- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 November 2016 15:54
- Hits: 1326
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
จุดสนใจทั้งหมดอยู่ที่เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐจากการที่ Hillary Clinton กลับมามีโอกาสชนะการเลือกตั้งเหนือกว่าคู่แข่งหลังจาก FBI ไม่ดำเนินคดีเธอเรื่องการใช้อีเมลส่วนตัวในการทำงาน สินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งน้ำมันกลับมาเดินหน้า ในขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงต่ำที่ราคาแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงถ้วนหน้า ภายในประเทศ มีเพียงสองกลุ่มผู้รับเหมาและผู้ดำเนินกิจการเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น BEM และ BTS ที่เสนอประมูลโครงการระบบรางสายสีชมพูและสีเหลือง ผู้ชนะประมูลจะได้ธุรกิจก่อสร้างขนาดใหญ่หล่อเลี้ยงไปได้อย่างน้อย 5 ปี และรายรับจากการเดินรถไปหลายปี รัฐบาลออกมาตรการช่วยชาวนาอีก 1.8 หมื่นล้านบาท ทำให้งบช่วยชาวนาปีการผลิต 59/60 พุ่งขึ้นใกล้ 2 แสนล้านแล้ว การบริโภคภาคครัวเรือนท่าจะดีมากทีเดียว
หุ้นเด่นวันนี้ : TRC (ราคาปิด 1.54 บาท, NR, IAA TP 1.88 บาท)
บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างอุปกรณ์การผลิตและท่อน้ำมันและก๊าซ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและความต้องการในตลาดลดต่ำลง แต่การที่ TRC หันเข้าสู่ธุรกิจการก่อสร้างเหมืองโปแตชจะส่งผลดีอย่างมากต่อบริษัทในระยะยาว TRC ถือหุ้น 26% ใน บมจ.อาเซียนโปแตชชัยภูมิ (APOT) ซึ่งมี กท.การคลัง ถือหุ้น 16.50% และมีนักลงทุนในและต่างประเทศร่วมถือหุ้น APOT ได้รับสัมปทาน 25 ปีสำหรับการทำเหมืองแร่โปแตชใน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2558 ในปัจจุบัน TRC และ APOT กำลังเจรจาข้อตกลงการจัดหาเงินทุน(Financial close) สำหรับโครงการนี้กับธนาคารไทยและต่างประเทศ หลังจากนั้น APOT จะแต่งตั้ง TRC เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลักอย่างเป็นทางการ สำหรับโครงการที่มีมูลค่าสูงถึง 34,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ TRC มี Backlog ขนาดใหญ่เข้ามาและมีความมั่นคงในการสร้างรายได้ไปอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งในแต่ละปีรายได้ของ TRC อยู่ในระดับ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่บริษัทคู่แข่งอื่นของ TRC ต้องเผชิญความความต้องการตกต่ำในธุรกิจน้ำมันและก๊าซทั่วโลก อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจคาดว่าอยู่ในระดับต่ำกว่า 8% แต่เราคาดว่าการก่อสร้างเหมืองแร่โปแตชของ TRC จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับ 10% -15% ซึ่ง lAA Consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 1.88 บาท มี Upside ราว 22% Price Pattern ของ TRC มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แต่ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลงจากการเกิด Monthly Sell Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TRC จากความแข็งแกร่งทั้ง Daily & Weekly Buy Signal มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 1.65 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 1.78 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ TRC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 1.50 บาท (Resistance: 1.56, 1.59, 1.61; Support: 1.52, 1.50, 1.47)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เห็นชอบนโยบายให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือชาวนาข้าวเพิ่มเติมวงเงิน 1.8 หมื่นลบ. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมติอนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ก่อนจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันนี้ โดยข้าวเปลือกเจ้านั้นเกษตรกรจะได้รับเงินทั้งหมด 10,500 บาทต่อตัน แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อ 7,000 บาทต่อตัน ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน ขณะที่ข้าวปทุมธานี เกษตรกรจะได้รับเงินทั้งสิ้น 11,300 บาทต่อตัน แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อ 7,800 บาทต่อตัน ค่าเก็บเกี่ยว และปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน (Bangkok Post)
ตรึงราคา LPG ไปอีก 10 เดือน คณะกรรมการนโยบายพลังงานอนุมัติให้อุดหนุนต้นทุนของผู้ใช้ หมายถึงราคา LPG จะตรึงอยู่ที่ 20.29 บาทไปอีก 10 เดือน มาตรการนี้มุ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้บริโภคท่านกลางเศรษฐกิจประเทศที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง (Bangkok Post)
การเสนอราคารถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง: เมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการยื่นประมูลเสนอราคาก่อสร้างและการเดินรถสำหรับรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและสายสีเหลือง ซึ่งมีเพียงสองกลุ่มของผู้ประกอบการที่มายื่นซอง กลุ่มแรก ได้แก่ CK และ BEM และกลุ่มที่สอง ได้แก่ STEC, BTS และ RATCH (อินโฟเควสท์) ความเห็น: ผู้ประกอบการในประเทศสองกลุ่มหลัก คือ BEM และ BTS จะได้รับประโยชน์ในการเพิ่ม Backlog และและสร้างรายได้ที่มั่นคงไปได้อีกราว 5 ปี ตลอดระยะเวลาก่อสร้าง
TU (Bt22.10; BUY; AWS TP Bt25.00) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 เท่ากับ 1,594 ล้านบาท ลดลง 1.9%YoY เพิ่มขึ้น 4.4% QoQ ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 7.7% YoY สู่ระดับ 35,128 ล้านบาท (คิดในรูปเงินสกุลดอลลาร์เท่ากับ 1 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 3.3%) แสดงว่าได้รับอานิสสงค์บาทที่อ่อนตัวเป็นตัวช่วย ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงอย่างมีนัยยะ จาก 17.28% ในไตรมาส 3/58 เป็น 14.06% ในไตรมาส 3/59 อัตรากำไรสุทธิไตรมาส 3/59 เท่ากับ 4.5% เทียบกับ 5.0% ในไตรมาส 3/58 และ 4.4% ในไตรมาส 2/59 (SET) ความเห็น: ผลประกอบการออกมาสอดคล้องกับ consensus คาดการณ์ เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท อิงค่า PER ปี 2560 ที่ 20 เท่า
ต่างประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ จากความต้องการลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์เสี่ยง หลังจาก FBl ระบุว่านางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตไม่มีความผิดทางคดีอาญาเกี่ยวกับการใช้อีเมลส่วนตัวในเรื่องงาน ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ลดลง 10/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.820% เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 1.783% เมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อวันจันทร์ หลังจาก FBl ตัดสินว่านางฮิลลารีไม่มีความผิดทางอาญา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.75% เทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ หลักจากที่ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันจันทร์ ด้วยแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นว่านางฮิลลารี คลินตันอาจได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากที่ FBl ระบุว่า นางฮิลลารีไม่มีความผิดทางคดีอาญาในกรณีการใช้อีเมลส่วนตัวในงานราชการ (Reuters)
ความกังวลของตลาดได้ผ่อนคลายลงโดยดัชนีความกลัวของนักลงทุนในตลาดร่วงลงหนักสุดนับแต่เดือนมิ.ย. เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนี CBOE Volatility lndex (VlX) หรือเป็นที่เรียกกันในตลาดวอลล์สตรีทว่าเป็นมาตรวัดความกลัวของนักลงทุนในตลาด ลดลง 17% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบวันนับแต่วันที่ 28 มิ.ย. หลังจากที่อังกฤษทำประชามติเพื่อออกจากสหภาพยุโรป (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวสูงขึ้น หลังจาก FBl ยืนยันว่า นาง Hillary Clinton ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค Democrat ไม่มีความผิดทางคดีอาญาในคดีการใช้อีเมล์ส่วนตัว ทั้งนี้หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นนำตลาด (Reuters)
รัฐบาลอังกฤษกำลังเตรียมกฎหมายสำหรับกระบวนการที่จะออกจาก EU ซึ่งนาง Theresa May นายกฯ อังกฤษเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของศาลที่ก่อนหน้านี้มีคำชี้แจงออกมาว่าทางรัฐบาลจะต้องขอความเห็นชอบจากสภาเพื่อใช้มาตรา 50 ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ Brexit (Reuters)
เอเชีย :
ทุนสำรองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นลดลงอยู่ที่ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนต.ค. จากที่ระดับ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนก.ย. โดยที่ทางการญี่ปุ่นไม่ได้ดำเนินการเข้าแทรกแซงค่าเงินระหว่างวันที่ 29 ก.ย.- 27 ต.ค. (Reuters)
ทางการจีนผ่านกฏหมายคุมฮ่องกงในวันจันทร์ ซึ่งจะกีดกันนักการเมืองฮ่องกงที่สนับสนุนการแยกเป็นอิสระออกไป เป็นการแทรกแซงระบบกฎหมายและการเมืองของฮ่องกงโดยตรงครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่ปี 40 การออกกฎหมายนี้ทำให้เกิดการประท้วงขึ้นในฮ่องกงในวันอาทิตย์และมีคำเตือนให้ระวังจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก (Reuters)
เงินทุนสำรองต่างประเทศของจีนเดือนต.ค. ลดลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน และมากกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้านี้สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากจีนมากขึ้น แม้ว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจล่าสุดจะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพ โดยเงินทุนสำรองต่างประเทศลดลง 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เหลือ 3.121 ล้านล้านดอลลาร์ฯ เทียบกับการลดลง 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ก่อนหน้า (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันล่วงหน้าบวกวันจันทร์ หนุนโดยสินทรัพย์ประเภทอื่นดีดกลับขึ้นมาหลังข่าวฮิลลารี คลินตัน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐไม่เจอคดีการใช้อีเมล์ แต่การเป็นบวกยังจำกัดโดย ข้อกังขาว่า OPEC จะลดกำลังการผลิตได้หรือไม่ Brent บวก 10 เซนต์ (0.2%) ปิดที่ 45.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 29 เซนต์ (0.7%) ปิดที่ 44.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำร่วงวันจันทร์ เพราะดอลลาร์และหุ้นวิ่งขึ้นจากข่าวฮิลลารี คลินตัน ไม่เจอคดีการใช้อีเมล์ส่วนตัว ราคาทองคำตลาดจรปิดลง 1.5% ไปอยู่ที่ 1,283.81 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. บวก 1.5% ไปอยู่ที่ 1,284.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094
