- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 November 2016 19:41
- Hits: 2247
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ : ระยะสั้นอาจฟื้นตัว แต่ยังถูกกดดันจากเงินทุนไหลออก
เราคาดตลาดยังมีแรงกดดัน จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับขึ้นกดดันให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) และกดดันต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทย ทำให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมทั้งประเทศกลุ่ม TIP (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์) อาจเคลื่อนไหวแย่กว่า (Underperform) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นโลก อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ระดับ 2.20-2.40% เป็นระดับที่ความเร็วของการปรับขึ้นน่าจะเริ่มชะลอตัวลงและเราอาจเห็นตลาดตั้งหลักหรือเริ่มทรงตัว โดยมีปัจจัยการรายงานผลประกอบการของหุ้นจำนวนมากในช่วง 1-2 วันนี้ เป็นตัวหนุน
ปัจจัยที่สำคัญ: MSCI มีการปรับดัชนีในรอบ พ.ย. (รอบก่อนหน้านี้คือ ก.พ. พ.ค. ส.ค.) ซึ่งดัชนี MSCI Thailand Index มีหุ้นเข้า 2 ตัว ได้แก่ BJC และ KCE / สำหรับดัชนี MSCI Thailand Small Cap มีหุ้นถูกนำเข้า 4 ตัว (COM7, MALEE, TKN, TFG) และถูกนำออกจากการคำนวณ 8 ตัว (ASP, BJCHI, CBG, COL, CGD, DNA, ROJNA, KCE) ทั้งนี้พฤติกรรมของหุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกก่อนการประกาศ แต่มักเคลื่อนไหวด้อยลงหลังประกาศ ทั้งนี้ปริมาณซื้อขายหุ้นข้างต้นในวันที่ 30 พ.ย. อาจสูงผิดปกติได้
ปัจจัยติดตามอื่นๆ: จับตาการประมูลพันธบัตรไทย 10 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท พุธนี้ / การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วันพฤหัส / ราคาทองแดงปรับขึ้น 19% ใน 2 สัปดาห์ เป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มอิเล้กทรอนิกส์ / 15 พ.ย. – GDP เยอรมัน / 16 พ.ย. – US Crude Oil Invesntory
แนวรับ/แนวต้าน : 1450,1465 /1475, 1490 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
คำแนะนำทางกลยุทธ์ : ตลาดอ่อนแอกว่าคาด ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวขยับมาอยู่ที่ 1450-1490 การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ไม่เสียเปรียบต้นทุน (ยังขึ้นไม่มาก) มีประเด็นเฉพาะตัว รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และมีฐานการผลิตหรือเติบโตอิงสหรัฐฯ ยังขอเลี่ยงหุ้นกลุ่มบันเทิงเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการ
// หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ ERW, TU/ เก็งกำไร TTA*, BJCHI*
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า: BH, ERW, IRPC, PTT, TU (รายละเอียดในรายงาน)
- หุ้นลงทุนในธุรกิจพลังงานเหมืองแร่: BJCHI*, STPI*, SQ*
- หุ้นที่มีธุรกิจ หรือฐานการผลิตในสหรัฐฯ: IVL, EPG, TU
- หุ้นลุ้น SET ทะลุ 1520: ธนาคาร - KBANK SCB/ พลังงาน - PTTGC PTT PTTEP/ Valuation ถูก – HANA* BCP
- หุ้นโภคภัณฑ์: TTA* PSL* STA* TRUBB* KBS*
- หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*
- หุ้นที่ได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลปลายปี: TU, ROBINS, BCP, AP, BDMS, BH, BCH, DCC, DRT
หุ้นแนะนำ
ERW (6.25) : กำไรไตรมาส 2 และ 3/59 ซึ่งเป็น low season สามารถพลิกมาเป็นกำไรสุทธิได้ในรอบ 5 ปี จาก utilizationrate ที่ 80% เทียบปีก่อนหน้าที่ 72% ส่งสัญญาณถึงธุรกิจที่เป็นโรงแรมเท่านั้น (pure hotel) ฟื้นตัว
TU (24.50) : กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และการเติบโตมีโอกาสดีกว่าคาดจากการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับดีลล่าสุด Red Lobster ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดบริษัทสามารถพลิกให้ธุรกิจกลับมากำไรได้ในปี 2560
TTA* (11) : เก็งกำไร BDI และราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 11.76 บาท / ตัดขาดทุนที่ 9.10 บาท
BJCHI* (7) : เก็งกำไรประเด็นสหรัฐฯ หนุนลงทุนเพิ่มในธุรกิจพลังงาน / ตัดขาดทุนที่ 5.85 บาท
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)
นักกลยุทธ์: กิจพล ไพรไพศาลกิจ Email: [email protected]