- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 November 2016 16:09
- Hits: 1426
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์ไม่ไกล ภาพรวมยังไซด์เวย์
KGI คาด SET วันจันทร์รีบาวด์แต่ไปไม่ไกล ก่อนไซด์เวย์ต่อ (ศุกร์ที่แล้วดัชนีฯ ลดลง ตามคาด) ดัชนีฯ อาจมีแรงหนุนจากปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ หลังเอฟบีไอแถลงเช้านี้ตามเวลาบ้านเรา ว่าไม่มีข้อมูลใหม่ต่อคดีเซอฟเวอร์อีเมล์ของนางคลินตัน และจะไม่มีการดำเนินคดีอาญากับเธอ ซึ่งน่าจะส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอกลับมานำนายทรัมป์มากขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ วันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดีปัจจับลบอื่นๆ ยังดำรงอยู่ i) ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ลงต่อสู่จุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ หลังจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและซาอุฯ ขู่จะเพิ่มปริมาณผลิตน้ำมันหากบางประเทศยังป่วนการเจรจา ii) มุมมองเฟดขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. ยังอยู่ในตลาด แม้ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ต่ำกว่าคาด (เนื่องจากมีการปรับเพิ่มตัวเลขเดือนก่อนหน้า และค่าจ้างแรงงานยังเพิ่มมากกว่าคาด) ด้านปัจจัยภายใน จิตวิทยาเชิงบวกว่าด้วยโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ น่าจะหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องให้โดดเด่นกว่าดัชนีฯ ต่อไป (อ่านรายละเอียดในส่วนถัดไป)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ซื้อ TCMC, THAI*
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 จะโต YoY แต่อาจชะลอตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และจะกลับมาเติบโตเด่น (ลุ้นทำนิวไฮ) ในไตรมาส 4/59 (High season + รับรู้รายได้จากการซื้อกิจการ DMM คาดรับรู้ในเดือน ธ.ค.) 2) คาดธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่อังกฤษ (Altstons และ DMM ส่วนแบ่งตลาดฯรวมขึ้นอันดับ 1แล้ว) จะได้อานิสงส์จากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่า (การท่องเที่ยว + ภาคอสังหาฯ ฟื้น ส่งผลบวกต่อการ Renovate โรงแรมและที่อยู่อาศัย) ... ล่าสุดธนาคารกลางประเทศอังกฤษปรับเป้า GDP ปีนี้และปีหน้าขึ้นตามที่เราคาดการณ์แล้ว 3) ประเมิน PE ปีหน้าต่ำเพียง 9.1 เท่า และ PEG ต่ำเพียง 0.68 เท่า (อิง EPS ปี 2558 ตามหลักอนุรักษ์นิยม และประมาณการ EPS โต 26.6% CAGR 2558 – 2561 ซึ่งยังไม่รวมผลของ Synergy benefit) 4) คาดราคาหุ้นหมดแรงขาย Sell on fact หลังการประชุมผู้ถือหุ้นซื้อกิจการ DMM ที่อังกฤษแล้ว จะเริ่มสร้างฐานใหม่อีกรอบที่บริเวณแนวรับ ±4.8 บาท และ ±4.7 บาท / แนวต้าน 5.2 บาท และ ±5.5 บาท
THAI* (เป้าสูงสุดใน Consensus 32 บาท) 1) ราคาหุ้นเริ่มพักฐานที่แนวรับ ±25.5 บาท คาดมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง เป็นรูปแบบ Double bottom เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน ±28 บาท และเป้าหมายระยะกลางที่ ±30 บาท (สำหรับนักเก็งกำไรสั้น พิจารณาที่ 25.5 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ “Short against” ขายก่อนเพื่อรอรับแนวรับ 24.5 บาท) 2) ราคาหุ้นสัปดาห์ที่แล้วปรับลงแรงกว่าตลาดฯ ขณะที่ไม่มีข่าวลบ มีแต่ข่าวบวก คือ i) ราคาน้ำมันปรับฐานแรง (ต้นทุนน้ำมันลง) ล่าสุด WTI อยู่ที่ ±44.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ii) Consensus คาดการณ์ไตรมาส 3/59 มีกำไรราว ±300 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุน 9.9 พันล้านบาทในไตรมาส 3/58) iii) หลังรายงานงบฯ ประเมิน Trailing PE จะต่ำกว่า 10 เท่า จากตอนนี้ติดลบ (ไม่มีความเสี่ยงติดแคชบาลานซ์) iv) เดือน มี.ค.60 ลุ้น ICAO ปลดธงแดง
หุ้นในกระแส
หุ้นรับโครงการรัฐฯ
1) ผู้รับเหมาฯ + ผู้ประกอบการฯ (ตัวใหญ่ CK*, STEC* / ตัวเล็ก SEAFCO, PYLON / ผู้ประกอบการฯ BTS*, BEM*) วันนี้กำหนดยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู – เหลือง (ดูรายละเอียด Comment โดยนักวิเคราะห์พื้นฐานในส่วน “หุ้นมีข่าว”) ... แนะนำ “เก็งกำไร” CK*, SEAFCO และอาจพิจารณาเก็งกำไร BTS*, BEM*
2) หุ้นกลุ่มเหล็ก (BSBM, TMT) เราประเมินดีมานด์เหล็กในประเทศ (โดยเฉพาะเหล็กแท่ง) จะเพิ่มขึ้น เป็นบวกต่อปริมาณขายและแนวโน้มราคาเหล็กในประเทศ ... แนะนำ “เก็งกำไร” BSBM และ TMT
3) หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับระบบสายไฟ (CTW, DEMCO, ASEFA) จากมติ ครม ล่าสุด ให้ กฟภ. ดำเนินโครงการระบบสายส่งและจำหน่ายระยะที่ 1 (มูลค่าลงทุน 6.26 หมื่นล้านบาท) คาดเป็น Sentiment บวกมาที่หุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ CTW (จำหน่ายสายไฟ), DEMCO (งานรับเหมาฯ) และ ASEFA (ระบบไฟฟ้า)
หุ้นกลุ่มเศรษฐกิจดิจิตอล (ITEL, INET) สัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมการ Digital Economy (กระทรวงดิจิทัลฯ) ผ่านร่างแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนายุทธศาสตร์ฯ โดยกำหนดลดเป้าหมายต่างๆ (โครงสร้างพื้นฐาน, การเข้าถึงอินเตอร์เนต ฯลฯ) เป็น 5 ปี จากเดิม 10 ปี เราประเมินการเร่งการสนับสนุนจากภาครัฐฯจะเป็น Sentiment บวกมาที่หุ้นในกลุ่มฯ
1) ITEL ประเมินแนวรับ 10.8 บาท แนวต้าน 11.6 บาท และถัดไปที่ ±12.5 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
2) INET ประเมินแนวรับ 4.3 บาท แนวต้าน 4.7 บาท (Stop loss 4.2 บาท)
หุ้นโรงกลั่น (TOP*, BCP*) ค่าการกลั่นยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง (ล่าสุด 8.68 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ขึ้นจากจุดต่ำสุดต้นเดือน ต.ค. ที่ 4.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI เริ่มสร้างฐานที่บริเวณ ±44 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
1) BCP* สำหรับนักลงทุนที่ขายทำกำไร หลังจากที่ราคาหุ้นปรับลงต่ำกว่า 32.75 บาท ตามที่เราแนะนำไปก่อนหน้า อาจพิจารณา “ซื้อเก็งกำไร” ที่แนวรับ 31.5 บาท และถัดไป 31 บาท แนวต้าน 33.5 บาท
2) TOP* ประเมินแนวรับ 72 บาท แนวต้าน 75 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน
หุ้นมีข่าว
(+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง; ยื่นซองประมูลสายสีเหลือง-ชมพู วันนี้ (ข่าวหุ้น) โดย 10 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ อาทิ CK* ร่วมกับ BEM* และ STEC* ร่วมกับ BTS* เตรียมยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพูวันนี้ และคาดรฟม.จะประกาศผลผู้ชนะการประมูลภายในวันที่ 17 พ.ย. นี้ สำหรับแนวโน้มข่าวดีที่รออยู่ อีกทั้งงานจำนวนมากจากภาครัฐบาลที่เตรียมออกมาประมูล ทำให้เรายังคงน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มราคาเป้าหมาย 39.50 บาท
(0) การแข่งขันฟุตบอลถ้วย EFL ของประเทศอังกฤษจะถูกใช้ชื่อว่า คาราบาวคัพ นับตั้งแต่ฤดูกาลหน้า ภายหลังจากการทำข้อตกลงสนับสนุน 3 ปี มูลค่า 18 ล้านปอนด์ (BBC) ความเห็น: เราคิดว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งความพยายามของ Carabao Group (CBG.BK/CBG TB)* ที่จะสร้างการรับรู้ถึงตราสินค้าของบริษัทในตลาดอังกฤษ ภายหลังจากที่มีการทำข้อตกลงสนับสนุนกับ เชลซี มูลค่า 30 ล้านปอนด์ ในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เรามีมุมมองเป็นกลางต่อข้อตกลง โดยประเมินค่าใช้จ่ายทางการตลาดสุทธิมายัง CBG ที่ 54-108 ลบ. ในปี 2017-18 (คิดเป็น 3.9-6.4% ของประมาณการกำไรปัจจุบันของเรา) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายยังอยู่ในกรอบคาดการณ์ของเรา ขณะที่ข้อตกลงทางการตลาดนี้มี upside ต่อคาดการณ์ส่วนแบ่งการตลาดของ CBG ที่อังกฤษ จากสมมติฐานของเราที่ 1.0-2.0% ในปี 2017-18
(+) SMT อัพกำลังผลิต รับสินค้าใหม่ทำเงิน ปลุกรายได้โตแรง (ทันหุ้น) SMT แย้มผลงานปี 2560 โดดเด่น หลังลงทุนเพิ่มกำลังผลิตในกลุ่มสินค้า IC Packaging/Wafer Dicing รับออเดอร์ไหลเข้า หนุนมาร์จิ้นแกร่ง พร้อมเตรียมร่วมมือพันธมิตรจากสหรัฐ เพิ่มกำลังผลิต Solar Panel ให้ขึ้นสู่ระดับ 200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 40 เมกะวัตต์
(- AOT*, BEAUTY* / 0 THAI*, SPA) AOT* หวั่นรายได้ไม่โต นักท่องเที่ยวจีนลด (โพสต์ทูเดย์) AOT กังวลเป้ารายได้ปี 2560 จะไม่โต ผลกระทบปราบทัวร์ศูนย์เหรียญทำนักท่องเที่ยวจีนหด นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า บริษัทจะนำผลกระทบของปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญมาประเมินเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทงวดปี 2560 (เดือน ต.ค. 2559-ก.ย. 2560) ซึ่งปกติจะต้องเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา ว่าจะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องได้จากงวดปี 2559 ได้หรือไม่
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 12.5 บาท) แนะนำ “ถือ” รอสัญญาณการเบรกแนวต้าน 13.3 บาท เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป ±14 บาท … งบไตรมาส 3/59 โต YoY, QoQ และทำนิวไฮในไตรมาส 4/59 + เริ่มจำหน่าย iPhone 7+ Apple เปิดตัว MacBook ตัวใหม่
BSBM (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 1.59 – 1.86 บาท อิง PE 6 – 7 เท่า) วันศุกร์ทะลุผ่านแนวต้านแรก 1.44 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.53 บาท ... คาดกำไรไตรมาส 3/59 และไตรมาส 4/59 Turnaround ต่อเนื่องจากราคาเหล็กฟื้นตัว + PE ปี 2559 ตอนนี้ต่ำเพียง 5.5 เท่า
TFG (เป้า Consensus 5.3 บาท) หลุดแนวรับ 4.82 บาท หากวันนี้ไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 4.82 บาทได้ อาจพิจารณา “ขายตัดขาดทุน” แต่หากกลับยืนเหนือ 4.82 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้าน 4.96 บาท และถัดไป 5.4 บาท... Consensus คาดกำไรไตรมาส 3/59 = 523 ล้านบาท (Turnaround จากขาดทุน 263 ล้านบาทในไตรมาส 3/58) + ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวลงบวกต่ออัตรากำไร
SEAFCO (เป้า Consensus 13.7 บาท) แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 11 บาท โดยประเมินแนวต้าน 11.5 – 11.8 บาท ... คาดการประมูลรถไฟฟ้า และ รถไฟรางคู่ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. นี้
TPBI (เป้าสูงสุด Consensus 19.4 บาท) หากราคาหุ้นต่ำกว่า 16.2 บาท แนะนำ “ขายตัดขาดทุน” แต่หากยืนได้ แนะนำ “ถือ” ... คาดงบไตรมาส 3/59 โต YoY และ QoQ และโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/59 (High season)
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) หากวันนี้กลับไปยืนเหนือ 10 บาทได้ แนะนำ “ถือ” แต่หากต่ำกว่าแนะนำ “ขายล๊อกกำไร” เพื่อรอรับแนวรับถัดไปบริเวณ ±9.5 บาท
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield 11.6%)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BEM* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 7.48 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรไตรมาส 3/59 = 696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% QoQ จาก i) คาดรายได้ +4.5%QoQ จากจำนวนรถที่ใช้บริการทางด่วนเพิ่มขึ้น 5% QoQ และจำนวนผู้โดยสารรถใต้ดินที่เพิ่มขึ้น 10% QoQ และ ii) ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ (ค่าปรับจากการ Refinance เงินกู้ประมาณ 200 ล้านบาท) เหมือนในไตรมาสก่อนหน้า
GPSC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 34 บาท รายงานกำไรไตรมาส 3/59 = 724 ล้านบาท (+28% YoY, +5.5% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้
ASK แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 28 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรไตรมาส 3/59 = 189 ล้านบาท (+7% YoY, +3% QoQ) อย่างไรก็ดีปัจจัยเสี่ยงคือการตั้งสำรองฯ ที่อาจเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/59 (อาจตั้งสำรองฯ มากกว่าคาด ซึ่งจะทำให้กำไรปี 2559 ต่ำกว่าคาดได้เล็กน้อย)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ต้านสั้น 1489 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1489 จุดนั้น อาจผลักขึ้นในกรอบ 1489-1504 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1489 จุด อาจรักษาแรงกดราคาลงในกรอบ 1489-1465 จุด
แนวรับวันนี้: 1478/1467 แนวต้านวันนี้: 1489/1502
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]