WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RHB OSK บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment

 

รอดู GDP ไทยในไตรมาส 3/2559
   ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ จากแรงขายทำกำไร และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์ ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.19%, -0.23%, -0.24%
  ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์ อาจกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.20%, -0.28%, -0.52%, -1.75%
   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 0.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดหวังโอเปกจะร่วมมือกันได้

   ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวซึมลงในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค หลังค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคยังคงมีทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนการประชุมเดือนหน้า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แต่ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวในระดับสูงสุด และยังคงส่งสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ อัตราเงินเฟ้อเริ่มดีดตัวขึ้น แต่ประธานเฟดยังย้ำว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อ ๆ ไปของเฟดจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนนโยบายเฟดจะอยู่ในระดับเป็นกลางในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในอัตราปานกลาง การลงทุนยังคงอ่อนแอ และได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ

     ทั้งนี้ ปฏิกริยาของตลาดภายหลังได้ส่งผลให้ Dollar index ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 101.43 จุดในการปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จับตาแนวโน้มในสัปดาห์นี้ต่อว่าจะทะลุระดับ 102 จุดได้หรือไม่ เพราะจะเป็นการสะท้อนการคาดการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีหน้าว่าจะมีการปรับขึ้นอีกกี่ครั้ง ซึ่งเมื่อเทียบเคียงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 จะพบว่า เมื่อถึงเวลาที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริง Dollar index ได้ปรับตัวลงมา แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบนี้ อาจแตกต่างจากช่วงปี 2015 เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังว่านโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์อาจจะผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นในปี 2018-2020 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดปรับขึ้นเร็วและแรงกว่าที่คาดได้

     ทั้งนี้ ยังต้องรอดูว่านโยบายของทรัมป์จะสามารถทำได้จริงอย่างที่หาเสียงไว้หรือไม่ โดยเฉพาะนโยบายกีดกันทางการค้าที่ยังต้องรอดูว่าจะสหรัฐฯ จะนำมาใช้จริงหรือไม่ หากสหรัฐฯ มีการกีดกันทางการค้ากับจีนจริง ก็อาจส่งกระทบต่อการส่งออกของอาเซียนและไทย ซึ่งไทยเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของการส่งออกในช่วงปลายไตรมาส 3 แล้ว ทางด้านการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไร และตลาดเริ่มจะวิตกกังวลการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทสหรัฐฯ ที่ต้องพึ่งการส่งออกเป็นรายได้หลัก ซึ่งล่าสุด Dollar index ยังไม่ข้ามระดับ 102 จุด ทางด้านค่าเงินในภูมิภาคเช้านี้ยังทรงตัว แต่ยังต้องจับตาการไหลออกของเงินในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง วันศุกร์ที่ผ่านมายังมีแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศอีกกว่า 1.1 หมื่นล้านบาทในตลาดตราสารหนี้ไทย รวมแล้วตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิรวม 5.4 หมื่นล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ที่ 2.35% ปรับขึ้นต่อเนื่องจากวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะซึมลงต่อเนื่องจากแรงขายของต่างประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน
  Trading : ดีดกลับไม่ผ่านแถว ๆ 1,485-1,500 จุด แนะนำ ขายลดความเสี่ยง

Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!