- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 November 2016 17:30
- Hits: 11511
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Fund Flow ไหลออกกดดันสั้น แต่คาดการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศจะช่วยจำกัด Downside Risk แนะ CK, BJC เด่น
Nomura : Key Factors
(+) Japan Econ: GDP3Q16 ของญี่ปุ่น +2.2%q-q จาก +0.7% และดีกว่าคาดที่ +0.8%
(+/-) US Econ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย. ขึ้นสู่ 91.6 จุด มากกว่าคาดที่ 89.5 จุด
(-) Ex Factor: นายสแตนเลย์ ฟิชเชอร์ ยังคงหนุนโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ
(-) OIL: OPEC เผยรายงานเดือน ต.ค. กำลังการผลิตขึ้นสู่ 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.8% สู่ $43.41/bbl / BRT -2.38% สู่ $44.75/bbl
(-) Fund Flow: ต่างชาติขาย 3744 ลบ.,Short Future 23605 สัญญา,ขายBond 26973 ลบ.
(-) Currency: Dollar Index แข็งขึ้นสู่ 99.334 จุด กดดันค่าเงินเอเชียอ่อนค่าเช้านี้
(-) Bond: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ใกล้จุดสูงสุดในรอบปีนี้ ที่ 2.176%
SET PER 16F: CNS 16.02x (EPS 93.25) vs Cons.15.49x (LT-Avg 15.1x)
2017 SET Target: CNS Base-Bull case 1638-1716pts(PER17F 15.75-16.5x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 93.25, PER16.25x)
Nomura Daily Top Picks: CK, BJC
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อจำกัด ในกรอบแนวต้าน 1501/1508 จุด และแนวรับ 1486/1479จุด จากการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 91.6 จุด มากกว่า consensus ที่คาดไว้เพียง 89.5 จุด ถือเป็นการทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 เดือน ยังคงเป็นตัวบ่งชี้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งก็สอดคล้องกับถ้อยแถลงล่าสุดของนาย สแตนเลย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯสามารถขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อที่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ FED คาดหมายไว้ในระยะกลาง หนุนโอกาส FED จะปรับดอกเบี้ยสหรัฐฯขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงถัดไป โดยหากกลับมาพิจารณา Fed Fund Future Rate ล่าสุดจาก Bloomberg ก็พบว่า โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐในการประชุมเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ 84% จาก 80% เช่นเดียวกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่ดีดตัวขึ้นสู่ +2.176% (+2.6bps) และ Dollar Index ที่แข็งค่าสุดในรอบ 10 เดือน สู่ระดับ 99.334 จุด โดยรวมอาจเป็นปัจจัยที่กดดันต่อ Fund Flow มีโอกาสไหลออกจากตลาด Asia EM ในระยะสั้นได้ อีกทั้งปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากความผันผวนของสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลก หลัง OPEC มีการรายงานประจำเดือน ตุลาคม พบว่ากำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกราว 2.4 แสนบาร์เรล สู่ระดับ 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งจิตวิทยาเชิงลบต่อราคาน้ำมันดิบโลกในระยะสั้น โดยวันศุกร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดปรับตัวลดลง -2.38% สู่ระดับ 44.75 จุด แต่อย่างไรก็ดี เรายังคงแนะติดตามการประชุม OPEC อย่างเป็นทางการ 30 พย. นี้ ที่มีประเด็นสำคัญคือการหารือปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มลง โดยจากการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในรอบก่อน พบว่าทางกลุ่มมีความพยายามเบื้องต้นที่จะลดกำลังการผลิตลงสู่ระดับ 32.5-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งหากการประชุมในรอบนี้สามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ จะถือเป็น Upside Risk ที่สำคัญของตลาดสินทรัพย์เสียงในช่วงถัดไป ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการ 3Q16 ซึ่งน่าจะยังคงเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่คาดจะรายงานกำไรออกมาโดดเด่น ผสานความคาดหวังเชิงบวกต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็น Key สำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไป และแรงเก็งกำไรก่อนการรายงานตัวเลข 3Q16GDP ไทย 21 พ.ย.นี้ ซึ่ง สศค. ส่งสัญญาณ GDP ของไทยจะขยายตัว 3.3-3.5% (Nomura คาดที่ 3.1%) คาดเป็นปัจจัยที่จำกัด Downside ของตลาด
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Short-Term Strategy : เน้นกลุ่มที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ผ่านความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จะทยอยออกมาต่อเนื่อง (CK, STEC, PYLON, SCC, BEM) ผสานกลุ่มคาดจะได้รับการคัดเลื่อกเข้าคำนวนดัชนีรอบใหม่ นำโดย 1) MSCI ประกาศ 15 พ.ย. นี้ (BJC) 2) SET50 คาด GL, THAI, GLOBAL, JAS, SPRC, KKP, PTG เข้าคำนวนรอบใหม่ 3) SET100 คาด JAS, SPRC, SUPER, VIBHA, TKN, GFPT, BIG, THANI เข้าคำนวนรอบใหม่ ส่วนกลุ่มที่อาจเริ่มเห็นแรงเก็งกำไรเพิ่มเติม เช่น กลุ่มเดินเรือ (TTA, PSL) หลังทิศทางของ BDI Index เริ่มฟื้นตัวขึ้นเด่น (วันศุกร์ +7.3%) ส่วนนักลงทุนระยะกลางเน้น Portfolio Top picks NOV 2016 แนะนำ PTTEP, BJC, CK, STPI, PSTC, NYT สำหรับวันนี้แนะนำ *Daily Top Pick: BJC, CK*
*** แนะนำ Take Profit : DCC, TOP, GFPT, SALEE, GUNKUL ใน Stock monitors หน้า3 หลังให้ผลตอบแทนตั้งแต่แนะนำ +13.5% +19.7%, +30.1%, +29.6%, 13.7% ตามลำดับ
Mid-Long Term Strategy : คาดแนวโน้มตลาดเดือน พ.ย. 2016 มีโอกาสฟื้นตัว 2-3สัปดาห์ ก่อนย่อจากแรงขายทำกำไรเล่นรอบ ที่แนวต้าน 1520/1537จุด และมีแนวรับ 1480/1467จุด โดยคาดหุ้นปิโตรเลียมขั้นต้น (PTTEP, PTT) นำตลาด ผสานหุ้น Theme เด่น 1) Bottom Out (STPI, NYT, MONO, WORK, INTUCH, ADVANC, BRR) 2) Contractor เด่นรับวงจรการประมูลงานภาครัฐฯรอบใหม่ (CK, STEC, PYLON, BEM) 3) BANK Deep Valuation (BBL, TCAP, TMB) 4) Earning 2H16 Play ในกลุ่ม Mid-Small Caps แนะนำ Commerce (MC), Health (BDMS, BCH, VIBHA), Food (CPF, GFPT), Tourism (SPA, ERW) และ 5) กลุ่มพลังงานทางเลือกยื่นซองประมูลขยะชุมชน พ.ย.นี้ (PSTC, TPCH) สำหรับ Portfolio Top picks NOV16 แนะ PTTEP, BJC, CK, STPI, PSTC, NYT ส่วน DARK Horse BRR, KAMART, MC
Investment Theme:
. 2016 AEC Connectivity :
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
. 4Q16 Top Picks
Still Overweight Hedging Inflation: AP, BCH, BDMS, BJC, BRR, CPF, GLOBAL,
PTT, PTTEP, TCAP
. Consumer Spending Recovery : SALEE, MC
. Sustainable Growth : NYT
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CK (TP38.5*): Support 30.0/29.0 Resistance 32.0/34.0
Theme: Infrastructure spending
Earning Outlook : คาดกำไร 2H16F แม้จะลดลง HoH จากฐานที่สูง แต่ยังอยู่ในระดับที่ดี หนุนกำไรปี 2016 +223% yoy
Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย ณ P/B 2.5 เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ ขณะที่ ธุรกิจมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ รวมถึง ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เป็นรายใหญ่ อยู่ในจุดที่มีอำนาจต่อรองและโอกาสชนะประมูลสูง จากงานประมูลที่จะมีมากขึ้นนับจากนี้
Catalyst : การประมูลงานภาครัฐที่จะทยอยเกิดขึ้นต่อเนื่องนับจากนี้ มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท + 17 พ.ย. เปิดซองเทคนิค รถไฟฟ้าเหลือง + ชมพู
BJC (TP55.0*): Support 51.0/50.0 Resistance 53.75/55.0
Theme : Event Play + Turnaround
Earning Outlook : คาดกำไร 4Q16F โดดเด่นต่อเนื่อง และมาจากการดำเนินงานแท้จริง จากกำไร BIGC และ BJC เป็นจุดสูงสุด ขณะที่ ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงหลังเพิ่มทุนเสร็จกลางส.ค. และคาดกำไรยังโดดเด่นเพิ่มกว่าเท่าตัวในปี 2017 สูงสุดในกลุ่มค้าปลีก
Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย ณ PER ปี 2017 ราว 30 เท่า ใกล้เคียงกลุ่มฯ แต่ BJC จะกลับสู่เฟสการเติบโตของธุรกิจอีกครั้งหลังซื้อ BIGC โดยเฉพาะช่วง 3 ปีนี้ที่จะโดดเด่นกว่ากลุ่มมาก
Catalyst : มีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี MSCI (ประกาศ 15 พ.ย.)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)
