- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 November 2016 17:39
- Hits: 1671
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ดีดกลับหลังเลือกตั้งสิ้นสุด'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นรอบบ้าน หลังจากสิ้นสุดการเลือกตั้งประธานาธบดีของสรัฐฯไป แม้ว่าผู้ที่ชนะการเลือกตั้งอาจจะมีนโยบายบางส่วนที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มีความกังวล แต่ด้วยหนึ่งในนโยบายที่ไม่อยากขึ้นดอกเบี้ยจึงเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นให้กับตลาดหุ้นทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาได้ โดยกลุ่มที่หนุนตลาดวานนี้ได้แก่กลุ่มธุรกิจการเกษตร (+1.9%) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่มีปัจจัยบวกจากการที่รองนายกเปิดเผยว่าปี 60 จะมีงานประมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐออกมาอย่างมาก (+1.1%) ส่วนกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ บวกกลุ่มละ 0.8% ปิดตลาดดัชนีตัวเพิ่มขึ้น 4.83 จุด (+0.3%) ปิดที่ 1,514.26 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายหนาแน่นที่ระดับ 77,437.05 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้น 218.19 จุด +1.17%Day โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มการเงินขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยคาดว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะเดินหน้าผ่อนคลายกฎข้อบังคับของภาคธนาคารและกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค
(+) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 11,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 254,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 260,000 ราย
(-) น้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 1.4%Day มาอยู่ที่ 44.66 US/Barrel หลัง IEA เปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับที่สูงขึ้นในเดือนพ.ย.
(+/-) ราคาถ่านหิน (Newcastle) ปิดทรงตัวเท่าเมื่อวาน ที่ 111.4 US/Tons (0%Day,+4.6%WoW,+118.9%YTD)
(+) ราคายาง (TOCOM) ปิดที่ 194.7 เยนต่อกิโล สูงสุดในรอบ 7 เดือน เป็นบวกกับ STA, TRUBB
(+) สภาธุรกิจตลาดทุนไทยชี้ดัชนีเชื่อมั่น ต่างชาติเดือนพ.ย.พุ่ง 42% จากการเมืองในประเทศมีความชัดเจนเดินได้ตามแผน
(-) แบงก์ชาติเผย "หนี้เสีย" ยังโตต่อเนื่อง 3Q59 แตะ 2.89% สูงสุดรอบ 5 ปี จาก SME และพาณิชย์ ส่วน NPL บัตรเครดิตพุ่งสูงสุดรอบ 11 ปี และคาดจะยังปรับเพิ่มจนถึง 1Q60 มองเป็นลบต่อกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่
(+) ลุ้นรัฐบาลบราซิลถอนฟ้องไทยต่อ WTO ให้พ้นคดี 'อุดหนุนน้ำตาล' เป็นบวกกับกลุ่มน้ำตาล KSL, KBS, BRR
(+/-) ประกาศผลประกอบการล่าสุด ได้แก่ BANPU 3Q59 พลิกกลับมากำไร 70 ลบ. จากขาดทุนปีก่อน 72 ลบ(ต่ำกว่าที่เราคาด), IVL +565%YoY, SCC +57%YoY, WORK +35%YoY, CPALL +26%YoY (ตามที่เราคาด), BA +14%YoY, JAS กำไร +10%YoY (ต่ำกว่าที่เราคาด), TRUE พลิกเป็นขาดทุน 2,754 ลบ. จากกำไรปีก่อน 1,051 ลบ.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศงบ 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 16 พ.ย.
ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า แถลงแผนโครงสร้างพื้นฐาน 6 แสนลบ.
การประกาศปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือน วันที่ 15 พ.ย.
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์หน้า GDP ใน 3Q59 ของญี่ปุ่น, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน, อัตราเงินเฟ้อของอียูและอังกฤษ, ยอดค้า ปลีกและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน'เน้น Soft commodity'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มทรงตัวกรอบแคบ เรามองว่าระยะสั้นจะยังไม่มีปัจจัยโดดเด่น เราคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้น แต่ในระยะกลางยังคงมองบวกต่อแนวโน้มแรงคาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่ปัจจัยบวกเฉพาะเด่น โดยเราชืนชอบกลุ่ม Soft Commodity ทั้งราคายางที่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำตาลที่ทรงตัวในระดับสูง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
KSL เก็งกำไร
ลุ้นรัฐบาลบราซิลถอนฟ้องไทยต่อ WTO ให้พ้นคดี 'อุดหนุนน้ำตาล'
ราคาน้ำตาลอยู่ที่ระดับ 21.59 Cent/Pound ทรงตัวในระดับสูง
เตรียมนำบริษัทลูกขอนแก่นแอลกอฮอลล์ KKA เข้าจดทะเบียนในช่วง 1H60
STA เก็งกำไร
ราคายาง (TOCOM) ปิดที่ 194.7 เยนต่อกิโล สูงสุดในรอบ 7 เดือน
ตลาดคาดอุปสงค์ยางรถยนต์โตเฉลี่ยปีละ 8.4% ปี 59-64
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ 0.94 เท่า PBV และ PER 21 เท่า
ทีมวิเคราะห์