- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 November 2016 16:16
- Hits: 4909
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
Clinton รอดคดีอีเมล์
คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เปิดมาเช้านี้เป็นบวก หลังจาก FBI ยืนยันว่า นาง Hillary Clinton ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรค Democrat ไม่มีความผิดทางคดีอาญาในกรณีการใช้อีเมล์ส่วนตัว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นและคะแนนเสียงกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตลาดส่วนหนึ่งได้มองว่าคะแนนเสียงของ Donald Trump ที่มากขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้มาจากเพียงแค่คดีการใช้อีเมล์ส่วนของนาง Hillary เท่านั้น ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องล่าสุดยังเป็นปัจจัยกดดันให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยได้ในเดือน ธ.ค. นี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศที่เป็นบวกจะช่วยหนุนหุ้นไทยส่วนหนึ่ง นำโดยตัวเลขรายได้ภาคการท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีต่อเนื่องอีกครั้งในงวดไตรมาส 3/59 ขณะที่รัฐบาลเตรียมพร้อมงบลงทุนสูงถึง 9.88 หมื่นลบ. สำหรับการลงทุนพัฒนาภาคคมนาคมต่างๆ ของประเทศช่วงปีหน้า
หุ้นเด่นวันนี้ : BCP (ราคาปิด 31.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 40.50 บาท)
บมจ. บางจากปิโตรเลียม เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ด้วยแนวโน้มธุรกิจที่สดใสพร้อมด้วย Valuation ที่น่าสนใจ กำไรระยะสั้นในงวด 4Q59 คาดจะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่น QoQ จากค่าการกลั่นตลาด (Market GRM) ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง High season ซึ่งปัจจุบันพบว่าดีขึ้นในน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด และจะส่งผลให้กำไรโดยรวมทั้งปี 2559 ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน แม้ว่าจะสูงขึ้นเพียง 10% YoY เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงกลั่นในช่วงไตรมาสสอง โดยกำไรสุทธิจะปรับตัวสูงขึ้นเต็มที่ได้ในปีหน้าที่ระดับ 33% YoY จากการเดินเครื่องโรงกลั่นภายใต้ภาวะเหมาะสมตลอดทั้งปี ขณะที่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนผ่านบริษัทย่อย BCPG ซึ่งตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนขึ้นเป็น 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 จากระดับปัจจุบันที่ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว 138 เมกะวัตต์ที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว จะเป็นอีกศักยภาพการเติบโตที่สำคัญของ BCP เรามองราคาหุ้นในระดับปัจจุบันมีความน่าสนใจเนื่องจาก (1) PBV ปีนี้อยู่ในระดับเพียง 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อยหลัง 5 ปี และ 10 ปีที่ 1.2 เท่า ขณะที่จากนี้เป็นต้นไป BCP อาจมีลักษณะบางส่วนเป็น Growth stock จาก BCPG ซึ่งสามารถ Re-rate ค่า PBV ให้สูงขึ้นได้อีก (2) ราคาหุ้น BCP ที่ Laggard เมื่อเทียบกับการปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นของราคาหุ้น BCPG (+51% จากราคา lPO) และ (3) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปีนี้ในระดับน่าสนใจที่ 5.0% ต่อปี Price Pattern ของ BCP มีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Daily & Monthly Buy Signal รอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่เท่านั้นก็จะทำให้ Price Pattern ของ BCP กลับเข้าสู่ความแข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างเต็มตัว โดยหาก Price Pattern ของ BCP สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 31.50 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BCP คาดมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 32.50 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 34.25 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ BCP มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 30 บาท (แนวต้าน: 31.75, 32.25, 33.00; แนวรับ: 31.00, 30.50, 29.75)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
รายได้ท่องเที่ยวไตรมาส 3/59 เป็นบวกตามคาดและโตต่อ ก.การท่องเที่ยวฯ รายงานว่าไทยมีรายได้ 6.27 แสน ลบ.ในไตรมาส 3 (+12% เทียบไตรมาส 3 ปีก่อน) ตามเป้า ประกอบด้วยรายได้ 4.1 แสน ลบ. (+14.8%) จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 8.2 ล้านราย (+13.1%) และ 2.1 แสน ลบ. จากนักท่องเที่ยวในประเทศ (+7.7%) นักท่องเที่ยวจีนเป็นผู้ชูโรง โดยเพิ่มขึ้น 14% สู่ 2.4 ล้านรายและสร้างรายได้ 1.24 แสน ลบ. (+16%) ก.ท่องเที่ยวฯ คาดรายได้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไตรมาส 4 น่าจะเพิ่มต่อเท่ากับ 1.3% เทียบไตรมาส 4 ปีก่อนสู่ 6.1 แสน ลบ. ทำให้รายได้ทั้งปีน่าจะเท่ากับ 2.49 ล้าน ลบ. เกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2.4 ล้าน ลบ. เป้าปีหน้าเท่ากับ 2.8 ล้าน ลบ. (Bangkok Post)
ตั้งงบ 9.88 หมื่น ลบ. พัฒนาคมนาคม รัฐบาลตั้งงบ 9.88 หมื่น ลบ. สำหรับปี 60 เพื่อพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ ได้แก่ มอเตอร์เวย์และโครงการรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์จะมีสามแห่งคือเส้นพัทยา-มาบตาพุด บางใหญ่กาญจนบุรีและบางพลี-นครราชสีมา ความเคลื่อนไหวนี้เป็นไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า และมุ่งหวังให้มีการลงทุนภาคเอกชนตามมามากขึ้น (Bangkok Post)
โครงการเมกะโปรเจคจะกระตุ้นความต้องการใช้เหล็กในประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กแห่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินการบริโภคเหล็กและเหล็กกล้าในประเทศว่าจะเติบโตได้ในระดับ 6-7% ในปีหน้ามาอยู่ที่ 17 ล้านตัน หนุนจากการลงทุนใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความต้องการใช้ในภาคก่อสร้างและภาคอสังหาฯ แต่ยังรวมถึงภาคยานยนต์และอิเลคทรอนิกส์ (Bangkok Post) ความเห็น: เชื่อว่าหุ้น TSTH (0.74 บ.) และ TMT (13.80 บ.) จะได้รับผลบวกจากประเด็นดังกล่าว
ต่างประเทศ
FBI เคลียร์คดีสอบสวนอีเมลของนางฮิลลารี นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBl แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า FBl ไม่พบความผิดทางอาญาต่อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวติดต่อเรื่องงานของรัฐบาลของนางฮิลลารี คลินตัน ทำให้การหาเสียงเลือกตั้งของนางฮิลลารีเป็นไปโดยราบรื่นขึ้นในเวลาที่เหลืออีก 2 วันก่อนการเลือกตั้ง (Reuters)
สถานการณ์ของนางฮิลลารีกลับมากระเตื้องอีกครั้งจากผลสำรวจความเห็นหลังจาก FBI ได้เคลียร์ข้อกล่าวหาแล้ว ผลสำรวจล่าสุดของ Reuters/lpsos ระบุว่านางฮิลลารีมีคะแนนนำนายทรัมป์อยู่ 5 จุด จากการสำรวจทั่วประเทศในขณะที่การแข่งขันในรัฐฟลอริดาและนอร์ท คาโรไลน่ามีกระแสเปลี่ยนจากที่นิยมนางฮิลลารีมามีคะแนนนิยมสูสีกัน นอกจากนี้ ผลสำรวจของ เอ็นบีซี-วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่านางฮิลลารีมีคะแนนนำนายทรัมป์อยู่ 4 จุด (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ หลังจาก FBl เผยว่าไม่พบความผิดทางอาญาต่อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวติดต่อเรื่องงานของนางฮิลลารี ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 1.1% อยู่ที่ระดับ 104.275 เยน หลังจากพุ่งขึ้นถึงระดับ 104.530 เยนในช่วงแรกของการซื้อขาย ในสัปดาห์ก่อนดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 102.550 เยนจากผลสำรวจที่ระบุว่าการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่กำลังทวีความเข้มข้น เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.5% อยู่ที่ระดับ 1.1089 ดอลลาร์สหรัฐ ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ระดับ 1.1143 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อต่ำ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้หนุนให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 7/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.79% ลดลงหลังจากเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.83% จากการประกาศข้อมูลการจ้างงาน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงติดต่อกัน 9 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 36 ปี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อสัญญาณการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างนางฮิลลารีกับนายทรัมป์ที่กำลังงวดเข้ามา ตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขายจากแรงหนุนของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร แต่ปรับตัวลงและมีการเทขายในช่วงปิดตลาด (Reuters)
นายจ้างสหรัฐยังคงเร่งจ้างงานใน ต.ค. หนุนค่าจ้างแรงงาน ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 161,000 ตำแหน่งเดือนที่แล้ว โดยเฉพาะภาคก่อสร้าง สุขภาพและผู้เชี่ยวชาญและการบริการธุรกิจ แม้ตัวเลขจะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกการณ์ว่าจะบวก 175,000 ตำแหน่ง พื้นฐานตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งบวกต่ำกว่าคาดเพราะมีการปรับแก้ตัวเลข ส.ค. และ ก.ย. ขึ้นอีก 44,000 ตำแหน่งจากตัวเลขเดิม อัตราการว่างงานลดลงสู่ 4.9% ใน ต.ค. จาก 5% ใน ก.ย. ค่าเฉลี่ยค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.4% (Reuters)
เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะโตต่อที่ 3.1% ในไตรมาส 4/59 (+1.4% ในไตรมาส 2/59 และ +0.8% ในไตรมาส 1/59) เพราะคาดว่าการใช้จ่ายบริโภคน่าจะมากขึ้นและการลงทุนในอุปกรณ์รวมถึงการได้ดุลการค้าเล็กน้อย จากประมาณการณ์ของ Fed ที่เผยออกมาเมื่อวันศุกร์ ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดคาดว่าไตรมาส 4/59 มากกว่าที่คาดเดิมที่ 2.3% ที่คำนวณไว้เมื่อวันอังคาร (Federal Reserve Bank of Atlanta)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวลดลง นำโดยการร่วงลงของราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยาหลังผู้บัญญัติกฎหมายสหรัฐฯ เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดตลาด (Antitrust) มีการสืบสวนการกำหนดราคายาที่ไม่เป็นธรรม (Reuters)
ผู้บัญญัติกฎหมายสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการสืบสวนบริษัทผู้ผลิตยา ได้แก่ Sanofi, Eli Lilly, Merck และ Novo Nordisk ว่ามีการสมรู้ร่วมคิดในการกำหนดราคาอินซูลินและยาโรคเบาหวานหรือไม่ (Reuters)
เอเชีย :
เศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวต่อไปในไตรมาสที่ 3/59 จากผลสำรวจของรอยเตอร์ในวันศุกร์ แต่การบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอและการใช้จ่ายการลงทุนของบริษัทยังคงมีอัตราการเติบโตที่เปราะบาง เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกคาดว่าจะมีการเติบโตที่อัตรา 0.9% YoY ในไตรมาส 3/59 ตามผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ 22 ราย หลังจากที่มีการขยายตัวที่ 0.7% ในไตรมาส 2/59 (Reuters)
ประเทศจีนจะพิจารณากฎต่าง ๆ ของฮ่องกงที่ต้องจงรักภักดีต่อจีนท่ามกลางความเป็นอิสระ: คณะกรรมาธิการของสภาประชาชนแห่งชาติของจีนจะพิจารณาบทบัญญัติของกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงที่เกี่ยวข้องกับการที่ต้องขึ้นตรงทางการเมืองต่อจีน รัฐบาลที่ปกครองเมืองกล่าวว่าจะพยายามยุติวิกฤติการเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระ แต่เพิ่มความกลัวการแทรกแซงทางกฎหมาย (Reuters)
ประเทศจีนรายงานการเกินดุลเบื้องต้นที่ 71.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 3/59 และขาดดุล 71.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในบัญชีทุนและบัญชีการเงิน ตามที่สำนักบริหารแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (SAFE) รายงาน โดยในงวด 9M16 ยอดดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 174.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ขาดดุล 85.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บัญชีทุนและบัญชีการเงิน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันล่วงหน้ารายสัปดาห์ร่วงในรูป % มากที่สุดนับแต่ ม.ค.หรือ 9% ในวันศุกร์ เพราะซาอุฯ และอิหร่านยังขัดแย้งซึ่งอาจทำให้มาตรการลดกำลังการผลิตไม่บรรลุ น้ำมันดิบสหรัฐในสต็อกเพิ่มขึ้นทำสถิติสัปดาห์ที่แล้วและอุปสงค์ที่ยังน้อยกดดันฟิวเจอร์ส ในการประชุม OPEC สัปดาห์ที่แล้วซาอุฯ ระบุว่าอาจเพิ่มการผลิตน้ำมันขึ้นแรงหากอิหร่านไม่ยอมลดกำลังการผลิต ในวันศุกร์ราคาอ้างอิงปิดจุดต่ำสุดตั้งแต่ ก.ย. Brent ลง 77 เซนต์ (-1.7%) ปิดที่ 45.58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 59 เซนต์ (-1.3%) ปิดที่ 44.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หากนับจากจุดสูงสุดของ ณ เดือน ต.ค. ก็หล่นลงมาแล้ว 15% (Reuters)
ทองคำคงที่วันศุกร์ สู่การบวกมากสุดรายสัปดาห์นับแต่กลาง ก.ย. เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตการเลือกตั้งสหรัฐหักล้างรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งซึ่งเพิ่มการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า ราคาทองคำตลาดจรปิดลง 0.08% ไปอยู่ที่ 1,302.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. บวก 0.1% ไปอยู่ที่ 1,304.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094