- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 August 2014 16:23
- Hits: 2221
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -317.06, NASDAQ -93.13, S&P -39.40, FTSE -43.33, CAC -66.16 และ DAX -186.20 ภายใต้ความกังวล ทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ (1) การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา (ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มลาตินอเมริกา) หลังไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรวงเงิน 539 ล้านUSD ให้แก่กลุ่มผู้ถือครองพันธบัตรได้ตามกำหนด และส่งผลให้ S&P ประกาศปรับลดความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศของอาร์เจนติน่าลงสู่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" จากระดับ "CCC-/C" (2) อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน – กค. ลดลงแตะ 0.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี สะท้อนกลุ่มประเทศยูโรโซนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด
.....และยังได้รับปัจจัยกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ (1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน เพิ่มขึ้น 23,000 ราย อยู่ที่ 302,000 ราย และ (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก – กค. ลดลงแตะ 52.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่มิย.’56
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทต่างๆ รวมถึงอาดิดาส ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬา
รายใหญ่ของเยอรมนี
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (Nymex) ส่งมอบ กย. -US$2.1 อยู่ที่ US$98.17 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยกดดันข้างต้น เช่นเดียวกับราคาทองคำ ส่งมอบเดือน สค. -US$13.6 อยู่ที่ US$1,281.3 ต่อออนซ์ จากการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังพิจารณาถ้อยแถลงการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
(-/?) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,095 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -27,268 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ปรับลดลง? ภายใต้น้ำหนักจากประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ของอาร์เจนตินา ที่ทำให้ตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวในแดนลบ
.....ขณะที่ประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากจาก Fund Flow หลังล่าสุดต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง อีกเกือบ 1,100 ล้านบาท โดยยังแนะติดตามค่าเงินบาท ที่คาดเป็นสัญญาณหนึ่งแสดง Flow เข้า (เงินบาทแข็งค่า) / ออก (เงินบาทอ่อนค่า) อย่างไรก็ตามคาดในระยะสั้นยังได้รับปัจจัยหนุนจาก (1) การเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q/57 และเงินปันผล - กลาง สค. (2) ความคืบหน้า Road Map ของ คสช. หลังมีการแต่งตั้งสมาชิก สนช. จำนวน 200 คน และจะมีการประชุมครั้งแรกวันที่ 7/8/57 คาดขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการเลือกนายกฯ และครม. เข้ามาบริหารประเทศ โดยคาดอาจเกิดขึ้นภายใน สค. หรืออย่างช้า กย. (กรอบเวลาเดิม) คาดช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนกลับมาระดับหนึ่ง
....และยังแนะนำติดตาม (1) ความคืบหน้างบประมาณปี’58 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 6/8/57 โดยในจำนวนนี้ ประมาณ 450,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนที่ส่วนใหญ่เน้นการจัดการระบบน้ำและงานถนน (2) ความคืบหน้าในโครงการที่พร้อมเปิดประมูล หลังมีความชัดเจนแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางที่ผ่าน EIA ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และ (3) ประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 2.56% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +3.62 อยู่ที่ 16.95
หุ้นแนะนำ : KBANK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (1 สค.’57)
1/8/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - มิย. (2) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร - กค. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต - กค. (4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - กค. (5) ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง - มิย. (6) ดัชนีภาคการผลิต - ก.ค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788