WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาด
  ปรับเพิ่มขึ้น? เราคาดว่า Set Index จะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากมีความชัดเจนมากขึ้นว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐจะออกมาว่า นางฮิลลารี จะชนะการเลือกตั้งโดยพรรค Democrat จะชนะในสภาสูง และ พรรค Republican จะชนะในสภาล่าง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากเท่ากรณีของพรรค Democrat ชนะทั้งสภาสูงและสภาล่าง อย่างไรก็ตามเราอยากจะให้ระมัดระวังเรื่อง Sell on Fact ในช่วงบ่ายของวันนี้หลังจากที่ทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐแล้ว
  

ติดตามการรายงานผลการเลือกตั้งสหรัฐได้ที่
  http://www.politico.com/2016-election/results/map/president
  http://www.bloomberg.com/graphics/2016-election-results/
  นอกจากนี้เรายังแนะให้ติดตามสัญญาณของเฟด ซึ่งพร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะเป็นประเด็นที่อยู่ในความคาดหมาย แต่คาดยังเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนและกดดันตลาดฯ หลังจากนี้จนถึงวันประชุม(13 – 14/12/59) และภายหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย มี 3 ประเด็นที่ต้องติดตาม (1) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงราคาน้ำมันดิบมีโอกาสลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น (2) Fund Flow ที่คาดยังมีโอกาสไหลออกหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมลดลงเหลือ ประมาณ 108,000 ล้านบาท และ (3) ค่าเงินบาทที่คาดมีทิศทางอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามคาดเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มส่งออก
  ทางด้านราคาน้ำมัน ปรับลดลงต่อเนื่องในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 43 USD/bbl โดยคาดถูกกดดันจากความไม่เชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะสามารถตกลงกันได้ ในการจำกัดการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน โดยโอเปกจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. ที่ประเทศ ออสเตรีย
  ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ สำหรับวันนี้มีการประชุม กนง คาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% นอกจากนี้ ยังโครงการ MEGA Project ของรัฐบาลที่ทยอยประมูลช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง ที่ยื่นซองประมูลไปเมื่อวานนี้ เปิดซองวันที่ 17 พ.ย. นี้ และใช้เวลา 3 เดือนในการประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล , โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยื่นซอง 31 ต.ค. ที่มาผ่านมา เปิดซองวันที่ 6 ม.ค.60 , โครงการรถไฟทางคู่ประจวบฯ-ชุมพร ประมูลวันที่ 3 ก.พ.60 , รถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน เคาะราคาวันที่ 10 ก.พ.60 , รถไฟทางคู่มากะเบา-จิระ , รถไฟฟ้าทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ และ รถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบ นอกจากนั่นยังมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศจนถึงกลางเดือนนี้ 

SET SET50 SET100
1,509.84 +7.57 945.39 +7.06 2,129.56 +14.06

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +73.14, NASDAQ +27.32, S&P +8.04, FTSE +36.23, CAC +15.68 และ DAX +25.37
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่านางฮิลลารีจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งสหรัฐ โดยผลโพลสุดท้ายของ Reuters ระบุว่า นางฮิลลารี มีโอกาสถึง 90% ที่จะชนะทรัมป์ ขณะที่ผลโพลสุดท้ายของ RealClearPolitic ระบุว่า นางฮิลลารี มีคะแนนนิยมนำทรัมป์อยู่ 3 จุด 
  ในขณะที่ตลาดหุ้นทางฝั่งยูโรปก็เคลื่อนไหวในแดนบวกจากประเด็นความชัดเจนการเลือกตั้งสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$0.09 อยู่ที่ US$44.98 ต่อบาร์เรล จากรายงานของบริษัทท่อส่งน้ำมันของสหรัฐที่เมืองคูชิง รัฐโกลาโฮมาซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งน้ำมันสหรัฐ เริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวไปเมื่อวาน ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปทานในสหรัฐ
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. US$-4.9 หรือ 0.38% อยู่ที่ US$1,274.50 ต่อออนซ์ จากประเด็นการเลือกตั้งสหรัฐ โดยนักลงทุนหาดนางฮิลลารีชนะจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ
  (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –722.69 ล้านบาท สะสม YTD  +107,732 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
20.51 1.92 3.11

ที่มา: www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 64,904.61
สถาบัน 1,359.77
บัญชีหลักทรัพย์ 215.74
ต่างประเทศ -130.26
ในประเทศ -1,445.25

ประเด็นที่ต้องติดตาม 7-11 พ.ย. 2559       
  8/11/59 ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
  9/11/59 
   ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
   ตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือน ก.ย.
   EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

10/11/1959
   จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

11/11/1959
   ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงช่วงต้นเดือน พ.ย.
  และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
  (2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
  (3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
  (4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
  (5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
  (6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท 
  (7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV และ BA

  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี  -0.0018 อยู่ที่ 1.8565% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) 
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.03 อยู่ที่ 18.74
  หุ้นแนะนำ : MTLS
นักวิเคราะห์ : ประวิทย์  เจียวก๊ก   โทร .02-684-8797 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!