- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 November 2016 19:39
- Hits: 2319
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'เงินไหลออก'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังเป็นอีกวันที่ถูกกดดันจากการขายของนักลงทุนต่างประเทศ ที่ยังมียอดขายสุทธิเข้ามาอีก 2,553 ล้านบาท และรวม 4 วันหลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิไปแล้วกว่า 10,973 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มพลังงานมีการอ่อนตัวลงเช่นกันหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มที่ปรับตัวลดลงแรงได้แก่กลุ่มธุรกิจการเกษตร (-5%) กลุ่มขนส่ง (-2.5%) กลุ่มชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์ (-2.4%) กลุ่มพลังงาน (-2.1%) ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 25.30 จุด (-1.7%) ปิดที่ 1,469.23 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายหนาแน่นที่ระดับ 58,165.61 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ยังคงมีแรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ขายสุทธิไปอีก 2.6 พันลบ. และ MTD ขายสุทธิไปกว่า 1.77 หมื่นลบ.
(-) ราคาสินค้า Commodity หลักอย่างราคาน้ำมัน (WTI) วานนี้ ปรับตัวลดลง 0.2%Day มาอยู่ที่ 43.32 US/Barrel ส่วนราคาถ่านหิน (Newcastle) ปรับตัวลดลง 4.1%Day เหลือ 109.85 US/Tons
(+) ประกาศหุ้นเข้า MSCI Thailand รอบ 1 ธ.ค. 59 พบว่าหุ้นเข้าใหม่คือ BJC และ KCE และไม่มีหุ้นที่ถูกถอดออก
(+) ตลาดหุ้น DJIA ยังคงปิดทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 18,689 จุด (+0.11%Day) หลังนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อนโยบาย Trupm ที่จะลดอัตราภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงิน US แข็งค่าขึ้น และมีแรงขายสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำ, น้ำมัน และหุ้น Emerging Market ออกมา
(+) ค่าระวางเรือ(BDI) ทำ New High ในรอบ 15 เดือน โดยวานนี้ +1.9%Day มาอยู่ที่ 1065 จุด (เป็นบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเรือ)
(+/-) คุณศุภชัยฯ ผู้บริหาร TRUE ออกมาปฎิเสธข่าวลือ TRUE ซื้อ DTAC
(+/-) วันนี้คาดที่ประชุมครม. จะพิจารณาการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 69 จังหวัด ในอัตราเพิ่มขึ้น 5-10 บาท คาดเริ่มใช้ 1 ม.ค. 60 (มองบวกต่อ SINGER, CPALL/ และเป็นลบต่อกลุ่มยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์)
(+/-) ประกาศผลประกอบการล่าสุด ได้แก่ RS 3Q59 ขาดทุน 61 ลบ. พลิกจาก 3Q58 ที่เคยกำไร 18 ลบ., AMATA กำไร 3Q59 เหลือ 183 ลบ. ลดลง 60%YoY, PLANB กำไร 3Q59 โต 11%YoY, SAPPE กำไรโต 60%YoY และ BCH กำไรโต 69%YoY
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การทยอยประกาศงบ 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียน (สิ้นสุด 16/11/59)
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, KKP, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP)
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
ประชุมครม.ในวันนี้ ติดตามแผนปฎิบัติการปี 60 และโครงการลงทุนใหม่ 30 โครงการ วงเงินกว่า 6 แสนลบ.
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ GDP 3Q59 ของยูโรโซน (15 พ.ย.), ยอดค้าปลีกสหรัฐ เดือน ต.ค. (15 พ.ย.), GDP 3Q59 ของเยอรมัน และ ZEW Economic Sentiment (15 พ.ย.), อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ต.ค. (Core Inflation rate คาดไว้ที่ 2.2%/17
พ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นรายตัว'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มซึมตัวลง เรายังคงมองว่าตลาดจะปรับตัวลดลงจากเม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ รวมถึงถูกกระทบจากความกังวลในเสถียรภาพของกลุ่ม EU หลังจากที่ Trump ชนะการเลือกตั้ง คงแนะนำเก็งกำไรสั้นในกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจากโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศและปัจจัยเฉพาะตัว สำหรับแนวรับที่แนะนำให้เก็งกำไรการรีบาวด์คือ 1,455 จุด
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CK เก็งกำไร
หลังเซ็นงานเพิ่มโครงการไซยะบุรีแล้วยังเตรียมรับงานต่อจาก BEM ในโครงการเดินรถสายสีน้ำเงิน
ยื่นประมูลสายสีส้มแล้วทั้ง 6 สัญญา
คาดบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย CKP ในช่วง 4Q59
TTA เก็งกำไร
ค่าระวาง BDI Index ปรับบวกขึ้นแข็งแกร่งมาที่ระดับ 1,065 สร้างโมเมนตัมบวกให้กับกลุ่มเดินเรือ
ตลาดคาดรายงาน 3Q59 พลิกกลับเป็นกำไร จากธุรกิจเดินเรือขาดทุนลดลง และธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำได้ปัจจัยฤดูกาลหนุน
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ 0.78 เท่า PBV
ทีมวิเคราะห์