- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 November 2016 16:01
- Hits: 2331
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกดตลาด
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้จากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้าทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงกันขนาดใหญ่อีกครั้ง ทำให้หุ้นและการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ ราคาร่วงลงแม้แต่ความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นก็ไม่อาจหนุนดอลลาร์จากการร่วงลงได้ Fed คงนโยบายการเงินทั้งหมดเมื่อวานก่อนการเลือกตั้งตามที่ตลาดคาด ราคาน้ำมันร่วงลงด้วยเหตุปัจจัยของตลาดน้ำมันเอง จากปริมาณสำรองของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ ปัจจัยในประเทศที่สำคัญวันนี้ไม่ใช่ปัจจัยบวก เช่น โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติเลื่อนต่ออีก พนักงาน ธกส. กังวลว่าต้องรับการขาดทุนจากโครงการจำนำยุ้งฉางของรัฐบาล
หุ้นเด่นวันนี้ : MTLS (ราคาปิด 18.80 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 28.00 บาท)
บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง เป็นหุ้นเด่นในวันนี้เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรรายไตรมาสระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 345 ล้านบาท กระโดดขึ้น 14.8% QoQ และ 56.7% YoY การเติบโตที่โดดเด่นนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างสม่ำเสมอจากกลยุทธ์การขยายสาขาของบริษัท โดยในไตรมาส 3/59 จำนวนสาขาอยู่ที่ 1,515 สาขา เพิ่มขึ้นจาก 1,236 สาขาในไตรมาส 2/59 ในระหว่างที่บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาในปี 59 และ 60 อยู่ที่ 1,600 สาขา และ 2,200 สาขา ตามลำดับ ถึงแม้ว่า MTLS คาดว่าจะยังคงเพิ่มระดับการตั้งสำรองไปเรื่อยๆ
แต่เราคาดว่า การเพิ่มระดับการตั้งสำรองดังกล่าวเกิดจากการที่บริษัทเตรียมตัวสำหรับมาตรฐานบัญชีใหม่ หรือ lFRS 9 มากกว่าที่จะเป็นสัญญาณของคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลงเนื่องจากบริษัทคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ของไตรมาส 3/59 นั้น จะยังอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับ 0.94% ในไตรมาส 2/59 อีกทั้งอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) น่าจะปรับตัวดีขึ้นจาก 268.9% ในไตรมาส 2/59 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงความสามารถอย่างแข็งแกร่งของบริษัทในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ เราคาดสินเชื่อในปีนี้ของ MTLS จะกระโดดสูงขึ้นถึง 70% YoY แม้บริษัทจะยังตั้งสำรองเพิ่มขึ้น แต่เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 51.7% ในปี 59 และ 36.4% ในปี 60 Price Pattern ของ MTLS ยังมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยมุมมองต่อ Price Pattern ของ MTLS ระยะสั้นคาดว่ามีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 19.20 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 19.70 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ MTLS มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 18.60 บาท (Resistance: 19.00, 19.20, 19.40; Support: 18.60, 18.40, 18.20)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติล่าช้าไปอีก รองนายกฯ ประจินระบุว่าโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติครอบคลุม 40,432 หมู่บ้านทั่วประเทศคาดว่าจะพร้อมในไตรมาส 2/61 จากเดิมกำหนดปี 60 เป็นเพราะปัญหาเรื่องการบริหาร ปัจจุบัน กสทช.พร้อมจะติดตั้งใน 3,920 หมูบ้านจากทั้งหมด 15,732 หมู่บ้านภายใต้ความรับผิดชอบ ส่วนทีโอทีจะรับทำที่เหลือ 24,700 หมู่บ้าน (Bangkok Post)
รมว.คลังชี้ ธกส. ใช้มาตรการอุ้มข้าวได้แล้ว รมว.คลังรุดเข้าคลายกังวลของ ธกส. ว่าธนาคารอาจขาดทุนจากมาตรการเก็บข้าว โดยชี้ว่าราคาข้าวหอมมะลิที่ 11,000 บาทต่อตันไม่น่าร่วงไปกว่านี้เพราะเข้าใกล้ต้นทุนปลูกข้าวที่ 10,000-11,000 บาท ในกรณีที่ร่วงต่ำลงไปอีก ธกส.สามารถสีข้าวแล้วแพ็คขายที่ 15 บาทต่อ กก. เทียบกับราคาตลาดที่ 20-30 บาท (Bangkok Post)
IRPC (4.88 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q59 อยู่ที่ 1.31 พันลบ. เป็นไปตามที่ตลาดคาดที่ 1.39 พันลบ. (Bloomberg consensus) ผลประกอบการอ่อนตัวลง 65% QoQ เนื่องจากผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและการหายไปของกำไรจากสต็อกน้ำมัน ขณะที่กำไรฟื้นตัว 77% YoY เนื่องจากไม่มีการบันทึกผลขาดทุนสต็อกจำนวนมากเช่นในงวด 3Q58 ทั้งนี้การเดินเครื่องผลิตของโครงการ UHV ยังไม่ส่งผลบวกต่อผลประกอบการในงวด 3Q59 นี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงต้นของการเดินเครื่อง (SET)
ต่างประเทศ
ผลสำรวจคะแนนนิยมผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ผลสำรวจโดยเฉลี่ยรวบรวมโดยเว็บไซต์ RealClearPolitics ระบุว่านางฮิลลารีมีคะแนนนำนายทรัมป์ทั่วประเทศเพียง 1.7% เมื่อวันพุธ โดยมีเสียงสนับสนุนนางฮิลลารี 47.0% และ 45.3% สนับสนุนนายทรัมป์ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงต่ำสุดในรอบสัปดาห์เมื่อวันพุธ เนื่องจากความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าหนุนให้เกิดความต้องการซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ล่าสุดเพิ่มขึ้น 4/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.81% ลดลงจากที่ระดับ 1.82% เมื่อวันอังคาร อัตราผลตอบแทนลดลงมาที่ระดับ 1.79% ในระหว่างการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์เทียบกับเงินยูโร เงินเยน สวิสฟรังก์ และปอนด์สเตอริงเมื่อวันพุธ จากความกังวลถึงความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.4% สู่ระดับ 97.26 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. เงินเปโซอ่อนค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 19.4295 เปโซต่อดอลลาร์จากความกลัวว่านายทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบต่อเมื่อวันพุธ โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงติดต่อกัน 7 วัน ยาวนานที่สุดในรอบ 5 ปีเนื่องจากเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่มีความไม่แน่นอนยังคงทำให้แนวโน้มตลาดไม่สดใส (Reuters)
เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยด้วยคะแนน 8-2 เมื่อวันพุธ แต่ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐและการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และเฟดแสดงมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าของเฟดที่ 2% มติของเฟดในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แต่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. (Reuters)
การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากการเปิดเผยของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เมื่อวันพุธ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง มีการปรับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนก.ย. เป็นเพิ่มขึ้น 202,000 ตำแหน่งจากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่ง (ADP)กรมแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรทั้งรัฐและเอกชนในวันศุกร์ นักเศรษฐศาสตร์จับตาการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 166,000 ตำแหน่งใน ต.ค. ลดลงจาก 167,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 อัตราการว่างงานคาดจะลดลงเป็น 4.9% จาก 5.0% ในเดือนก่อนหน้า (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน จากความกังวลต่อสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังใกล้เข้ามาในสัปดาห์หน้า ขณะที่ราคาหุ้น AP Moller-Maersk ซึ่งประกอบธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าปรับตัวลดลงหลังรายงานผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง อย่างไรก็ตามราคาหุ้นกลุ่ม Healthcare กลับปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่น จากความนิยมและคะแนนเสียงต่อนาง Hillary Clinton ที่ลดน้อยลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดมองว่าหาก Clinton ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะนำไปสู่ข้อบังคับและกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นในการกำหนดราคายา (Reuters)
ภาคการผลิตยูโรโซนเดือนต.ค. ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 33 เดือน Markit รายงานดัชนี PMl ภาคการผลิตยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 53.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557 จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. และตัวเลขประเมินเบื้องต้นก่อนหน้าที่ 53.3 โดยการขยายตัวที่แข็งแกร่งดังกล่าวมาจากการผลิตที่สูงขึ้นผ่านคำสั่งซื้อใหม่และยอดส่งออกใหม่ รวมไปถึงการจ้างงานที่มากขึ้น ขณะที่ราคาขายเริ่มส่งสัญญาณการเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ดัชนี PMl ในเนเธอร์แลนด์ปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นที่สุดด้วยการขยายตัวที่ทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน เช่นเดียวกับเยอรมนีที่ขยายตัวมากสุดในรอบเกือบ 3 ปี (HlS Markit)
เอเชีย :
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังล็อบบี้บริษัทญี่ปุ่นที่จะไปลงทุนในโครงการประเทศรัสเซียให้อยู่ในระเบียบการควบคุม เมื่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ไปเยือนญี่ปุ่นในธันวาคม ข้อพิพาทในสี่เกาะที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอกไกโดในญี่ปุ่น ที่เรียกว่าดินแดนทางเหนือในประเทศญี่ปุ่นและ Kuriles ตอนใต้ในรัสเซีย เป็นประเด็นที่ขัดขวางการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการระหว่างโตเกียวกับรัสเซียหลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง (Reuters)
ภาระหนี้และความเสี่ยงอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตขึ้นของจีน เป็นตัวจุดชนวนการอภิปรายภายในว่า จีนควรจะยังคงมีการเจริญเติบโตที่ต่ำลงมาเป็น 6% ในปี 2560 เพื่อให้เกิดช่องทางสำหรับการปฏิรูปเพื่อมุ่งลดกำลังการผลิตที่ล้นของภาคอุตสาหกรรมและลดการก่อหนี้หรือไม่ รัฐบาลได้กล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อย 6.5% เป็นสิ่งจำเป็นในแต่ละปีไปจนถึงปี 2563 เพื่อตอบสนองเป้าหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้คือจีดีพีและรายได้ต่อหัวโตเป็นสองเท่าในปี 2563 จากระดับ ในปี 2553 โดยมีจุดมุ่งหมายสำหรับการเจริญเติบโตที่ 6.5%-7.0% ในปีนี้ (Reuters)
จีนและรัสเซียจะเดินหน้าเข้าหากันมากขึ้นในวันพุธที่ผ่านมา เพื่อทำการพัฒนาร่วม เครื่องบินเจ็ทระยะไกล เพื่อท้าทายโบอิ้งและแอร์บัส โดยแสดงรูปแบบของเครื่องบินที่ยังไม่มีชื่อขึ้นมาเพื่อจะแข่งขันกับคู่แข่งตะวันตก(Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันร่วง 3% วันพุธ หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ออกมาทำสถิติทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นเกินของโลก US ElA รายงานตัวเลขสต็อกเพิ่มขึ้น 14.4 ล้านบาร์เรลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 28 ต.ค. มากกว่าที่คาดกันไว้ที่ 1 ล้าน บาร์เรล โดยเป็นการเพิ่มรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2525 ทะลุรายงานของ APl ที่ว่าจะเพิ่ม 9.3 ล้านบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 1.33 ดอลลาร์ (-2.9%) ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังร่วงไปแตะ 45.34 ดอลลาร์น้ำมัน Brent ลง 1.28 ดอลลาร์ (-2.7%) ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนในวันพุธ เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตการเลือกตั้งสหรัฐ นักลงทุนจึงย้ายมาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง ราคาทองคำตลาดจรขึ้นไปสูงสุดที่ 1,304.72 ดอลลาร์สูงสุดนับแต่ 4 ต.ค. ก่อนจะปิดบวก 1.1% ไปอยู่ที่ 1,302.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. บวก 15.40 ดอลลาร์ ไปอยู่ที่ 1,303.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094