- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 November 2016 15:58
- Hits: 2358
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(0) COM7: หุ้นเติบโตสูง แต่ upside เหลือไม่มาก
(0) IRPC: กำไร 3Q16 อ่อนตัวลง คาด UHV เดินเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นปลายปี
(0) KKP: แนวโน้มสินเชื่อฟื้นตัวได้ช้า... แนะนำเพียง "ถือ" รับปันผลระดับสูงต่อไป
(0) (news comment) KTBST - SCC: ขายกิจการโรงปูนบดในบังคลาเทศ บันทึกกำไร 300 ล้านใน 4Q16
(+) SAT: แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q16 - 4Q16 มีแนวโน้มดีกว่าที่เคยคาดเดิม
(0) TVO: คาดกำไร 3Q16 ดีเหลือเชื่อ มองผลประกอบการผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC คณะกรรมการตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ ใน statement ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดตีความว่า Fed น่าจะปรับขึ้นเดือน ธ.ค. หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค.จาก Fed Fund Futures Probability ของการประชุมเดือน ธ.ค.สูงถึง 78.0%
อย่างไรก็ตาม ผลประชุม FOMC นั้นกลับกลายเป็นปัจจัยรองไปเลย อาจเป็นเพราะตลาดคาดอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ใหญ่กว่า และมีผลต่อตลาดในคืนที่ผ่านมา คือ การที่ FBI เข้าตรวจสอบ email ของนางฮิลลารี่ ที่เกมส์อาจเปลี่ยนหลังนายทรัมป์ พลิกมามีคะแนนนำ (poll) ถึงขึ้นเอาไปเทียบว่า จะสร้างความปันป่วนให้กับ่ตลาด FX มากกว่าผลของ BRExit หาก Trump ชนะการเลือกตั้ง ........ เป็นเหตุให้ นักลงทุนต่างปรับพอร์ต เพื่อรับมือ หาก Trump เกิดชนะการเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ
วันนี้ ภาพตลาดหุ้นต่างประเทศ น่าจะออกมาในทางที่เป็นลบ ส่วนราคาน้ำมันดิบ ความหวังเรื่องลดการผลิตน้ำมันที่จะตัดสินใจ 30 พ.ย. มีน้อยลง บวกกับตัวเลข stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่รายงานโดย EIA เพิ่มขึ้นถึง 14.4 ล้านบาร์เรล จะกดราคาน้ำมันดิบ WTI ไว้
สำหรับปัจจัยในประเทศ ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ แต่ปัจจัยเดิมๆ คือ แรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯและเก็งงบ Q3 ยังเป็นตัวบวกของตลาด แต่วันนี้ ตัวลบต่างประเทศมีมากกว่า (เลือกตั้งสหรัฐฯ+น้ำมัน) มีโอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวลดลง จากหุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศหรือสถาบันฯขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตลาดจะมีผันผวนมาก จากที่นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นบางตัว
สิ่งที่เราสังเกตเห็นวานนี้ คือ หุ้นกลุ่มใหญ่ ในกลุ่มเดียวกัน บางตัวเป็นบวก บางตัวเป็นลบ แต่ฝั่งลบมีน้ำหนักมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่เห็นกันบ่อยนัก เพราะส่วนใหญ่ ถ้าปรับตัวลงหรือขึ้นมักจะไปในทางเดียวกัน ...... แต่นั่นเป็นสัญญาณว่า นักลงทุน ไม่ได้มองตลาดไทยแย่มาก และมีการ selective buy จริงๆ
ตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาด จะเป็น ความคืบหน้าในกรณี email ของนางฮิลลารี่ การคาดการณ์ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษเย็นวันนี้ (3) และราคาน้ำมัน
กลยุทธ์การลงทุน แม้จะผ่านการประชุม FOMC ไปแล้ว แต่ความเสี่ยงเรื่องผลเลือกตั้งสหรัฐฯจะเป็นตัวกดดันตลาด เราแนะนำชะลอการลงทุน ในหุ้นขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีปัจจัยบวกหนุน และเข้าลงทุนในลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เน้นข่าวบวกรายตัว รวมทั้งหุ้นที่มีการเก็งผลประกอบการ 3Q และหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเสรษฐกิจภาครัฐ ........ หุ้นที่เราคาดว่า อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BANPU , IVL , NDR , TSE , HPT
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (02 พ.ย.) - SET Index ปิดที่ 1,498.65 จุด ลดลง 5.87 จุด หรือ -0.39% มูลค่าการซื้อขาย 49,339.22 ล้านบาท
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,959.64 จุด ลดลง 77.46 จุด หรือ -0.43%เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป เดือน ธ.ค. เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -1.1% ปิดที่ 331.55 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ -2.9% ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - เฟด มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-2 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ แต่มีการส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ขณะที่ระบุว่าเศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้น
เศรษฐกิจยุโรป - มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 53.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ย.
เศรษฐกิจไทย - สคร. เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ จะมีกสนประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปโครงสร้างของกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ทั้งหมด เพื่อที่จะระดมทุนให้ได้ 1 แสนล้านบาท
กลุ่มท่องเที่ยว - กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ประจำประเทศไทย เพื่อวางกรอบส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างไทยและจีน
News Release :
DEMCO-ILINK-GUNKUL ชิงเค้กกฟภ.กว่า6หมื่นล. งานพัฒนาระบบส่ง-จำหน่ายไฟฟ้าเฟส 1
+ "DEMCO-ILINK-GUNKUL" ชิงเค้กกฟภ. วงเงิน 62,678 ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบส่ง-จำหน่ายไฟฟ้าเฟส1 ตั้งแต่ปี 59-64 โดย ILINK-DEMCO ประเดิมคว้างานกฟภ.ทันที ส่วน CTW-UWC-ASEFA ร่วมรับอานิสงส์รอคว้าออเดอร์งาน (ข่าวหุ้น)
SIRIจับBTSแน่นลุยผุดอีก2คอนโดมูลค่า 1หมื่นล้าน
+ "แสนสิริ" ผนึก "BTS" แน่นแฟ้น เดินหน้าพัฒนาคอนโดฯไฮเอ็นด์ตามแผน 5 ปี 25 โครงการ มูลค่า 1 แสนล้านบาท ล่าสุดเล็งเปิดอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้าน "เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101" และ "เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์" เปิดพรีเซลวันที่ 19-20 พ.ย.นี้ (ข่าวหุ้น)
WHAขายสินทรัพย์เข้ารีทส์ได้เงิน8พันล้านเร่งใช้หนี้
+ WHA ลั่นไตรมาส 4/59 ขายสินทรัพย์เข้ากองรีทส์หมื่นล้านบาท รับทรัพย์เข้ากระเป๋า 8 พันล้านบาท เร่งนำไปคืนหนี้ซื้อ "เหมราช" หวังกด D/E ลดเหลือ 1.3 เท่าภายในไตรมาส 1/60 ส่วนโรงไฟฟ้าขยะ 8.63 MW เริ่มสร้างไตรมาส 4/59 และจ่ายไฟเข้าระบบปี 62 (ข่าวหุ้น)
IRPC แจ้งงบ Q3โต47% โชว์กำไรพุ่ง 1.3 พันล้าน
+ "IRPC" มาตามนัด ประกาศงบไตรมาส 3 ฟาดกำไรสุทธิ 1,307 ล้านบาท โต 47% จากงวดเดียวกันปีก่อน โชว์กำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) แกร่ง 12.50 เหรียญสหรัฐ รับผลบวกโครงการ Everest ปั๊ม GIM เพิ่มขึ้น(ข่าวหุ้น)
STEC คว้างานมอเตอร์เวย์ มุ่งชิง 20%โครงการ1แสนล.
+ STEC คว้างานก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 1.8 พันล้านเข้ามือ บอส "ภาคภูมิ ศรีชำนิ" เดินหน้าลุยประมูลทุกโครงการที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/2559 โดยเฉพาะการประมูลรถไฟรางคู่ทุกสัญญารวมมูลค่ากว่า 1.01 แสนล้านบาท หวังได้รับงานในสัดส่วน 20-25% ฟากโบรกชี้กำไรปีนี้แตะ 1.1 พันล้านบาท มองยาวปี 2560 ผลงานเด้ง 20% ชูเป็นหุ้นเด่นแนะลงทุน ราคาพื้นฐาน 30 บาท (ทันหุ้น)
BEM-BTS ขวัญใจมหาชน จ่อซิวเดินรถชมพู-เหลือง
+ BEM-BTS เกาะกระแสการประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม-ชมพู-เหลือง ที่คาดว่าจะรู้ผลประกาศผู้ชนะใน Q1/2560 ขณะที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับเหมาหลักอย่าง CK-STEC คาดมีโอกาสได้รับงานสูง โบรกส่องผลงานปีนี้โดดเด่น โดย BTS รับรู้กำไรบริษัทร่วม BTSGIF และ SIRI-JV BEM ส่วน BEM บุ๊กทางด่วนศรีรัช ดันกำไรพุ่ง 30% จากไตรมาสก่อน (ทันหุ้น)
'AJ'แตกไลน์ธุรกิจอัพฐาน สยายปีกยุโรป-พิกัด9บาท
+ AJ หุ้นน้ำดี จับตาปี 2560 ผลงานสดใส บุกตลาดยุโรปเต็มสูบ แถมยอดขายในประเทศติดลมบน หลังรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนออเดอร์แผ่นฟิล์ม BOPP แผ่นฟิล์ม BOPET แผ่นฟิล์ม BOPA เพื่อนำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ด้านอุปโภคและบริโภคเพิ่มขึ้น จ่อลงทุนเพิ่มสายการผลิต CPP เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น โบรกพิกัดต้าน 9 บาท (ทันหุ้น)
SEAFCOมือขึ้นคว้างาน105ล. เติมแบ็กล็อกพุ่ง-เป้า13.50บาท
+ SEAFCO มือขึ้น คว้างานใหม่เติมแบ็กล็อกไม่หยุด ล่าสุดรับงาน 4 โครงการรวด มูลค่า 105 ล้านบาท โบรกประเมินวัฎจักรขาขึ้นรอบใหม่ อานิสงส์กดปุ่มรถไฟฟ้า 3 สาย ส้ม ชมพู เหลือง คาดมีงานออกมาไม่ต่ำกว่า 3,000-7,000 ล้านบาท ในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้า แนะนำซื้อ เป้าหมาย 13.50 บาท (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์