- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 November 2016 16:22
- Hits: 10438
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ยังมีแนวโน้มผันผวน? แต่ยังมีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก ขณะที่คาดอยู่ระหว่างรอผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ (8/11/59) หลังมีความ
ไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ จากผลสำรวจล่าสุดคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาใกล้เคียงนางฮิลลารี คลินตัน คาดอาจส่ง ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ทำให้ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง?
และยังคงติดตามสัญญาณของเฟด ซึ่งพร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะเป็นประเด็นที่อยู่ในความคาดหมาย แต่คาดยังเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนและกดดันตลาดฯ หลังจากนี้จนถึงวันประชุม (13 – 14/12/59)
และภายหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย แนะติดตาม (1) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงราคาน้ำมันดิบ มีโอกาสลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัวลง (2) Fund Flow ที่คาดยังมีโอกาสไหลออก หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมลดลงเหลือ ประมาณ 108,000 ล้านบาท และ (3) ค่าเงินบาท ที่คาดมีทิศทางอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามคาดเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มส่งออก
ทางด้านราคาน้ำมัน ปรับลดลงต่อเนื่องในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 43 USD/bbl โดยคาดถูกกดดันจากความไม่เชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะสามารถตกลงกันได้ ในการจำกัดการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน โดยโอเปกจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. ที่ประเทศ ออสเตรีย
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังมีแรงเก็งกำไรตัวเลขผลประกอบการ Q3/59 ที่จะทยอยประกาศออกมา จนถึงกลางเดือนหน้า พร้อมยังแนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
SET SET50 SET100
1,485.70 -7.38 926.47 -5.89 2,088.70 -12.35
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -42.39, NASDAQ -12.04, S&P -3.48, FTSE -97.25, CAC -34.22 และ DAX -66.75
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งยังมีความไม่แน่นอน หลังสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดีดังกล่าวไปเมื่อเดือน ก.ค.ก็ตาม ซึ่งส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 8/11/59
ในขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผย 1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 161,000 ตำแหน่ง ในเดือน ต.ค. แย่กว่าคาด และ 2) ยอดขาดดุลการค้าระหว่างประเทศเดือน ก.ย. ลดลงเกินคาด
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป อ่อนตัวลงเช่นกัน โดยได้รับแรงกดดันจากการลดลงของหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตยา หลังจากมีสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ เรียกร้องให้เปิดเผยการสอบสวนเกี่ยวกับการกำหนดราคา
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$0.59 อยู่ที่ US$44.07 ต่อบาร์เรล โดยได้รับปัจจัยลบ จากความเห็นที่ไม่ตรงกันของสมาชิกในกลุ่มโอเปก คืออหร่านกับซาอุดิอาระเบีย อาจจะส่งผลให้ข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตไม่สามารถใช้ได้ในทางปฏิบัติ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.83 1.89 3.16
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 50,836.97
สถาบัน -999.4
บัญชีหลักทรัพย์ 380.25
ต่างประเทศ -1,434.98
ในประเทศ 2,054.13
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$1.2 อยู่ที่ US$1,304.5 ต่อออนซ์ ยังคงได้รับแรงหนุนจากภายใต้ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ และตลาดหุ้นที่ปรับลดลง กระตุ้นให้เข้าลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –1,435 ล้านบาท สะสม YTD +108,586 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 7-11 พ.ย. 2559
7/11/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
Conference board เปิดเผยดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือน ต.ต.
8/11/59 ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
9/11/59
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือน ก.ย.
EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
10/11/1959
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
11/11/1959
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงช่วงต้นเดือน พ.ย.
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV และ BA
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 1.78% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.43 อยู่ที่ 22.51
หุ้นแนะนำ : TOP
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ โทร .02-684-8789