- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 November 2016 16:35
- Hits: 2052
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
อารมณ์ฮึกเหิมในชัยชนะของ Trump คลาย
คาดหุ้นไทยไปไหนไม่ได้ไกล หลังจากที่ความฮึกเหิมของนักลงทุนต่อชัยชนะของ Trump ที่จะนำไปสู่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของสหรัฐเริ่มคลายลง โดยที่นักลงทุนเริ่มกลับมาประเมินผลกระทบสุทธิของผลบวกดังกล่าวกับผลลบจากนโยบายปกป้องทางการค้าของ Trump ที่อาจจะโดนตอบโต้อย่างเท่าเทียมกันหรืออาจจะมากยิ่งกว่าได้ มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้ Trump พิจารณาให้ดีต่อแผนจำกัดด้านการค้า ภายในประเทศไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่จะมีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
หุ้นเด่นวันนี้ : BCH (ราคาปิด 13.80 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 15.00 บาท)
บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล เป็นหุ้นเด่นในวันนี้เนื่องจากแนวโน้มของการพลิกฟื้นของกำไรอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3/59 ซึ่งรายงานกำไรสุทธิที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.6% QoQ และ 69.3% YoY การเติบโตดังกล่าวหนุนโดยการเพิ่มขึ้นของรายได้กิจการโรงพยาบาล โดยขยายตัวในผู้ป่วยทุกกลุ่มทั้งในผู้ป่วยที่ชำระเงินสด ผู้ป่วยประกันสังคม และรายได้จากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า อีกทั้ง อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรา EBlTDA ปรับตัวดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/59 และช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากรายได้ของบริษัทเริ่มเติบโตเร็วกว่าค่าใช้จ่าย เรามองว่าอัตรากำไรที่ดีขึ้นดังกล่าวเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแนวโน้มการพลิกฟื้นของกำไรของบริษัทอย่างแข็งแกร่ง ในแง่ของการลงทุนในอนาคต ปัจจุบันบริษัทมี 4 โครงการใหม่ในลักษณะ greenfield
และอีก 4 โครงการในการปรับปรุงและขยายโรงพยาบาลเดิม ตัวอย่างของโครงการเหล่านี้คือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รามคำแหงและโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อรัญประเทศ นอกจากนั้น เรายังมีมุมมองเป็นบวกกับอุตสาหกรรมการแพทย์ในระยะยาวเนื่องจากไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เราคาดการณ์กำไรจะก้าวกระโดด 34.1% ในปี 59 ก่อนที่จะลดระดับมาเติบโตที่ 16.8% ในปี 60 Price Pattern ของ BCH มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal และยังคงมี Price Pattern ที่บ่งบอการทำ New High ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BCH มีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 14.10 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ BCH มีความแข็งแกร่งมากพอด้วยการปิดตลาดเหนือ 14.10 บาทได้สำเร็จ ก็จะมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 18 บาท ซึ่ง BCH มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 13.20 บาท (Resistance: 14.00, 14.30, 14.60; Support: 13.50, 13.20, 12.90)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
อนุมัติให้ฟื้นฟูการสนับสนุนทางการเงินสำหรับ SME โครงการส่งเสริมสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้รับการอนุมัติงบประมาณเมื่อวานนี้ 3.26 พันล้านบาท ในปีงบประมาณ 2560 เพื่อเป็นเงินทุนและฟื้นฟูการลงทุน ผู้ประกอบการ SMEs ในโครงการประมาณ 3 พันรายที่มีศักยภาพทางธุรกิจให้ฟื้นกลับมา ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงผู้ที่มีเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพcpnผู้ที่มีเงินให้สินเชื่อจะเปลี่ยนเปรี้ยวและผู้ที่ได้รับการรีไฟแนนซ์หรือกำลังล้มเหลวในการชำระหนี้ตามกำหนดเวลาเนื่องจากการขาดสภาพคล่อง(Bangkok Post)
ททท.กระตุ้นนักท่องเที่ยวในระยะสั้นเพื่อชดเชยผลกระทบต่อการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพยายามที่จะเพิ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ ๆ ในสัปดาห์ที่เหลือของปีนี้ เพื่อชดเชยการลดลงอย่างมากของนักท่องเที่ยวจีนจากการปราบปรามศูนย์ทัวร์ศูนย์เหรียญในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมากกว่า 300,000 รายที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวและพนักงานของบริษัทจากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์, มาเลเซีย (The Nation)
ต่างประเทศ :
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแบนราบลงเมื่อวันพุธ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลงจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPl) สหรัฐแสดงว่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นช้ากว่าที่คาด ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 4/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.224% ราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 26/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.931% ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในปีนี้ที่ 3.067% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในทางกลับกัน ราคาพันธบัตรปรับอายุ 2 ปีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.01% ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 1.03% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 4 ม.ค. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงมากเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในช่วงระหว่างวันของวันพุธ โดยอ่อนค่าลงจากที่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลงจากดัชนีราคาผู้ผลิตที่น่าผิดหวัง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.2% อยู่ที่ 100.26 หลังจากเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 100.57 เมื่อวันพุธ เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่ปี 2003 ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลง 0.2% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 108.86 เยน หลังจากแตะที่ระดับ 109.76 เยนเมื่อคืนวาน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 1 มิ.ย. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสานเมื่อวันพุธ โดยดัชนี S&P500 ปิดลบและดัชนีดาวโจนส์ (DJlA) ปิดลบหลังจากที่พุ่งขึ้นติดต่อกัน 7 วัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงแต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นทำให้ดัชนี Nasdaq ปิดบวก หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเมื่อวันพุธแต่ราคาหุ้นดังกล่าวยังอยู่เหนือราคาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเนื่องจากนักลงทุนเก็งกันว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นและการผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงินจะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มธนาคาร ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดบวกเมื่อคืน โดยบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐส่วนมากผลิตสินค้าในต่างประเทศและอาจแบกรับปัญหาบางประการของการกีดกันทางการค้าครั้งใหม่ (Reuters)
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนในเดือนต.ค. เนื่องจากการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นรวมทั้งสินค้าประเภทอื่น ๆ บ่งชี้ว่าภาคการผลิตกำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ เฟดเผยว่าการผลิตของโรงงานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนที่แล้วหลังจากเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. เช่นเดียวกัน (Reuters)
ดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับอุปสงค์ขั้นสุดท้ายของสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงใน ต.ค. เพราะต้นทุนสินค้าที่มากขึ้นถูกหักล้างโดยต้นทุนบริการที่ลดลง PPl บวก 0.3% สำหรับช่วง 12 เดือนจนถึง ต.ค. PPl บวก 0.8% บวกมากสุดนับแต่ ธ.ค. 57 จากที่เพิ่มไป 0.7% ใน ก.ย. PPl พื้นฐานบวก 1.6% ในช่วง 12 เดือนถึง ต.ค. บวกมากสุดนับแต่ ก.ย. 57 จากบวก 1.5% ใน ก.ย. (Reuters)
ผู้ผลิตสหรัฐผลักดัน Trump ให้คิดให้หนักเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้าที่เกินไป และเกลี้ยกล่องให้ใช้แนวคิดที่ใกล้เคียงเดิมในการซื้อขายกับจีนและเม็กซิโก เลี่ยงการขึ้นภาษีศุลกากรทวิภาคีและหันมาเน้นเรื่องการเจรจา (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปร่วงวันพุธ กดดันโดยการทำกำไรในหุ้นธนาคาร ขณะที่ Bayer กลุ่มธุรกิจเคมีร่วงเพราะต้องออกหุ้นกู้มากถึง 4 พันล้านยูโรเพื่อระดมทุนครอบครองกิจการมอนซาโต้ ธนาคารอิตาเลียนถูกกระทบจากข้อกังวลเกี่ยวกับระดับทุนและหนี้เสียโดยผลการดำเนินงานแย่กว่าคาดจากการลงประชามติใน 4 ธ.ค. เรื่องแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญของนายกฯ Matteo Renzi (Reuters)
เอเชีย :
การปล่อยสินเชื่อใหม่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2559 (เม.ย.- ก.ย.) การกู้ยืมเงินที่มากเกินไปในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ในยุค 1980 ย้ำเตือนว่าภาคอสังหาริมทรัพย์อาจจะร้อนแรงเกินไป การปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2559 เพิ่มขึ้น 16% YoY มาอยู่ที่ 5.9 ล้านล้านเยน (53.94 พันล้านเหรียญฯ) เกินจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ในการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2532 การปล่อยสินเชื่อใหม่รวมในงวดครึ่งแรกของปี 2559 เพิ่มขึ้น 16% YoY มาอยู่ที่ 23.9 ล้านล้านเยน การปล่อยสินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2556 เมื่อ BOJ เริ่มผ่อนคลายเชิงปริมาณ และเร่งตัวมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางกล่าวในเดือนมกราคมในการนำอัตราดอกเบี้ยติดลบมาใช้ (Reuters)
ค่าเงินหยวนของจีนลดลงไปต่ำสุดรอบ 8 ปี ในวันพุธที่ผ่านมา จากความคาดหวังอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ส่งผลค่าเงินดอลลาร์แข็ง ผลักดันให้จีนมุ่งเน้นไปทำการพัฒนาตลาดที่อยู่ในความสนใจ เงินหยวนลดค่าลง 5.4% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ นับตั้งแต่ผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาในวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงสำหรับการนำเข้าสินค้าของจีน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันอ่อนตัววันพุธเพราะตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นจากการคาดการณ์มากขึ้นว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มมากกว่าความเห็นของรัสเซียเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะกลับมาเจรจากับซาอุฯ เพื่อลดกำลังการผลิตอีกครั้ง US EIA กล่าวว่าสต็อกน้ำมันเพิ่มเป็นสัปดาห์ที่สามและเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรลสัปดาห์ที่แล้ว นักวิเคราะห์คาดจะเพิ่ม 1.5 ล้านบาร์เรล Brent ลบ 32 เซนต์ (-0.7%) ปิดที่ 46.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐลบ 24 เซนต์ (-0.5%) ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำอ่อนตัววันพุธ เพราะดอลลาร์เทียบตะกร้าเงินบวกสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี วิ่งขึ้นต่อตลอดสัปดาห์เพราะผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งหลัง Donald Trump ชนะเลือกตั้ง ราคาทองคำตลาดจรปิดลบ 0.2% ไปอยู่ที่ 1,225.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าปิดลบ 0.05% ไปอยู่ที่ 1,223.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ รวมแล้วร่วงไปกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์นับจากจุดสูงสุดพุธที่แล้วหลังเลือกตั้ง (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094