- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 November 2016 17:23
- Hits: 11042
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เราคาดตลาดระยะสั้นแกว่งตัว หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นแรงในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา ทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) และกดดันต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทย ทั้งนี้เมื่อประกอบกับการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมทั้งประเทศกลุ่ม TIP (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์) อาจเคลื่อนไหวแย่กว่า (Underperform) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นโลก ในช่วงนี้
แม้ทรัมป์จะมีนโยบายการเมืองบางข้อสุดโต่ง แต่เราเชื่อว่าหลังการรับตำแหน่ง ทรัมป์จะมีการดำเนินนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งสัญญาณเบื้องต้น ได้แก่ ท่าทีต่อนโยบายแบนชาวมุสลิมที่หายไปจากเวปไซต์หาเสียง หรือท่าทีต่อการยกเลิกนโยบายประกันสุขภาพ (Obamacare) ที่อาจเพียงแก้ไขบางส่วน นอกจากนี้การดำเนินนโยบายต่างๆ ต้องได้รับเสียงสนับสนุจากทั้งสภาผู้แทนและวุฒิสภา ดังนั้นเราเชื่อว่าในระยะกลาง-ยาว โอกาสเกิดมาตรการแบบสุดโต่งที่ไม่เป็นมิตรกับตลาด น่าจะมีไม่มากนัก ทั้งนี้ตลาดอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ
สำหรับปัจจัยอื่นๆ: ทีวีดิจิตอลกลับมาออกอากาศเกือบปกติ / จับตาการประมูลพันธบัตรไทย 10 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท พุธนี้ / การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วันพฤหัส
แนวรับ/แนวต้าน : 1485/1500-1505 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
คำแนะนำทางกลยุทธ์ : ยังไม่เป็นลบต่อบรรยากาศการเทรด เพียงแต่การที่ตลาดอ่อนแอกว่าคาดและปรัลดลงต่ำกว่า 1505 จุด ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวขยับมาอยู่ที่ 1485-1500 การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่มีประเด็นเฉพาะตัว รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และมีฐานการผลิตหรือเติบโตอิงสหรัฐฯ ยังขอเลี่ยงหุ้นกลุ่มบันเทิงเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการ
// หุ้น top pick เชิงกลยุทธ์ BLA*, TU, ACAP* / เก็งกำไร TTA*, BJCHI*
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
- หุ้นลงทุนในธุรกิจพลังงานเหมืองแร่: BJCHI*, STPI*, SQ*
- หุ้นที่มีธุรกิจ หรือฐานการผลิตในสหรัฐฯ: IVL, EPG, TU
- หุ้นกลุ่มเช่าซื้อและบริโภคเป็นบวก: S11*, TK*, TCAP*, TISCO*, DRT, ROBINS, CPALL
- หุ้นลุ้น SET ทะลุ 1520: ธนาคาร - KBANK SCB/ พลังงาน - PTTGC PTT PTTEP/ Valuation ถูก – HANA* BCP
- หุ้นโภคภัณฑ์: TTA* PSL* STA* TRUBB* KBS*
- หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*
- หุ้นที่ได้รับแรงหนุนจากฤดูกาลปลายปี: TU, ROBINS, BCP, AP, BDMS, BH, BCH, DCC
หุ้นแนะนำ
BLA* (60) : คาดหุ้นผ่านจุดต่ำสุดที่เกิดจากการตั้งสำรองผลตอบแทนแล้ว ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนในอนาคตมีแนวโน้มดีขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจน
TU (24.50) : กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และการเติบโตมีโอกาสดีกว่าคาดจากการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับดีลล่าสุด Red Lobster ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดบริษัทสามารถพลิกให้ธุรกิจกลับมากำไรได้ในปี 2560
ACAP* (14) : มีรายได้หลักจากการปล่อยกู้ (ขายฝาก) ทั้งนี้พอร์ตสินเชื่อเติบโตเกินเป้าหมาย 2 พันล้านบาท สู่ 3 พันล้านบาท และคาด 3.5 พันล้านบาท ณ สิ้นปี ทำให้คาดกำไรยังเดินหน้าเป็นขาขึ้นทุกไตรมาส
TTA (11) : เก็งกำไร BDI และราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 11.76 บาท / ตัดขาดทุนที่ 9.10 บาท
BJCHI* (7) : เก็งกำไรประเด็นสหรัฐฯ หนุนลงทุนเพิ่มในธุรกิจพลังงาน / ตัดขาดทุนที่ 5.85 บาท
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH/หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)
นักกลยุทธ์: กิจพล ไพรไพศาลกิจ Email: [email protected]