- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 November 2016 14:53
- Hits: 3069
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มแกว่งทรงตัวได้ดี คาดมีลุ้นรีบาวด์ขึ้น ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือ
ตลาดหุ้นวานนี้ : ช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว SET เริ่มแกว่งผันผวนในลักษณะทรงตัวได้บ้าง หลังจากช่วงต้นสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลงมาแถวจุดต่ำของเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าอีกครั้ง จากความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือน ธ.ค. และการอ่อนค่าของเงินบาทจากการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินดอลลาร์ หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐออกมาผิดคาด อย่างไรก็ตามในระหว่างสัปดาห์ค่าเงินบาทแข็งค่ากลับเล็กน้อย จึงพอที่จะช่วยให้ SET เริ่มแกว่งทรงตัวได้บ้าง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : หลังจากสัปดาห์ที่แล้วค่าเงินดอลลาร์เริ่มชะลอการแข็งค่าลงบ้าง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข็งค่ารวดเร็วของดอลลาร์อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทที่ต้องพึ่งพาการส่งออก ทำให้ค่าเงินบาทก็เริ่มชะลอการอ่อนตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ย.นี้ได้ ทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะมีกรอบลบค่อนข้างจำกัด และมีโอกาสลุ้นรีบาวด์กลับไปแกว่งบวกได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้
กลยุทธ์ : ดังนั้นเรายังแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อในช่วงลบต่อไปได้ แล้วเน้นถือต่อเนื่อง เพื่อรอรอบแกว่งบวกของ SET ในช่วงถัดไป
แนวรับ 1472-1470 , 1467-1463 จุด
แนวต้าน 1478-1482 , 1485-1490 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : INTUCH , EPG , CPN(buy back)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$263ล้าน โดยไต้หวันยังมีเม็ดเงินไหลออกหนักที่สุด US$202ล้าน ตามด้วยไทย US$21ล้าน และฟิลิปปินส์ US$18ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคไหลเข้าถือเงินดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนจาก US bond yield ที่ยังขยับขึ้นขณะที่ Dollar index แข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงรอผลการประชุม FOMC ในต้นเดือนหน้า (ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย)
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) การไหลออกของโฟลว์จะบรรเทาลง การปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติเป็นไปอย่างรุนแรงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย สำหรับตลาดหุ้นไทย ต่างชาติขายสุทธิติดต่อกัน 6 สัปดาห์และขายเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์หลังเช่นเดียวกับตลาดฟิวเจอร์สและพันธบัตร แต่ค่าเงินบาทอ่อนค่า (1.6%) น้อยสุดในเอเชีย (เงินริงกิตและเงินวอนอ่อนค่ามากสุด) จากฐานะการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง ทิศทางการไหลออกของเงินทุนต่างชาติจะเริ่มเบาลง ขณะที่บทบาทของกองทุนจะมากขึ้น เรามองเหมือนเดิม ดัชนีเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นได้ด้วยแรงซื้อของ LTF/RMF และต่างชาติหยุดขาย มองจุดซื้อลงทุนที่ปลอดภัยที่ 2017PE 13.5 เท่าหรือ SET ~1,450 จุด
(0) ติดตาม GDP 3Q16 ของไทยเช้านี้ ตลาดคาด +3.4% Y-Y ใกล้เคียง 2Q16 ที่ +3.5% Y-Y ถ้าเป็นไปตามนี้หรือดีกว่า จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ดีขึ้น แต่สำหรับ 4Q16 ที่การบริโภคซบเซา รัฐบาลอาจมีมาตรการลดหย่อนภาษีการช้อปสินค้าบางรายการ (ติดตามประชุมครม.พรุ่งนี้) เรายังเชื่อ GDP ทั้งปีโตได้ 3.3% และ
(+) เกาหลีไฟเขียวนำเข้าเนื้อไก่ดิบสดแช่แข็งจากไทยหลังยุติมานานกว่า 10 ปีตั้งแต่ไข้หวัดนก คาดส่งออกได้ 3-4 หมื่นตันต่อปี มูลค่า 3,000 ล้านบาท เป็นประโยชน์กับ 12 โรงงานที่ได้รับอนุญาตซึ่งรวมถึง CPF และ GFPT ที่เคยมีตลาดในเกาหลีอยู่แล้ว แต่ผลบวกมีจำกัดเพราะคิดเป็น 5-6% ของไก่ส่งออกทั้งประเทศ
(+) ROBINS ราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation น่าสนใจที่สุดในกลุ่ม Modern trade และมี upside มากที่สุดเมื่อเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 76 บาท ด้วย 2017PE เพียง 20 เท่า ขณะที่กลุ่มอยู่ที่ 25-30 เท่า แนวโน้มยอดขายต่อสาขาเดิมในช่วง ต.ค.-พ.ย. ยังน่าจะเป็นบวกได้ 0.5-1% Y-Y และจะเปิด 1 สาขาในไตรมาสนี้และอีก 3 สาขาปีหน้า เรายังคาดกำไรปีนี้ +26% Y-Y ปีหน้า +15% Y-Y แนะนำซื้อ
(0) SAWAD เราเริ่มเห็น Downside ของประมาณการกำไรของเราจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญเพิ่มเติมเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชี IRFS 9 ซึ่งถ้าพิจารณาจาก Coverage ratio พบว่า SAWAD ที่ 63% ของยอดสินเชื่อที่ค้างชำระมากกว่า 3 เดือน มีความเสี่ยงมากกว่า MTLS ที่อยู่ที่ 300% แม้เราคงคำแนะนำซื้อ SAWAD เพราะยังเหลือ Upside จากราคาเป้าหมายที่ 55 บาท แต่เราชอบ MTLS (ราคาเป้าหมาย 28.80 บาท) มากกว่าจากทั้งความเสี่ยงด้านคุณภาพหนี้ที่ต่ำกว่าและการเติบโตของกำไรที่สูงกว่า
(0) PTT ปรับโครงสร้างธุรกิจโดยจะตั้งบริษัท PTTOR เพื่อรับโอนธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกจาก PTT และมีแผนนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ (ต้นปี 2018 เป็นอย่างเร็ว) PTT จะถือหุ้น 45-50% เพื่อให้ PTTOR เป็นบริษัทเอกชน คล่องตัวในการดำเนินงานและเพิ่มความโปร่งใสการในการแข่งขัน ประเด็นนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นฐานของ PTT จนกว่า PTTOR จะเข้าตลาดฯ ซึ่งจะทำให้ PTT รับรู้ผลประกอบการจากธุรกิจดังกล่าวลดลงตามสัดส่วนที่ถือ แต่ชดเชยได้บ้างจากการสะท้อนมูลค่าของธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมที่แฝงอยู่ใน PTT เราคงราคาพื้นฐาน 370 บาท แนะนำถือ
(+) BJC และ KCE ที่ถูกเพิ่มเข้าใน MSCI มีแนวโน้มข็งแกร่งกว่าตลาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 พ.ย. - ไทย: 3Q16 GDP (ตลาดคาด +3.4% Y-Y ใกล้เคียง 2Q16), ยอดขายรถ(ต.ค.), กมธ.ลงมติร่างพรบ.ปิโตรเลียม
- สิงคโปร์: 3Q16 GDP
22 พ.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ต.ค.)
23 พ.ย. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ต.ค.), ยอดขายบ้านใหม่ (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
24 พ.ย. - สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิด วัน Thanksgiving, FOMC Meeting Minutes
25 พ.ย. - ไต้หวัน: 3Q16 GDP
28 พ.ย. - ไทย: ดุลการค้า, ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ต.ค.)
29 พ.ย. - ไทย: TNR เข้าเทรด (ราคา IPO 16 บาท)
- สหรัฐ: 3Q16 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (พ.ย.)
30 พ.ย. - การประชุม OPEC
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยโดยถูกถ่วงจากกลุ่มการแพทย์ ตลาดได้รับแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ FED หลายรายที่ออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนลบจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 13 ปีครึ่ง อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือนหน้าอย่างใกล้ชิด
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบๆยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ยังไต่ระดับขึ้นได้ต่อเนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า
(0) ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งทรงตัวได้หลังจากอ่อนค่าแรงพอควรในวันก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.27 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.69 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยความคาดหวังเรื่องการร่วมมือกันในการปรับลดกำลังการผลิตของ OPEC ซึ่งกดดันให้ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำมานานกว่า 2 ปี
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 8.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,208.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องหลังเจ้าหน้าที่ FED รายได้ออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch
