฟส 9 มูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาทกลางปีหน้า 3) Backlog ปัจจุบัน 3.6 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย >10% ถือว่าเด่นกว่าหุ้นรับเหมาฯทั่วไป ขณะที่ PE ปีนี้ยังต่ำเพียง 15.9 เท่า (รับเหมาฯ เฉลี่ย +20 เท่า) 4) แกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 4.42 บาท และถัดไปที่ 4.70 บาท แนวรับ 4.12 บาท (Stop loss 3.94 บาท) ... ดูบทวิเคราะห์ Alert วันนี้เพิ่มเติม
SEAFCO (เป้า Consensus 13.5 บาท) 1) เราประเมินกลุ่มรับเหมาฯกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้ง โดย i) ปลายเดือนนี้จะเริ่มขายซองรถไฟรางคู่ 1 เส้นทาง ii) ต้นเดือน ธ.ค.จะขายซองรถไฟรางคู่ 1 เส้นทาง iii) กลางเดือน ธ.ค.จะรู้ผลประมูลรถไฟสีชมพู-สีเหลือง iv) ม.ค.60 จะรู้ผลประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม 2) SEAFCO เป็นผู้รับเหมางานเสาเข็มและฐานราก ซึ่งผู้รับเหมาที่รับงานฯ ขนาดใหญ่ได้ มีเพียง SEAFCO PYLON และ บ.ลูก ITD* ทำให้ความเสี่ยงเรื่องผลการประมูลต่ำกว่าผู้รับเหมาหลัก 3) พิจารณาแก๊บราคาที่ 10.6 – 10.8 บาท หากปิดแก๊บได้และยืนเหนือ 10.8 บาท ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.5 บาท และ ถัดไปที่ 12.5 บาท แนวรับ 10.2 บาท
ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) 1) เราประเมินแผนแม่บทของกระทรวงดีอี ที่มุ่งเน้นการเพิ่มการเข้าถึงอินเตอร์เนตของคนไทย รวมถึงโครงการอินเตอร์เนตหมู่บ้านจะเป็นตัวกระตุ้นอัตราการเช่าโครงข่าย Fiber optic ของ ITEL ซึ่งปัจจุบันยังต่ำเพียง ±20% แต่สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 400 ล้านบาท + อัตรากำไรสูงถึง 28 – 30% หากอัตราการเช่าโครงข่ายเพิ่มขึ้น จะทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นตามในอัตราเร่ง (เป็นเส้น Back Bone ตามแนวรถไฟทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้สัมปทาน 2 ราย คือ ITEL และ ALT โดย ITEL เดินสายโครงข่ายครบทั้งประเทศแล้ว) 2) รูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นกลับสู่กรอบราคา 10.6 – 11.7 บาท อีกครั้งตามคาด โดยมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 11 บาท หากทะลุผ่านแนวต้านที่ 11.7 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 12.7 บาท แนวรับ 10.8 บาท
หุ้นในกระแส
หุ้นรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี คาดกระทรวงการคลังนำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เสนอ ครม เร็วๆนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 4Q59 หลัง GDP 3Q59 เริ่มชะลอ โดยคาดจะเน้นไปที่มาตรการท่องเที่ยวในประเทศ และการซื้อสินค้า+บริการ
i) THAI* (เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท) 1) คาดนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า จะช่วยกระตุ้น Cabin factor ให้ทรงตัวในระดับที่สามารถทำกำไรได้ดีใน High season นี้ (ต.ค.59 = 71% ดีขึ้นจาก 70.6% ในเดือน ต.ค.58) 2) คาดราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่เหมาะสม (±50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) จะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ 3) ประเมินแนวรับ 24 บาท แนวต้าน 25.5 บาท และเป้าหมายระยะกลางที่ 28 – 29 บาท
ii) COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) 1) ประเมินมีโอกาสจะนำมาตรการซื้อสินค้าและบริการ ลดหย่อนภาษี (เช่นในปี 2558) มาใช้อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายสินค้าของ COM7 ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ระดับกลาง-บน เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2) ประเมินแนวรับ 12.8 บาท แนวต้านแรก 13.1 บาท (แนวต้านเทรนไลน์ราย 60 นาที) หากผ่านแนวต้านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 13.7 บาท และ 14.5 บาท ตามลำดับ
iii) SPA (เป้าสูงสุด Consensus 14.7 บาท) 1) ประเมินมีโอกาสจะนำมาตรการซื้อสินค้าและบริการ ลดหย่อนภาษี (เช่นในปี 2558) มาใช้อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายของ SPA เช่น การซื้อ Package สปา และรวมถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยวจะช่วยเพิ่มยอดในสาขาต่างจังหวัด (กลุ่มลูกค้าของ SPA เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง – บน เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา) 2) ประเมินวานนี้ดีดพ้นแนวต้าน 12.8 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 13.7 บาท และ 14.5 บาท ตามลำดับ แนวรับ 12.8 บาท
หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.)
1) MSCI global standard: BJC*, KCE*
2) MSCI global small cap: COM7*, TFG, MALEE, TKN
หุ้นมีข่าว
(+THAI*) ท่องเที่ยวภูเก็ตชี้ตลาดรัสเซียฟื้นตัวแรง (กรุงเทพธุรกิจ) ท่องเที่ยวภูเก็ตลุยตลาดยุโรป คาดรัสเซียฟื้นสดใสรับ ครม.อนุมัติเพิ่มเที่ยวบินไทยรัสเซีย ส่งผลบินตรงเพิ่มเป็น 56 เที่ยว/สัปดาห์ เผยชาร์เตอร์ไฟลต์ขาเข้าใกล้เคียงช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ย้ำมาตรการปราบศูนย์เหรียญจีนยังไม่กระทบภาพรวม เหตุได้กรุ๊ปทัวร์ราคามาตรฐาน-ตลาดเดินทางเองหนุนรายได้ต่อหัวขยายตัว
(+) แจกเงิน'คนจน'หมื่นล้านคลังเตรียมเสนอครม.อนุมัติ 5 ล้านราย (กรุงเทพธุรกิจ) คาดใช้หลักเกณฑ์ เดียวกับช่วยเกษตรกร 3 ล้านราย ระบุหากรัฐเห็นชอบจ่ายได้ธ.ค.นี้ คลังเตรียมเสนอครม.อนุมัติ งบหมื่นล้านช่วยผู้มีรายได้น้อยจำนวน 5 ล้านรายที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสวัสดิการรัฐ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ โดยจะสรุปแนวทางการ ช่วยเหลือภายในเดือนธ.ค.นี้
(+) EPCO บุ๊คโซลาร์ฯญี่ปุ่น 12MW SPCG รายได้ปี 60 พุ่ง 6 พันล. (ข่าวหุ้น) EPCO โชว์ COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น โครงการ Kyoto ขนาด 12 MW บุ๊ครายได้เข้ากระเป๋าทันที จ่อ COD โรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติเพิ่มอีก 240 MW ธ.ค.นี้ ฟาก SPCG วางเป้าปี 60 รายได้พุ่ง 6 พันล้านบาท
(+) MSCI เพิ่มน้ำหนัก SCB* ลุ้นแผนฟื้นฟู SSI ผ่าน (ข่าวหุ้น) เอ็มเอสซีไอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของตลาดหุ้นไทยเพิ่ม 0.07% จากระดับ 2.2% เพิ่มขึ้นเป็น 2.29% พร้อมชู “ไทยพาณิชย์” ให้น้ำหนักสูงสุดรอบนี้ มีลุ้นศาลอนุมัติแผนฟื้นฟูฯ SSI ผ่านเดือนธันวาคม เป้าหมาย 175 บาท
(+) S ปักหมุดทุ่มซื้อกิจการ จ่อรับทรัพย์บ.ร่วมทุน (ทันหุ้น) S ลุยซื้อกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันเจรจาอยู่ 2 ราย ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้าบาทต่อราย คาดผลงานปี 2560 เติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ พร้อมกางแผนเปิดโครงการเบื้องต้น 2 โครงการ มูลค่าโครงการ 6-7 พันล้านบาท ส่งซิกผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน หลังรับรู้รายได้จากกิจการที่ซื้อเข้ามา พร้อมโชว์ 9 เดือน พลิกมีกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุน 260 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TFG (เป้า Consensus 5.8 บาท) แนะนำ “Let profit run” (ขยับ Trailing stop ขึ้นเป็น 6.2 บาท) ... เข้า MSCI global small cap (มีผล 30 พ.ย.นี้)
TRC (เป้าสูงสุด Consensus 1.6 บาท) Breakout แนวต้านเทรนไลน์ขาลงได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.6 – 1.65 บาท แนะนำ “เก็งกำไรตาม” (Stop loss 1.43 บาท) ... ประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนของกระทรวงการคลังเพื่อปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์นั้น มีโอกาสที่จะให้รัฐวิสาหกิจเข้าเพิ่มทุนแทนกระทรวงการคลัง ทำให้โครงการฯ เดินหน้าเร็วขึ้น
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) ราคาหุ้น Oversold หลุดกรอบ Bollinger band มีโอกาสรีบาวด์ โดยประเมินแนวรับ 4.2 บาท เป็นจุดเข้าซื้อสะสมใหม่อีกครั้ง (ตัดขาดทุน 4.0 บาท) ... ประเมิน Earnings Momentum เป็นขาขึ้นตั้งแต่ 4Q59 หลังการรวมงบ DMM ในเดือน ธ.ค.
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield 10.7%)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ADVANC* แนะนำ “ซื้อ” (Reinitiate coverage) เป้าพื้นฐาน 179 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมิน 1) ADVANC เป็นผู้นำในตลาดมือถือของไทย ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้บริการ และรายได้จากค่าบริการ ซึ่งค่อนข้างมีเสถียรภาพและจะช่วยหนุนการเติบโตในอนาคต 2) กำไรโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในปี 2559-2561 3) ราคาเป้าหมายของเรายังมี upside จากราคาตลาดอยู่อีกถึง 25% และ 4) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจอยู่ที่ 7.0% ในปี 2559 และ 5.4% ในปี 2560
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1475 – 1483 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1483 จุดนั้น อาจผลักขึ้นทดสอบแนวต้าน 1495 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1475 จุด อาจกดราคาลงทดสอบแนวรับ 1460 จุด
แนวรับวันนี้: 1475/1461 แนวต้านวันนี้: 1483/1494
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]