WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RHB OSK บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment

 

แรงหนุนจากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท
   ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหลังมีการคาดการณ์จากเจ้าหน้าที่เฟดสาขาเซนต์หลุยส์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.29%, 0.36%, -0.16%
   ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังมีการคาดการณ์จากเจ้าหน้าที่เฟดสาขาเซนต์หลุยส์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.66%, -0.63%, -0.78%, -0.73%
   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 0.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.63 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความคาดหวังว่าโอเปกจะสามารถตกลงกันได้ในการประชุมในช่วงสิ้นเดือนนี้

   ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าจากแรงหนุนของการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากตลาดเริ่มมีความคาดหวังในการประชุมปลายเดือนนี้ของกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตได้ โดยได้แรงหนุนจากเลขาธิการโอเปกที่จะมีการหารือกับอิหร่านเพื่อลดกำลังการผลิต รวมถึงซาอุฯ ที่จะมีการหารือกับรัสเซียเกี่ยวกับความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกอีกครั้ง ทำให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาหนุนตลาดในช่วงเช้าวานนี้ แต่ในช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยมีแรงขายทำกำไรออกมา หลัง Dollar index ฟื้นตัวขึ้นไปทำจุดสูงใหม่อยู่เหนือระดับ 100 จุดอีกครั้ง ทำให้ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่า ทั้งนี้ตลาดหุ้นในกลุ่ม TIPs วานนี้ฟื้นตัวได้ค่อนข้างแรงแตกต่างจากตลาดหุ้นไทยที่ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นทั้งสอง ทำให้การฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ก็จะจำกัดเช่นกัน ทางด้านการซื้อขายน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงเล็กน้อย หลัง EIA เปิดเผย สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล

      แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงหนุนราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น จากรัฐมนตรีพลังงานรัสเซียที่คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกน่าจะบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันกับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันศุกร์นี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ทางด้านการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปเมื่อคืนนี้ปรับตัวลง จากแรงขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องกว่า 7 วันทำการ และข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในเดือนต.ค. ที่ออกมาทรงตัว ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะขยายตัว 0.2% เทียบกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ที่ลดลง 0.2% นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจความเห็นของเทรดเดอร์จากบลูม เบิร์กว่า ตลาดเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นี้อย่างแน่นอน 100% สูงสุดเท่าที่เคยมีการสำรวจในปีนี้

      ทางด้านเจ้าหน้าที่เฟด นายแดเนียล ทารัลโล กล่าวว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบันเริ่มแตกต่างจากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้เฟดเน้นหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดสาขา เซนต์หลุยส์ กล่าวว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้แรงหนุนจากนโยบายของทรัมป์ในช่วงปี 2561-2563 ซึ่งจะหนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในการประชุมเดือนหน้า ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากแรงหนุนของการแข็งค่าของเงินบาท และจับตาแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศว่าจะเริ่มชะลอลงหรือไม่ หลังแรงขายในตลาดตราหนี้เริ่มชะลอลงแล้ว

กลยุทธ์การลงทุน
  Trading : ดีดกลับไม่ผ่านแถว ๆ 1,485-1,500 จุด แนะนำ ขายลดความเสี่ยง

Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!