- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 November 2016 15:03
- Hits: 3011
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ ปัจจัยภายในช่วยหักล้างฟันด์โฟลว์ไหลออก
KGI คาด SET วันจันทร์ไซด์เวย์ ราคาน้ำมันพุ่ง + ปัจจัยบวกภายใน หักล้างฟันด์โฟลว์ที่ยังไหลออกต่อ (ศุกร์ที่แล้ว ดัชนีฯ แกว่งแคบมาก ตามคาด) การพุ่งขึ้นแรงของบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ และเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ซึ่งชี้โอกาสถึง 95% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. น่าจะกดดันฟันด์โฟลว์ต่อ อย่างไรก็ดีหุ้นพลังงานน่าจะแข็งแกร่งขึ้นหลังราคาน้ำมัน WTi ฟื้นตัว 3.0% เช้านี้ (ฟื้นตัว 4.5% จากวันศุกร์) หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโอเปกแถลงว่าการประชุมนัดพิเศษที่โดฮามีความคืบหน้าในการเจรจาให้อิหร่านยอมลดเป้าการผลิต ขณะที่ปัจจัยภายในเป็นบวก เช้านี้สภาพัฒน์ฯ จะรายงาน GDP ไตรมาส 3/2559 นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด +3.5% YoY, consensus คาด +3.3% YoY ซึ่งถือว่ายังแข็งแกร่ง ผนวกกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงสิ้นปี ซึ่งน่าจะผ่าน ครม. เร็วๆ นี้ (ดูรายละเอียดในส่วนถัดๆ ไป) น่าจะค้ำจิตวิทยาภายในประเทศได้ ผนวกกับแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่น่าจะเพิ่มขึ้นในฤดูการซื้อกองทุน LTF ทั้งนี้สถิติตลาดหุ้นเดือน พ.ย. ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าสถาบันซื้อสุทธิเฉลี่ย 9.0 พันล้านบาทในเดือน พ.ย. (พ.ย. 2559 เพิ่งซื้อสุทธิไป 3.0 พันล้านบาท) และ 1.2 หมื่นล้านบาทในเดือน ธ.ค.
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร COM7*, ITEL, SEAFCO
COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท ... Consensus มีโอกาสปรับเป้าขึ้น) 1) ภาครัฐฯเตรียมนโยบายช้อบช่วยชาติปลายปีนี้ โดยเฉพาะ การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท (ที่มา: นสพ โพสต์ทูเดย์) คาดเป็นบวกต่อยอดขายสินค้าของ COM7 ใน 4Q59 ที่โดยปกติเป็น High season อยู่แล้ว 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q59 ทำนิวไฮต่อเนื่องจาก i) iPhone7 ii) รับผลบวกจากการเป็นพันธมิตรกับ TRUE* เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกไตรมาส (บริหาร True shop + ปลายปีคาดได้ค่าคอมมิชชั่นขายเครื่องพ่วงซิม TRUE เพิ่ม เพราะเป็น High season + มีมือถือใหม่เปิดตัวหลายรุ่น) ii) การเข้าซื้อหุ้นบานานาชัวร์เพิ่มเป็น 100% ... คาด Consensus มีโอกาสปรับประมาณการฯและเป้าหมายขึ้น 3) แนวรับแรก 12.9 บาท (ถัดไป 12.5 บาท) / แนวต้านแรก 13.2 บาท (เทรนไลน์ระดับราย 60 นาที) หากทะลุผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 13.7 บาท และ 14.5 บาท
ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) 1) วานนี้ปิดที่ 10.5 บาท เริ่มเกิดสัญญาณการกลับตัว (Bullish reversal) ประเมินแนวรับ 10.3 บาท และหากยืนเหนือ 10.6 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 11.7 บาท (โดยมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 11 บาท) ... สำหรับนักเก็งกำไรสั้น ถ้าต่ำกว่า 9.9 บาท แนะนำ Stop loss 2) ประเด็นเรื่องการเร่งโครงการอินเตอร์เนตหมู่บ้านเป็นบวกต่อ ITEL ใน 2 กรณี i) สร้างดีมานด์ความต้องการใช้โครงการข่ายฯ ในภาพรวม และ ii) มีโอกาสเข้าร่วมประมูล อุปกรณ์และผู้รับเหมาติดตั้ง Fiber optic 3) รายได้ให้เช่าโครงข่าย Fiber optic (เส้น Back bone ตามรางรถไฟทั้งประเทศ ซึ่งมีผู้ได้รับสัมปทานเพียง 2 รายคือ ITEL และ ALT) ตอนนี้เฉลี่ยไตรมาสละ ±100 ล้านบาท และมีมาร์จิ้นสูงถึง 28-30% ขณะที่ 3Q59 U-rate ต่ำเพียง 20% และจะค่อยๆขึ้นทุกไตรมาส (มาร์จิ้นจะเพิ่มเป็นอัตราเร่ง ตาม U-rate ที่เพิ่มขึ้น) ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประมาณการแบบ Conservative ว่าจะมี U-rate เพียง 50% ในปี 2561 (เพียงพอที่จะทำให้ EPS โต 55% CAGR)
SEAFCO (เป้า Consensus 13.5 บาท) 1) ราคาหุ้นอ่อนตัวหลังรายงานงบ 3Q59 อ่อนตัวลง -64% QoQ ตลาดผิดหวัง แต่เป็นไปตามที่เราคาดเพราะโดยปกติไตรมาส 3 จะเป็น Low season โดยเฉพาะปีที่ฝนตกหนัก + งานโครงการภาครัฐฯขนาดใหญ่เพิ่งเริ่มเข้าปลายปีนี้ ... คาดกำไรจะกลับมาเด่นใน 4Q59 เป็นต้นไป จึงถือเป็นโอกาส “ซื้อสะสมอีกครั้ง” 2) พิจารณาที่แก๊บราคา 10.6 – 10.8 บาท หากปิดแก๊บแล้วยืนเหนือ 10.8 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.5 บาท / แนวรับ 10.2 บาท และ 10 บาท ตามลำดับ 3) เน้นงานฐานราก + เสาเข็ม ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการที่ทำงานนี้ได้มีเพียง SEAFCO, PYLON และ บ.ลูกของ ITD* เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องลุ้นผลการประมูลรถไฟฟ้าและรถไฟรางคู่ของผู้รับเหมาหลัก (ต่อให้ผู้รับเหมาฯรายใดชนะก็ตาม SEAFCO ก็มีโอกาสได้แบ่งงานฐานราก+เสาเข็ม) 3) PE ปี 2560 ต่ำเพียง 13.5 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มรับเหมาฯที่ +20 เท่า (ข้อมูล Bloomberg consensus)
หุ้นในกระแส
หุ้นรับค่าเงินดอลลาร์แข็ง
1) สายการบิน (THAI*): เราประเมินหุ้นสายการบินจะได้ 2 อานิสงส์จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นช่วงปลายปีนี้ คือ i) ต้นทุนน้ำมันลดลง (สินค้าโภคภัณฑ์มี Correlation เป็นลบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ) ii) เป็นบวกต่อการท่องเที่ยว (ค่าเงินบาทอ่อน) แนะนำ “ซื้อ” THAI* โดยประเมิน แนวรับ 25 บาท แนวต้านแรก 26.25 บาท หากผ่านได้ ประเมินเป้าหมายระยะกลางที่ 28 – 29 บาท ... เป็นสายการบินที่ Valuation ถูกในภูมิภาคด้วย PE 8.4 เท่า (ค่าเฉลี่ยภูมิภาค 18 เท่า) PBV 1.65 เท่า (ค่าเฉลี่ยภูมิภาค 1.91 เท่า) EV/EBITDA 8.3 เท่า (ค่าเฉลี่ยภูมิภาค 10.9 เท่า)
2) ส่งออก + รายได้ต่างประเทศ (KCE*, MEGA) เราประเมินหุ้นกลุ่มส่งออก + รายได้ต่างประเทศที่น่าสนใจได้แก่ i) KCE* กรอบแนวรับ – แนวต้าน 105 – 125 บาท ... เล่นประเด็น MSCI ii) MEGA กรอบแนวรับ – แนวต้าน 21.25 – 24 บาท ... ไตรมาส 4 เป็น High season คาดงบโต YoY และ QoQ รวมทั้ง PE 2559 = 23.7 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE กลุ่มยาในภูมิภาค = 30.7 เท่า)
หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.)
1) MSCI global standard: BJC*, KCE*
2) MSCI global small cap: COM7*, TFG, MALEE, TKN
กลุ่มรับเหมาฯ + ผู้ประกอบการรถไฟฟ้า วานนี้ รฟม เปิดซองคุณสมบัติ รถไฟฟ้าสีชมพูและสีเหลืองแล้ว คาดจะเปิดซองราคาและรู้ผลในเดือน ธ.ค.นี้ + ขายซองรถไฟรางคู่ 1 เส้นปลายเดือนนี้ และอีก 1 เส้นต้นเดือน ธ.ค. คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ 1) ผู้รับเหมาฯหลัก CK* และ STEC* 2) ผู้ประกอบการฯ BEM* และ BTS* 3) ผู้รับงานฐานรากและเสาเข็ม SEAFCO และ PYLON
หุ้นมีข่าว
(+) คลังเตรียมชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี (โพสต์ ทูเดย์) โดยมี 3 มาตรการคือ 1)มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท/ปี เพิ่มเติมจากปกติที่ลดหย่อน 1.5 หมื่นบาท/ปี 2) มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท และ 3) ยกเว้นภาษีสนับสนุนการซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางและน้ำหอม ทั้งนี้ เราคาดมาตรการดังกล่ว จะส่งผลบวกต่อกลุ่มผู้ค้าปลีก ดังเห็นได้จากการเข้าร่วมมาตรการอย่างล้นหลามในปีที่ผ่านมา ดังนั้น เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” และเลือก CPN* และ ROBINS* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 77 และ 75 บาท ตามลำดับ
(0) รมว.คลังเลื่อนการประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่เป็นปี 2561 หลังก่อนหน้านี้ร่างกฏหมายภาษีอสังหาฯใหม่มีกำหนดเริ่มบังคับใช้ในปี 2560 แต่เนื่องด้วยมีหลายประเด็นที่ทางกระทรวงการคลังและที่ประชุมที่ปรึกษาทางด้านกฏหมายมองแตกต่างกันโดยเฉพาะในกรณีที่ดินที่ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์หรือที่ดินรกร้าง เพื่อความเหมาะสม รมต.จึงเห็นว่าควรเลื่อนช่วงเวลาก่อนการประกาศใช้ออกไปก่อน 1 ปี เพื่อเปิดให้มีการพิจารณาเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว (Bangkok Post) ในมุมมองของเรา ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่เป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาฯเนื่องจากภาษีที่สูงขึ้นโดยเฉพาะกับที่ดินที่ทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์จะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้นซึ่งจะกดดันทำให้เจ้าของที่อาจต้องขายที่ดินออกมาเพื่อลดต้นทุนรายจ่ายด้านภาษีดังกล่าว ซึ่งอุปทานที่ดินที่ออกมามากขึ้นจะส่งผลให้ผู้ประกอบการเลือกซื้อและเจรจาได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่ราคาที่ดินจะขยับขึ้นสูงมากอย่างไม่สมเหตุสมผลก็จะลดลง อย่างไรก็ดีเรามองว่าการเลื่อนการประกาศใช้กฏหมายดังกล่าวออกไปจะส่งผลให้แรงกดดันในการเร่งขายที่ดินออกมาลดลงแต่ไม่น่ามีผลอย่างมีนัยยะสำคัญมากนักเพราะเป็นเพียงการเลื่อนการประกาศใช้ โดยในอีกด้านหนึ่งอาจมองว่าเป็นผลบวกเนื่องจากเสมือนเป็นการให้เวลาสำหรับการปรับตัวของผู้ประกอบการและเจ้าของที่ อย่างไรก็ดีโดยรวมเรามองว่าไม่น่ามีผลอย่างมีนัยยะโดยเฉพาะในระยะสั้นเช่นเดียวกับทางด้านรมต.คลังที่มองว่าการเลื่อนการประกาศใช้กฏหมายภาษีอสังหาฯใหม่ไม่น่ามีผลกระทบเนื่องจากมีการเลื่อนการตัวกฏหมายดังกล่าวมาต่อเนื่องกว่าสองทศวรรษแล้ว
(+) 3 หุ้นไก่รับข่าวดีเกาหลีใต้อนุมัตินำเข้าไก่สดไทย (ข่าวหุ้น) 3 เกลอหุ้นไก่ GFPT-CPF*-TFG ตีปีกรับข่าวดี เกาหลีใต้หวนนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทยรอบ 12 ปีจับตาดันออเดอร์พุ่งทะลัก ขณะ GFPT-CPF* รับโชคอีกเด้ง บาทอ่อนค่าเหนือ 35.50 บาท
(+) PTT* ส่ง PTTOR เข้าตลท.โชว์สินทรัพย์ 8.6 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) PTT เปิดแผนใหญ่ส่ง PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าเป็น “เรือธงธุรกิจน้ำมัน-ค้าปลีก” กลุ่มปตท. โชว์สินทรัพย์ 86,405 ล้านบาท อวด 9 เดือนกำไรแกร่ง 13,577 ล้านบาท ชงผู้ถือหุ้นโหวตอนุมัติเดือน เม.ย. ปี 60
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TFG (เป้า Consensus 5.8 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยประเมินแนวต้านถัดไป 6 บาท และ 6.5 บาท (Trailing stop 5.4 บาท) ... เข้า MSCI global small cap (มีผล 30 พ.ย.นี้)
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) ราคาหุ้น Oversold หลุดกรอบ Bollinger band มีโอกาสรีบาวด์ โดยประเมินแนวรับ 4.2 บาท เป็นจุดเข้าซื้อสะสมใหม่อีกครั้ง (ตัดขาดทุน 4.0 บาท) ... ประเมิน Earnings Momentum เป็นขาขึ้นตั้งแต่ 4Q59 หลังการรวมงบ DMM ในเดือน ธ.ค.
TRC (เป้าสูงสุด Consensus 1.6 บาท) หากวันนี้ยืนเหนือ 1.50 บาท ได้จะเป็นการ Breakout ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.6 – 1.65 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” (Stop loss 1.43 บาท) ... ประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนของกระทรวงการคลังเพื่อปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์นั้น มีโอกาสที่จะให้รัฐวิสาหกิจเข้าเพิ่มทุนแทนกระทรวงการคลัง ทำให้โครงการฯ เดินหน้าเร็วขึ้น
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield 11%)
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านแรก 23.9 บาท แนวรับ 22.5 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ROBINS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 75 บาท ข้อมูลโดยรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์อยู่ในเชิงบวก ทั้งนี้ผู้บริหารประเมินว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการบริโภคในประเทศที่สะดุดไปในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2559 เนื่องจากกลยุทธ์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ส่งผลให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้และหนุนให้จำนวนลูกค้าที่เข้าห้าง ROBINS ทุกสาขาค่อนข้างสม่ำเสมอ การดำเนินกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนธุรกิจอย่างต่อเนื่องจะทำให้จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นและหนุนให้กำไรสุทธิปี 2559-2560 โตได้ 8.9% YoY และ 14.6% YoY
CPN* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 77 บาท ข้อมูลโดยรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ CPN อยู่ในเชิงกลางๆทั้งนี้เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าอื่นๆจำนวนลูกค้าที่อยู่ในระดับสูงและรายได้ที่สูงจากจาก Consignment stores หลายแห่งน่าจะช่วยชดเชยรายได้จากการจัด Event ที่ลดลงได้และหนุนให้กำไรสุทธิใน 4Q59 เพิ่มขึ้น
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1478 – 1469 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1478 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1478-1494 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1469 จุด อาจกดราคาลงในกรอบ 1469-1448 จุด
แนวรับวันนี้: 1469/1463/1448 แนวต้านวันนี้: 1478/1488
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]