- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 November 2016 15:54
- Hits: 2353
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ / ลบกรอบจำกัด
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์ / ลบแคบๆ (วานนี้ดัชนีฯ แกว่งลง ตามคาด) ฟันด์โฟลว์ยังอยู่ฝั่งขายท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นต่อผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พ.ย. ผนวกกับราคาน้ำมันสหรัฐฯ ลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึง 14.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ด้านผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อคืน ลงมติคงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.25-0.50% ซึ่งเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดการณ์ และเฟดส่งสัญญาณว่ามีโอกาสสูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. อย่างไรก็ดีเนื่องจากตัวเลขจ้างงานเอกชน ADP เดือน ต.ค. เมื่อคืนนี้ออกมาต่ำเพียง 1.47 แสนคน (ตลาดคาด +1.65 แสนคน) ตลาดการเงินจะติดตามตัวเลขจ้างงานรวมในวันที่ 4 พ.ย. อีกครั้งเพื่อประเมินทิศทางของเฟด ด้านปัจจัยภายในประเทศ เหตุก่อความไม่สงบ 8 จุดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อคืน และบางส่วนของ จ.สงขลา น่าจะมีผลลบเชิงจิตวิทยาบ้าง แต่ผลต่อดัชนีฯ โดยรวมจะจำกัด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร THAI*, TFG
THAI* (เป้าสูงสุดใน Consensus 32 บาท) 1) ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับฐานแรงต่อ (ล่าสุด WTI ลดลงแตะระดับ 45 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากระดับ 50 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ในเดือน ต.ค.) คาดเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ที่เป็น High season 2) แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 เบื้องต้นประเมินฟื้นตัวดีขึ้น (มีโอกาสที่จะไม่ขาดทุน) จากไตรมาส 3/58 ที่ขาดทุนราว -9.9 พันล้านบาท ... และคาดหลังการประกาศงบฯ Trialing PE จะลดลงต่ำกว่า 10 เท่าทันที จากปัจจุบันที่ EPS 4 ไตรมาสย้อนหลังรวมขาดทุนสุทธิ ทำให้ PE ติดลบ 3) แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาหุ้นปรับลงทดสอบแนวรับ 27 บาท ประเมินรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 28 - 29 บาท และเป้าหมายที่ 32 บาท (สำหรับนักเก็งกำไรสั้นแนะนำ Stop loss 25.5 บาท)
TFG (เป้า Consensus 5.3 บาท) 1) หลังจากที่ดีดพ้นแนวต้านเทรนไลน์ขาลงได้ เริ่มแกว่งตัวออกข้างรอสัญญาณการ Breakout แนวต้าน 4.96 บาท หากทะลุผ่านได้แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้าน 5.4 บาท โดยมีแนวรับ 4.86, 4.82 บาท 2) Consensus คาดกำไรไตรมาส 3/59 เฉลี่ยที่ 523 ล้านบาท (Turnaround จากขาดทุน 263 ล้านบาทในไตรมาส 3/58 แต่ชะลอตัวเล็กน้อย QoQ) 3) จากข้อมูล Bloomberg consensus คาด PE ปีนี้ = ±14 เท่า เทียบกับ CPF* ที่มี PE ±18 เท่า ... โดยปกติหุ้นที่ผลการดำเนินงาน Turnaround อย่าง TFG ควรได้รับ PE ที่พรีเมี่ยมกว่า 4) ราคาเนื้อสัตว์ (หมู + ไก่) ยังทรงตัว ขณะที่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพด + กากถั่วเหลือง) ปรับตัวลงต่อเนื่อง ตามการปรับฐานของราคาน้ำมันในตลาดโลก เป็นบวกต่อแนวโน้มอัตรากำไรของธุรกิจฯ
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มโรงกลั่น (TOP*, BCP*) ที่เราแนะนำไปเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ประเด็นค่าการกลั่นฟื้นตัวแรงจากจุดต่ำสุดในต้นเดือน ต.ค. (4.69 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ) ล่าสุดอยู่ที่ ±8 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรตามที่เราแนะนำก่อนหน้า อาจพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไร TOP* ที่แนวต้าน ±75 บาท (กรณีต่ำกว่า 72 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร”) และ BCP* ที่แนวต้าน 34 - 35 บาท (กรณีต่ำกว่า 32.75 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร”)
หุ้นรับโครงการรัฐฯ + มติ ครม ล่าสุด
1) ผู้รับเหมาโครงการรถไฟฟ้า / รถไฟรางคู่ (ตัวใหญ่ CK*, STEC* / ตัวเล็ก SEAFCO, PYLON / ม้ามืดลุ้น TRC, CNT) ผู้รับเหมาฯ ที่ยื่นซองฯรถไฟฟ้าสีส้มไปแล้วได้แก่ CK, STEC, ITD, UNIQ และ CNT (รอผลวันที่ 6 ม.ค.60) ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีชมพู – เหลือง กำหนดยื่นซองฯวันที่ 7 พ.ย.นี้ คาดผู้รับเหมาหลักจะยื่นซองฯ ขณะที่ม้ามืด TRC (ซื้อซองฯทั้ง 2 สาย) อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกยื่นซองฯ 1 สาย สำหรับรถไฟรางคู่คาดจะขายซองประมูล 1 เส้นทางภายในเดือน พ.ย.นี้ และคาดอีก 1 เส้นทางภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ ครม วานนี้อนุมัติลงทุนรถไฟรางคู่เพิ่มอีก 3 เส้นทาง ... แนะนำ “เก็งกำไร” CK*, SEAFCO และ TRC
2) หุ้นกลุ่มเหล็ก (BSBM, TMT) เราประเมินดีมานด์เหล็กในประเทศ (โดยเฉพาะเหล็กแท่ง) จะเพิ่มขึ้น เป็นบวกต่อปริมาณขายและแนวโน้มราคาเหล็กในประเทศ ... แนะนำ “เก็งกำไร” BSBM และ TMT
3) หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับระบบสายไฟ (CTW, DEMCO, ASEFA) จากมติ ครม ล่าสุด ให้ กฟภ. ดำเนินโครงการระบบสายส่งและจำหน่ายระยะที่ 1 (มูลค่าลงทุน 6.26 หมื่นล้านบาท) คาดเป็น Sentiment บวกมาที่หุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ CTW (จำหน่ายสายไฟ), DEMCO (งานรับเหมาฯ) และ ASEFA (ระบบไฟฟ้า)
หุ้นมีข่าว
(+) BDMS* ตั้งเป้าหมายรายได้ระดับ 1 แสนล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า (เดอะ เนชั่น) เราเห็นว่า เป้าหมายรายได้ของ BDMS ในช่วงปี 2561-62 ที่ระดับดังกล่าวมีความเป็นไปได้ โดยมีปัจจัยหนุนจาก i) การเข้าลงทุนในธุรกิจศูนย์สุขภาพครบวงจร (BDMS Wellness Clinic) เมื่อเร็วๆ นี้ ii) การขยายธุรกิจโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และ iii) การขยายธุรกิจยา (ผ่าน Medicpharma) ทั้งนี้ BDMS มีรายได้ที่ระดับ 6 หมื่นล้านบาทในปี 2558 และเราคาดการณ์รายได้ที่ระดับ 6.6 หมื่นล้านบาทในปี 2559 เรายังคงแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 25.50 บาท
(+) CHO ดึงบ.สิงคโปร์พัฒนารถเกราะล้อยาง (สยามรัฐ) ช ทวี จับมือ บริษัทชั้นนำใน Singapore ร่วมกันพัฒนารถเกราะล้อยางสะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบก ขับเคลื่อน 8x8 ตามคำสั่งซื้อของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน)
(+) 'บจ.เล็ก'คว้างานใหม่เติมแบ็คล็อก 'ซีฟโก้' มองตลาดเสาเข็มเจาะปีหน้าคึก (กรุงเทพธุรกิจ) ลุ้นรายได้ปีนี้แตะ2พันล้านตามเป้า 'เด็มโก้' คว้างานก่อสร้างโครงข่ายระบบสายส่งแรงสูง มูลค่า 404 ล้าน ขณะ 'ซีฟโก้' ได้งานใหม่เพิ่ม 4 งาน รวมมูลค่า 105 ล้าน ช่วยเพิ่มแบ็คล็อก จากปัจจุบันมีอยู่ 1.5 พันล้าน ดันรายได้รวมปีนี้ 2 พันล้าน ตามเป้าหมาย ผู้บริหารมองปีหน้าตลาด เสาเข็มเจาะคึกคัก
(+) DEMCO-ILINK-GUNKUL ชิงเค้กกฟภ.กว่า6หมื่นล. งานพัฒนาระบบส่ง-จำหน่ายไฟฟ้าเฟส 1 (ข่าวหุ้น) “DEMCO-ILINK-GUNKUL” ชิงเค้กกฟภ. วงเงิน 62,678 ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบส่ง-จำหน่ายไฟฟ้าเฟส1 ตั้งแต่ปี 59-64 โดย ILINK-DEMCO ประเดิมคว้างานกฟภ.ทันที ส่วน CTW-UWC-ASEFA ร่วมรับอานิสงส์รอคว้าออเดอร์งาน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TCMC (เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท) แนะนำ “สะสม” ราคาหุ้นวานนี้หลุดแนวรับ 4.90 บาท ที่เราประเมิน มีโอกาสย่อลงทดสอบแนวรับถัดไปที่ 4.86 บาท และ 4.70 บาท ... ประเมินเป็นหุ้นถูกด้วย PE ปีหน้า 9.1 เท่า และ PEG 0.68 เท่า (EPS โต 26.6% CAGR) ยังไม่รวมผลของ Synergy ที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อกิจการ DMM ที่ประเทศอังกฤษอีกหลายประเด็น โดยคาดกำไรจะเริ่มโตเด่นตั้งแต่ไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป (รวมงบ DMM และเป็น High season)
COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 12.5 บาท) สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ขายล๊อกกำไรหลังหลุด 12.7 บาท ตามที่เราแนะนำไว้แล้ว แนะนำ “ซื้อสะสมที่แนวรับ” 12.5 บาท และถัดไปที่ 12 บาท … คาดงบไตรมาส 3/59 โต YoY และทำนิวไฮในไตรมาส 4/59 + เริ่มจำหน่าย iPhone 7+ Apple เปิดตัว MacBook ตัวใหม่
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) ยืนเหนือแนวต้าน 10 บาทได้ แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 10 บาท
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield >12%)
SEAFCO (เป้า Consensus 13.7 บาท) ราคาหุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้านที่เราประเมินไว้ที่ 11.5 บาท แล้วย่อตัวลง สำหรับนักลงทุนที่ขายล๊อกกำไรไปแล้ว แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 11 บาท โดยประเมินแนวต้าน 11.5 – 11.8 บาท ... คาดการประมูลรถไฟฟ้า และ รถไฟรางคู่ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. นี้เป็น Catalyst บวกต่อราคาหุ้น
TPBI (เป้าสูงสุด Consensus 19.4 บาท) หากราคาหุ้นต่ำกว่า 16.2 บาท แนะนำ “ขายตัดขาดทุน” แต่หากยืนได้ แนะนำ “ถือ” ... คาดงบไตรมาส 3/59 โต YoY และ QoQ และโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/59 (High season)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TPCH แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 22 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 3/59 = 47 ล้านบาท (+795% YoY, -5.8% QoQ) และกำไรของบริษัทจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4/59 หลังกำลังการผลิตทยอยเพิ่มขึ้น
TVO แนะนำ “ถือ” เป้าหมายพื้นฐาน 31.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 3/59 = 881 ล้านบาท (+33.7% YoY และ +10.1% QoQ) จากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นตามราคาขายที่แข็งแกร่ง และฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯกำไรปีนี้ขึ้น สะท้อนงบ 2H59 ที่อาจจะดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า อย่างไรก็ดีแนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะกลางคาดจะยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น จึงแนะนำเพียงแค่ “ถือ”
MALEE* แนะนำ “ซื้อ” (Initiate Coverage) เป้าพื้นฐาน 132 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ MALEE จะมีการเติบโตแบบมีเสถียรภาพที่สุดในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และยังมีการรุกตลาดอาเซียนเพิ่มเติมอีก คาดกำไรโต 37% CAGR
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่นัยต้าน 1499 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1499 จุดนั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบ 1499-1515 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1499 จุดนั้น อาจรักษาแรงกดลงในกรอบ 1499-1477 จุด
แนวรับวันนี้: 1491/1479 แนวต้านวันนี้: 1499/1513
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]