- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 November 2016 16:07
- Hits: 1389
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ทะลุ 1,500 อีกครั้ง'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งจนมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดได้อีกครั้งโดยมีปัจจัยบวกได้แก่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดีกว่าคาด การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มถ่านหิน (BANPU +7% AGE +4% Lanna+2%) หลังจากราคาถ่านหินในตลาดโลกยังเดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง (+3%) หลังครม.อนุมัติเดินหน้ารถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทาง สำหรับกลุ่มอื่นๆที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมี (+2.5%) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (+1.6%) ปิดตลาดดัชนีเพิ่มขึ้น 1.28 จุด (+0.1%) ปิดที่ 1,504.52 จุด (+0.6%) ด้วยปริมาณซื้อขาย 54,663.78 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ราคาถ่านหิน(Newcastle) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 6.15% จากวันก่อนหน้ามาปิดที่ 114.75 US/Tons สูงสุดในรอบ 4 ปี
(+) PMI ภาคการผลิตสหรัฐ เดือน ต.ค. อยู่ที่ 51.9 ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 51.7
(+) ที่ประชุม ครม. วานนี้เห็นชอบให้ กฟภ. ลงทุนดำเนินโครงการระบบส่งและจำหน่าย ระยะ 1 วงเงิน 6.26 หมื่นลบ. และอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ 3 สาย วงเงิน 5.5 หมื่นลบ. (เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ)
(+) กกร. คาด GDP ปี59 ที่ 3.3-3.5% ส่วนปี 60 ขยายตัวสูงสุดได้ถึง 4%
(+) DEMCO ได้งานสร้างระบบสายส่งไฟฟ้า 115KV วงเงิน 404 ลบ. และ ILINK แจ้งได้งานสร้างสถานีไฟฟ้า 115-22KV วงเงิน 563 ลบ.
(-) วานนี้นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิในหุ้นไทยออกไปอีก 1.5 พันลบ. โดยขายสุทธิติดต่อกันมาแล้ว 7 วัน คิดเป็นมูลค่ารวม 8.5 พันลบ.
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 0.4%Day มาปิดที่ 46.67 US/Barrel หลังการประชุม OPEC+Non OPEC สัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่มีบทสรุป ทำให้ตลาดฯจับตาการประชุมรอบ 30 พ.ย. และรอดูตัวเลข Stock น้ำมันสหรัฐฯ
(-) ดัชนี DJIA ล่าสุดลดลงไป 105 จุด (-0.58%Day) จากความกังวลว่า FED อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ (คาดปรับขึ้นรอบ ธ.ค.59) อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนเรื่องผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.
(-) ธปท. เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ เดือน ต.ค. หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งปัจจุบันและในอนาคต มาอยู่ที่ 49.2 และ 53.4 ตามลำดับ
(+/-) ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงแรง โดย USD Index ปิด 97.735 (-0.6%Day) หลังคะแนนนิยมฮิลลารี่ และทรัมป์ เริ่มเข้าใกล้กันมากขึ้น
(+/-) วานนี้ BOJ ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% (เป็นไปตามคาด)
(+/-) ประกาศผลประกอบการล่าสุด ได้แก่ THREL กำไร 3Q59 -11%YoY
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การทยอยประกาศงบ 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียน
จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. 59
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วง 1-2 พ.ย. (ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ)
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ ดัชนีความเชื่อมั่นญี่ปุ่นเดือน ต.ค. (2 พ.ย), ตัวเลขการจ้างงาน ต.ค. ของสหรัฐ (4 พ.ย.), ประชุม ECB
(2 พ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน'ล็อคกำไรบางส่วน'
ประเมินดัชนีวันนี้จะซึมตัวลง จากความกังวลในผลโพลของการเลือกตั้งสหรัฐ หลังโดนัลล์ ทรัมป์ พลิกมาแซงนาง ฮิลลารี คลินตัน เรามองการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเหนือ 1,500 เป็นโอกาสให้ขายลดพอร์ต โดยเราลดน้ำหนักกลุ่มท่องเทียว พาณิชย์และบันเทิง ซึ่งคาดว่าจะได้ปัจจัยลบจากการใช้จ่ายที่ลดลงภายในประเทศในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะ เช่น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ,ราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้น,การลงทุนภาครัฐ
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BANPU เก็งกำไร
ราคาถ่านหิน BJI อยู่ที่ระดับ 114.75 $/ton ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงคาดการณ์การตึงตัวของตลาดถ่านหินจีน
คาดได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นในผลประกอบการปี 60
ต้นทุนในการทำเหมืองลดลงจากราคาน้ำมันดีเซลระดับต่ำ
CK เก็งกำไร
หลังเซ็นงานเพิ่มโครงการไซยะบุรีแล้วยังเตรียมรับงานต่อจาก BEM ในโครงการเดินรถสายสีน้ำเงิน
ช่วง 4Q59 คาดบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย CKP
ยื่นประมูลสายสีส้มแล้วทั้ง 6 สัญญา ส่วนสายสีเหลืองชมพู รอรับงานต่อจาก BEM ขณะที่รถไฟทางคู่พร้อมประมูลทุกเส้นทาง
ทีมวิเคราะห์